มายาราคาทองคำ เขย่าขวัญนักเก็งกำไร นักวิเคราะห์ทำนายอาจร่วงแตะ 800 ดอลล์

วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556

มายาราคาทองคำ เขย่าขวัญนักเก็งกำไร นักวิเคราะห์ทำนายอาจร่วงแตะ 800 ดอลล์


มายาราคาทองคำยังคงเริงระบำ เขย่าขวัญชาวโลกอย่างยากจะมีใคร หาญกล้าคาดเดาทิศทางการเคลื่อนไหวได้อย่างถูกต้องแม่นยำ

นับเนื่องจากวันจันทร์ที่ 15 เมษายน อันเป็นวันที่ระดับราคาทองคำทรุดตัวลงถึงเกือบร้อยละ 10 ซึ่งถือเป็นการอ่อนตัวอย่างรวดเร็วและรุนแรงที่สุดในรอบระยะเวลากว่า 30 ปีเป็นต้นมา ระดับราคาทองคำก็แกว่งตัวไปมาอยู่แถวๆออนซ์ละ 1,300-1,400 ดอลลาร์สหรัฐ

โอกาสที่จะเห็นระดับราคาทองคำไต่ระดับทะลุ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่จะวิ่งกลับขึ้นไปแถวๆ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐ ดูจะ "บอดสนิท" และไม่มีนักวิเคราะห์หน้าไหนกล้าพอที่จะพยากรณ์ทิศทางราคาทองคำไปในลักษณะนั้น

ในทางตรงกันข้ามนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะสังกัดค่ายใหญ่หรือค่ายเล็ก ล้วนทำนายแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาทองคำไปในทางแย่แล้ว...แย่อีกโดยไม่จำเป็นต้องนัดหมายกันล่วงหน้า

นักวิเคราะห์บางสำนักทำนายว่าอนาคตอันใกล้นี้ราคาทองคำมีโอกาสที่จะไหลลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 1,300 ดอลลาร์สหรัฐ

นักวิเคราะห์บางค่ายมองเลวร้ายหนักไปกว่านั้นอีก บอกว่าแนวโน้มที่ราคาทองคำจะย่อตัวลงไปเคลื่อนไหวอยู่แถวๆ 800 ดอลลาร์สหรัฐมีอยู่สูงมาก

เหตุปัจจัยที่โน้มน้าวให้นักวิเคราะห์บางส่วนพยากรณ์แนวโน้มราคาทองคำจะวูบทะลุหลัก 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ลงไปเตาะแตะแถวๆ 800 ดอลลาร์สหรัฐ มีเพียงประการเดียวคือต้นทุนการผลิตทองคำของบรรดาเหมืองทองคำส่วนใหญ่มีค่าเฉลี่ยอยู่แถวๆ นั้น

จับพลัดจับผลูเกิดคำพยากรณ์ที่ว่าเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา นั่นย่อมหมายถึงว่าราคาทองคำที่ซื้อขายกันอยู่ในบ้านเราก็จะอ่อนปวกเปียกลงมาเหลือแค่บาทละ 12,000 บาทเท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ "ดิ่งพสุธา" ของราคาทองคำที่กำลังเกิดขึ้น และมีทีท่าว่าจะยืดเยื้อเรื้อรังอีกหลายเดือน ได้ส่งผลกระทบทางลบที่รุนแรงต่อราคาหุ้นของบรรดาเหมืองทองคำทั่วโลก

ดัชนี FTSE Gold Mines Index ซึ่งสะท้อนชีพจรความเคลื่อนไหวเฉลี่ยของหุ้นเหมืองทองคำ 27 แห่งในโลก ที่จดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหุ้นลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้เกิดอาการอ่อนระทวยลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา กระทั่งทำให้ค่าของดัชนีตัวนี้หายวับไปแล้วถึงร้อยละ 50

ในทางกลับกันได้เกิดปฏิกิริยาทางบวก สวนทางการทรุดตัวลงของระดับราคาทองคำเกิดขึ้นกับบรรยากาศการซื้อขายทองคำอย่างกว้างขวางในหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองไทย และอินเดีย

ที่เมืองไทย อิทธิพลจากการอ่อนค่าลงของราคาทองคำ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ "ตื่นทอง" แพร่หลายในหลายพื้นที่

เฉพาะที่เยาวราช ซึ่งเป็นศูนย์กลางการซื้อขายทองคำ ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย บรรดานักตื่นทองได้แห่แหนไปแก่งแย่งกันซื้อทองคำอุตลุด เป็นเหตุให้ผู้ประกอบการค้าทองคำไม่สามารถจัดหาทองคำไปส่งมอบให้ได้ตามต้องการ และต้องออกเป็น "ตั๋วทอง" ให้ถือไว้แทนทองคำ

ที่อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่เป็นลูกค้านำเข้าทองคำรายใหญ่ของโลก ด้วยปริมาณเฉลี่ยสูงลิ่วถึงปีละ 860 ตัน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3 ของจีดีพี ก็ได้รับประโยชน์อย่างใหญ่หลวงจากการทรุดตัวลงของราคาทองคำ

ประโยชน์ประการแรก คือความเสี่ยงของเสถียรภาพ ทางเศรษฐกิจลดระดับลง เนื่องจากระดับราคาทองคำที่ต่ำลง ไปมีผลฉุดให้แนวโน้มตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดซึ่งทรงตัวอยู่ในระดับที่น่าวิตกกังวลถึงร้อยละ 6.7 ของจีดีพี พลอยอ่อนตัวลงตามไปด้วย

ประโยชน์ประการที่สอง คือต้นทุนค่าสินสอดสำหรับคู่หนุ่มสาวชาวอินเดีย ลดต่ำลงตามราคาทองคำที่ถูกลง

จังหวะเวลานี้ต้องถือเป็นโอกาสทอง...นาทีทองสำหรับคนมีคู่ ที่จะต้องชิงลงมือซื้อทองคำไปจัดการแต่งงานซะให้เรียบร้อยโดยไว

ขืนมัวโอ้เอ้ชักช้า เดี๋ยวทองคำดีดตัวพุ่งพรวดพราดขึ้นมาแบบปัจจุบันทันด่วน ก็จะวืดซะเปล่าๆ


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ