ห้วงเวลานี้สินค้าหลากหลายรายการ และทรัพย์สินบางประเภทต่างพากันพาเหรดลดราคากันลงมาแบบหัวทิ่มหัวตำ ตามการอ่อนตัวของความต้องการในท้องตลาด

ราคาบ้านในฮ่องกงที่เคยดีดตัวเพิ่มค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้ มาถึงตอนนี้ก็ทิ้งดิ่งพสุธาลงมาอย่างแรง แถมยังมีแนวโน้มที่จะลงราคาต่อเนื่องไปอีก

บริษัท แซนฟอร์ด ซี.เบิร์นสไตน์ แห่งฮ่องกง ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงบอกว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกง มีแนวโน้มที่จะตกต่ำลงถึงร้อยละ 25 ในอนาคตอันใกล้นี้

ทำนองเดียวกันธนาคารดอยซ์แบงก์ ในฮ่องกงก็ประเมินทิศทางราคาอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงไปในทางเดียวกัน แต่ไม่เลวร้ายเท่ากับการประเมินของ สำนักแซนฟอร์ด ซี. เบิร์นสไตน์

ในมุมมองของธนาคารดอยซ์แบงก์ สัญชาติเยอรมนีในฮ่องกง คาดการณ์ว่าระดับราคาอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงมีความโน้มเอียงที่จะลดต่ำลงร้อยละ 20 ภายในระยะเวลา 2 ปี

เหตุปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทุบราคาอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงให้อ่อนยวบลงมาคือความกังวลของทางการต่อความเคลื่อนไหวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจาก ทางการฮ่องกงหวั่นเกรงว่า "ฟองสบู่" ในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อาจระเบิดรุนแรง หากไม่ลงมือหยุดความเฟื่องฟูลงแต่เนิ่นๆ

มาตรการที่ทางการฮ่องกงงัดออกมาใช้เป็นเครื่องมือหยุดความฟูฟ่องของฟองสบู่ในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยถือฤกษ์ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีอยู่ด้วยกัน 3 ประการ

ประการแรก คือ ขยับค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจากเดิม 2 เท่าตัว

ประการที่สอง คือ กำหนดอัตราขั้นต่ำของเงินดาวน์ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้ที่ร้อยละ 15 ของราคา ซึ่งเป็นการจำกัดวงเงินสินเชื่อเพื่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้ไม่เกินร้อยละ 85

ประการที่สาม คือ การขยับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาเกินกว่า 2 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 8 ล้านบาท

ความพยายามหยุดความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ของทางการฮ่องกง กดดันให้บรรดาผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องดิ้นรนปรับตัวกันขนานใหญ่

ค่ายเฉิงกงโฮลดิ้ง ของเจ้าสัวลี กา ชิง ที่ได้รับยกย่องให้เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของฮ่องกง ซึ่งถือเป็นยักษ์ใหญ่หมายเลข 1 ในภาคธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกง กัดฟันหั่นราคาขายอสังหาริมทรัพย์ในสังกัดลงทันทีร้อยละ 10 พร้อมกับปรับกลยุทธ์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยหันไปเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยขนาดเล็ก ราคาถูก เพื่อกระตุ้นยอดขาย

เมื่อ "เบอร์ 1" อย่างค่ายเฉิงกงโฮลดิ้งทุบราคาขาย และหันไปทำบ้านไซส์เล็ก ราคาถูก ย่อมเป็นธรรมดาที่บรรดาค่ายเล็กค่ายน้อยที่เป็นผู้ตาม จะต้องปรับกลยุทธ์การทำมาหากินไปในทิศทางเดียวกันอย่างยากจะหลีกเลี่ยงเป็นอย่างอื่น

คู่ขนานกับราคาบ้านในฮ่องกงที่ส่อแววสาละวันเตี้ยลง ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน รวมทั้งราคากาแฟในตลาดโลกก็ดูจะมีจังหวะการเคลื่อนไหวไปในท่วงทำนองเดียวกัน

ค่ายโกลด์แมนแซคส์กรุ๊ปอิงค์แห่งสหรัฐอเมริกา ออกรายงานการพยากรณ์ทิศทางแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายรายการ โดยระบุว่าราคาทองคำมีแนวโน้ม อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงระยะเวลา 12 เดือนนี้

ชีพจรการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในมุมมองของโกลด์แมนแซคส์ จะทรงตัวอยู่แถวๆ 1,530 ดอลลาร์ สหรัฐต่อออนซ์ ในระยะเวลา 3 เดือน แล้วทรุดตัวลงไปเคลื่อนไหวแถวๆ 1,490 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ สำหรับระยะเวลา 6 เดือน และอ่อนตัวลงไปเคลื่อนไหวแถวๆ 1,390 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ สำหรับระยะเวลา 12 เดือน

สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบในมุมมองของโกลด์แมนแซคส์ คาดหมายว่าค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันดิบในรอบปีนี้จะอยู่ที่บาร์เรลละ 105 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ราคาเฉลี่ยของเมล็ดกาแฟในปีนี้จะอยู่ที่ปอนด์ละ 1.45 ดอลลาร์สหรัฐ

ตัวการสำคัญที่ทุบราคาสินค้าให้อ่อนตัวลง คือสุขภาพพลานามัยของเศรษฐกิจจีนและสหภาพยุโรป ที่ทรุดโทรมลงหนักกว่าที่เคยคาดหมายไว้ก่อนหน้านี้