ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน ยอดขายรวม30,109คัน ลดลง65%

วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน ยอดขายรวม30,109คัน ลดลง65%


        นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนเมษายน 2563 มียอดการขายรวมทั้งสิ้น 30,109 คัน ลดลง 65% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 8,830 คัน ลดลง 74.7% รถเพื่อการพาณิชย์ 21,279 คัน ลดลง 58.4% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 16,733 คัน ลดลง 59.4%

ประเด็นสำคัญ

        ตลาดรถยนต์เดือนเมษายนมีปริมาณการขาย 30,109 คัน ลดลง 65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 74.7% และตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 58.4% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าการเติบโตในเดือนนี้ยังคงปรับลดลง ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ภาครัฐฯ ได้ออกมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด   ทำให้หน่วยงานต่างๆ ได้ออกมาตรการการทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) และผู้บริโภคมีความระมัดระวังการใช้จ่ายและชะลอการพิจารณาซื้อรถใหม่ รวมถึงความไม่แน่นอนในอนาคตส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเกิดการชะลอตัว และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์

        ส่วนตลาดรถยนต์สะสม 4 เดือน มีปริมาณการขาย 230,173 คัน  ลดลง 34.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 36.6% ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 32.6% เป็นผลมาจากเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและในระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์

        สำหรับเดือนพฤษภาคมทางภาครัฐฯ ได้มีการผ่อนปรนมาตรการปิดเมือง ปรับเวลาเคอร์ฟิว แต่ยังคงให้ประชาชนเฝ้าระวังการใช้ชีวิตตามมาตรการความปลอดภัยเพื่อช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ลดความตึงเครียดในการใช้ชีวิตของประชาชน ที่สำคัญหลายค่ายรถยนต์ได้กลับมาเปิดสายการผลิตอีกครั้ง ทำให้แนวโน้มตลาดรถยนต์ในเดือนพฤษภาคมมีทิศทางดีขึ้นจากเดือนเมษายน 

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนเมษายน 2563

1.     ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 30,109 คัน ลดลง 65%

อันดับที่ 1 โตโยต้า              11,084 คัน            ลดลง 58.9%        ส่วนแบ่งตลาด 36.8%

อันดับที่ 2 อีซูซุ                    6,865 คัน              ลดลง 55.4%        ส่วนแบ่งตลาด 22.8%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า               2,648 คัน              ลดลง 76.6%        ส่วนแบ่งตลาด  8.8%

2.            ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 8,830 คัน ลดลง 74.7%                                 

อันดับที่ 1 โตโยต้า              2,906 คัน              ลดลง 71.2%        ส่วนแบ่งตลาด 32.9%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า               2,229 คัน              ลดลง 74.1%        ส่วนแบ่งตลาด 25.2%

อันดับที่ 3 นิสสัน                1,072 คัน              ลดลง 56.9%        ส่วนแบ่งตลาด 12.1%

3.            ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 21,279 คัน ลดลง 58.4%                    

อันดับที่ 1 โตโยต้า              8,178 คัน              ลดลง 51.5%        ส่วนแบ่งตลาด 38.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ                    6,865 คัน              ลดลง 55.4%        ส่วนแบ่งตลาด 32.3%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด                 1,205 คัน              ลดลง 73.1%        ส่วนแบ่งตลาด  5.7%

4.            ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน*  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 16,733 คัน ลดลง 59.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า              7,019 คัน              ลดลง 53.1%        ส่วนแบ่งตลาด 41.9%

อันดับที่ 2 อีซูซุ                    6,267 คัน              ลดลง 56.0%        ส่วนแบ่งตลาด 37.5%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด                 1,205 คัน              ลดลง 73.1%        ส่วนแบ่งตลาด 7.2%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 1,575 คัน

โตโยต้า 753 คัน -  อีซูซุ 322 คัน - มิตซูบิชิ 219 คัน - ฟอร์ด 211 คัน - เชฟโรเลต 45 คัน - นิสสัน 25 คัน

5.            ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 15,158 คัน ลดลง 58.2%

อันดับที่ 1 โตโยต้า              6,266 คัน              ลดลง 52.2%        ส่วนแบ่งตลาด 41.3%

อันดับที่ 2 อีซูซุ                    5,945 คัน              ลดลง 55.0%        ส่วนแบ่งตลาด 39.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด                 994 คัน                  ลดลง 73.7%        ส่วนแบ่งตลาด  6.6%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – เมษายน 2563

1.            ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 230,173 คัน ลดลง 34.2%                           

อันดับที่ 1 โตโยต้า              67,245 คัน            ลดลง 40.6%        ส่วนแบ่งตลาด 29.2%

อันดับที่ 2 อีซูซุ                    49,263 คัน            ลดลง 18.3%        ส่วนแบ่งตลาด 21.4%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า               31,326 คัน            ลดลง 24.2%        ส่วนแบ่งตลาด 13.6%

2.            ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 87,215 คัน ลดลง 36.6%                                

อันดับที่ 1 ฮอนด้า               26,188 คัน            ลดลง 15.9%        ส่วนแบ่งตลาด 30.0%

อันดับที่ 2 โตโยต้า              21,567 คัน            ลดลง 47.4%        ส่วนแบ่งตลาด 24.7%

อันดับที่ 3 นิสสัน                9,763 คัน              ลดลง 27.3%        ส่วนแบ่งตลาด 11.2%

3.            ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 142,958 คัน ลดลง 32.6%                    

อันดับที่ 1 อีซูซุ                    49,263 คัน            ลดลง 18.3%        ส่วนแบ่งตลาด 34.5%

อันดับที่ 2 โตโยต้า              45,678 คัน            ลดลง 36.7%        ส่วนแบ่งตลาด 32.0%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ              11,031 คัน            ลดลง 37.0%        ส่วนแบ่งตลาด 7.7%

4.            ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 113,696 คัน ลดลง 34.6%

อันดับที่ 1 อีซูซุ                    45,887 คัน            ลดลง 17.8%        ส่วนแบ่งตลาด 40.4%

อันดับที่ 2 โตโยต้า              39,752 คัน            ลดลง 38.2%        ส่วนแบ่งตลาด 35.0%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ              11,031 คัน            ลดลง 37.0%        ส่วนแบ่งตลาด 9.7%

 

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 11,415 คัน

โตโยต้า 4,073 คัน – มิตซูบิชิ 2,845 คัน – อีซูซุ 2,085 คัน – ฟอร์ด 1,509 คัน – เชฟโรเลต 589 คัน –นิสสัน 314 คัน

5.            ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 102,281 คัน ลดลง 32.4%

อันดับที่ 1 อีซูซุ                    43,802 คัน            ลดลง 15.9%        ส่วนแบ่งตลาด 42.8%

อันดับที่ 2 โตโยต้า              35,679 คัน            ลดลง 34.9%        ส่วนแบ่งตลาด 34.9%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ              8,186 คัน              ลดลง 35.9%        ส่วนแบ่งตลาด 8.0%



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ