ถึงเวลาเกลี่ยแชร์ เสียเหงื่อ 4 พันล้านสะดุ้ง

วันพฤหัสบดีที่ 06 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ถึงเวลาเกลี่ยแชร์ เสียเหงื่อ 4 พันล้านสะดุ้ง


ตลาดเกลือแร่ 4.2 พันล้านแนวโน้มรุ่ง ยอดโตแรงกว่า 20% ขณะที่ผู้เล่นยังมีน้อย ระบุ "สปอนเซอร์" กินรวบถึง 80% เผยเทรนด์นักกีฬามาแรง สร้างโอกาสเกิดให้หน้าใหม่ "ซินเนอร์จี้" ต่อยอดเกลือแร่ผง ลงสนามขวดใหญ่ราคาย่อม "สิงห์" สบช่อง ส่ง "ซันโว" ชิงตำแหน่งขวัญใจแรงงาน ขอแชร์ 20% ปีนี้
ดูหมือนว่าตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ในปีนี้จะมีความคึกคัก และมีสีสันมากขึ้น เมื่อค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง "สิงห์" กระโจนเข้ามาในสมรภูมิดังกล่าว เนื่องจากเป็นตลาดที่มีผู้เล่นเพียงน้อยราย ทำให้เจ้าตลาดอย่าง "สปอนเซอร์" แทบจะผูกขาดตลาดกันเลยทีเดียว เพราะมีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 80% จากตลาดรวมเครื่องดื่มเกลือแร่ที่มีมูลค่าประมาณ 4,200 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตสูงถึง 21% ในปีที่ผ่านมา
ด้วยการเติบโตสูง จึงนับว่าเป็นตลาดที่มีความ น่าสนใจและมีโอกาสในการทำตลาดค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับตลาดเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นชาเขียวพร้อมดื่มที่การแข่งขันค่อนข้างรุนแรง แทบจะไม่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นรายอื่นแทรก หรือเบียด ตลาดเข้ามาเลย เพราะทั้ง 2 แบรนด์ คือ โออิชิ และอิชิตัน ต่างก็ผลัดกันรุกผลัดกันรับอยู่เพียง 2 แบรนด์ จนทำให้แบรนด์ที่เหลือแทบจะไม่มีที่ยืนในตลาด หากไม่มีการปรับกลยุทธ์ หรือตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจน ก็คงไม่แคล้วที่จะหายไปจากตลาดอย่างไม่ต้องสงสัย
+ 3 เจ้าเกลือแร่กินนิ่งมานาน
การก้าวเข้ามาในตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ของ "สิงห์" จึงกลายเป็นเรื่องที่ถูกจังหวะ และมีโอกาสในการแย่งส่วนแบ่งจากผู้เล่นรายอื่นในตลาดมาครอง ด้วยเวลานี้ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่มีผู้เล่นหลักๆ อยู่เพียง 3 รายเท่านั้น คือ "สปอนเซอร์" ซึ่งเป็นของ ค่ายกระทิงแดง ครองส่วนแบ่ง 80% "เอ็มสปอร์ต" ของค่ายโอสถสภา 15% ที่เหลือเป็นของแบรนด์อื่นๆ อาทิ "เกเตอเรต" โดยการทำตลาดจะหนีไม่พ้นการเข้าไปเป็นผู้สนับ สนุนกีฬาต่างๆ โดยเฉพาะฟุตบอล เนื่องจากเป็นกีฬาที่สูญเสียเหงื่อได้ง่าย ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนกว่ากีฬาประเภทอื่น
หากเปรียบเทียบกับเครื่องดื่มประเภทอื่น ในแง่ของการทำตลาดของเครื่องดื่มเกลือแร่ถือว่า มีความหวือหวาน้อยที่สุด หรือแทบจะไม่มีความคึกคักเลย ด้วยข้อจำกัดของตัวเครื่องดื่มที่ไม่ได้เป็นเครื่องดื่มทั่วไปที่จะเลือกดื่มเมื่อใดก็ได้ แต่เน้นการชดเชยแร่ธาตุและพลังงานที่สูญเสียไปกับเหงื่อและการออกกำลัง ทำให้ผู้บริโภคทั่วไปไม่เห็นความจำเป็นในการดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่
แต่นอกจาก 3 แบรนด์ใหญ่ในตลาด ในปีที่ผ่านมาก็ได้มีน้องใหม่ นั่นคือ แบรนด์ "ซินเนอร์จี้" เข้ามาร่วมแจม แม้จะถือว่าเป็นหน้าใหม่ในตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ชนิดน้ำ แต่ก่อนหน้านี้ซินเนอร์จี้เป็นขาใหญ่ในตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ชนิดผง ภายใต้แบรนด์ "รอแยล-ดี" อยู่ในตลาดมานานกว่า 28 ปี โดยครองส่วนแบ่งกว่า 70% จากตลาดรวมเครื่องดื่มเกลือแร่ชนิดผง ที่มีมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
+ ซินเนอร์จี้เอาใจคนชอบเยอะ
นายพงษ์ธร วงศ์วัชรไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เครื่องดื่มซินเนอร์จี้ จำกัด กล่าวว่า ที่เข้ามา ในตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ชนิดน้ำ เป็นเพราะมีผู้เล่นน้อยราย และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 10-15% ประกอบกับบ้านเราอยู่ในเขตร้อน ทำให้เสียเหงื่อได้ง่าย และปัจจุบันคนหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ และออกกำลังกายเป็นประจำมากขึ้น เครื่องดื่มเกลือแร่จึงกลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภคในการชดเชยแร่ธาตุ และพลังงานที่สูญเสียไปกับเหงื่อและการออกกำลัง
นอกจากนี้ เป็นเพราะคุณพ่อทำธุรกิจเครื่องดื่มเกลือแร่ชนิดผง "รอแยล-ดี" มากว่า 28 ปี และครองส่วนแบ่งกว่า 70% จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเกลือแร่ ชนิดน้ำ กลิ่นผลไม้รวม ภายใต้แบรนด์ "ซินเนอร์จี้" เข้าสู่ตลาด เมื่อเดือนเมษายน 2555 โดยบรรจุในขวดเพ็ต ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาให้จับสะดวก วางจำหน่ายตามโมเดิร์นเทรด สถานที่ออกกำลังกาย สนามกีฬา และร้านค้าทั่วไป
สำหรับจุดเด่นของซินเนอร์จี้ คือ รสชาติ ปริมาณเกลือแร่ และกลูโคสที่เหมาะสม ตั้งราคาจำหน่ายเพียงขวดละ 15 บาท ขนาด 390 มิลลิลิตร ซึ่งถือว่าถูกกว่าคู่แข่งที่จำหน่ายในราคาขวดละ 25 บาท มีปริมาณเพียง 250 มิลลิลิตร ข้อได้เปรียบอีกอย่างก็คือ มีโรงงานผลิตสินค้าเป็นของตนเอง
+ หมัดเด็ดบัวขาวปั้นดาวซันโว
ขณะที่นายภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการบริหาร และผู้อำนวยการสายการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์นอน-แอลกอฮอล์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า "ซันโว" ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องดื่มเกลือแร่รายล่าสุด ที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งจากภาพรวมธุรกิจของบริษัท ซึ่งเดิมมีเพียงสาหร่ายมาชิตะ ข้าวพันดี น้ำดื่มสิงห์ โซดาสิงห์ และบีอิ้ง
สำหรับซันโวจะมีให้เลือก 2 รสชาติ คือ รสมิกซ์ฟรุต และรสมิกซ์เบอร์รี่ ผลิตจากน้ำแร่ธรรม-ชาติ ในขนาด 250 มิลลิลิตร ราคาขวดละ 10 บาท มุ่งเจาะกลุ่มผู้ใช้แรงงาน 70% และกลุ่มที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย 30% โดยเลือก "บัวขาว-สมบัติ บัญชาเมฆ" มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ภายใต้สโลแกน "เครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว ซันโวทุกโอกาส" เพื่อสื่อถึงความเป็นเครื่องดื่มเกลือแร่ และเข้าถึงผู้บริโภคได้หลายกลุ่ม
ทั้งนี้ จะใช้งบการทำตลาดกว่า 150 ล้านบาท ในการเปิดตัว "ซันโว" ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออินเตอร์เน็ต การทำแบรนด์ แอกทิเวชั่น การทำโรดโชว์ และการแจกสินค้าทดลองให้ดื่มกว่า 2 ล้านขวดทั่วประเทศ เพื่อให้กลุ่มผู้บริโภคได้ทดลองชิม หลังจากที่ได้ทดลองวางจำหน่ายไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผ่านช่องทางเทรดดิชันนัลเทรด 70% และโมเดิร์น เทรด 30% โดยใช้ช่องทางเดียวกับกลุ่มเบียร์ และยังได้เพิ่มหน่วยรถกระจายสินค้ากว่า 200 คัน สำหรับส่งสินค้าภายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถจำหน่ายได้กว่า 9 ล้านลิตรภายใน 6 เดือนหลังจากนี้ โดยภายในสิ้นปีนี้ได้วางเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดไว้ที่ 15-20% และจะทำให้รายได้ของกลุ่มนอน-แอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นเป็น 30% ในอีก 3 ปีข้างหน้า
กล่าวได้ว่า แม้จะเป็นเครื่องดื่มเฉพาะกลุ่มแต่เกลือแร่ก็เป็นตลาดที่เติบโตสูง และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ตามกระแสการออกกำลังกายและจำนวนนักกีฬามืออาชีพและมือสมัครเล่นในเมืองไทยที่เพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญ เมื่อรายใหญ่ลงสนาม คาดว่าจะสร้างความปั่นป่วนให้เจ้าตลาดได้ไม่น้อย ส่งผลถึงการแข่งขันที่จะเข้มข้นขึ้นอย่างแน่นอน


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ