“เดอะมอลล์ กรุ๊ป” จี้ รัฐควร ‘กู้เงิน’ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ช่วยธุรกิจขนาดเล็ก แนะฟื้น ‘โครงการชิมช้อปใช้’ ลดภาระการใช้จ่ายประชาชน วอนปรับเวลาเคอร์ฟิวใหม่ให้ร้านค้าขายอาหารได้ยาวขึ้น กระตุ้นเงินหมุนเวียนภายในประเทศ

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

“เดอะมอลล์ กรุ๊ป” จี้ รัฐควร ‘กู้เงิน’ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ช่วยธุรกิจขนาดเล็ก  แนะฟื้น ‘โครงการชิมช้อปใช้’ ลดภาระการใช้จ่ายประชาชน วอนปรับเวลาเคอร์ฟิวใหม่ให้ร้านค้าขายอาหารได้ยาวขึ้น กระตุ้นเงินหมุนเวียนภายในประเทศ


กลุ่มห้างเดอะมอลล์ กรุ๊ปจัดใหญ่เตรียมความพร้อมและจำลองการเปิดให้บริการศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้ารวม 100 กว่ามาตรการตอบรับวิถีชีวิต “NEW NORMAL”  สู้ไวรัสโควิด-19 เต็มกำลังเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและความอยู่รอดของผู้ประกอบการ พร้อมเผยเหตุปิดห้างเกือบ 2 เดือนกระทบรายได้ของบริษัทลดลงถึง 80 %

นายเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดิ เอ็มโพเรี่ยม กรุ๊ป และกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ได้กล่าวถึงภาพรวมของวงการค้าปลีกปีนี้ว่า “ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ธุรกิจค้าปลีกเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จนถึงปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกมีการชะลอตัวทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป และอเมริกาที่มีการระบาดอย่างหนักของโรคโควิด-19  โดยสหภาพยุโรปคาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปใน ปี 2563 จะติดลบที่ 1.1% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 1.4% ในขณะที่ ยอดค้าปลีกใน สหรัฐอเมริกา และจีน ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ที่ผ่านมา ลดลงอย่างต่อเนื่องกว่า 20-25% และในขณะที่สถานการณ์ธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย จากข้อมูลของศูนย์ ECONOMIC INTELLIGENCE CENTER (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ วิเคราะห์ว่า ตลาดค้าปลีก 2563 จะหดตัวราว 14% หรือคิดเป็นเม็ดเงินที่หายไปราว 5 แสนล้านบาท จากมูลค่าตลาดค้าปลีกปี 2562 ที่อยู่ราว 3.5 ล้านล้านบาท  โดยมีผลกระทบจาก 3 ปัจจัยหลักๆ คือ จำนวนนักท่องเที่ยวที่หดตัวลง, กำลังซื้อที่ลดลง และสต๊อกสินค้าที่ขาดแคลน อาทิ สินค้านำเข้าจากจีน และกำลังการผลิตที่หดตัวลง เป็นต้น

และถึงแม้สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลให้อัตราการเติบโตช่องทางออนไลน์ทั่วโลกโตเพิ่มสูงขึ้นมากโดยจากข้อมูลจำนวนแอพสโตร์ราว 6 ล้านแอปทั่วโลกเติบโตพุ่งในระยะเวลาเพียง 2 เดือนที่ผ่านมาราว 8 พันล้านเหรียญยูเอสดอลล่าห์ แต่อย่างไรก็ตาม เราในฐานะธุรกิจค้าปลีกก็ยังอยากให้มูลค่าตลาดรีเทลกลับมาเติบโตได้เหมือนทุก ๆปีที่ผ่านมา โดยแน่นอนจากสถานการณ์ขณะนี้ส่งผลให้บริษัทมีความกังวลในปัญหาเศรษฐกิจและเสภียรภาพของประเทศไทยอย่างแน่นอน เพราะเนื่องจากการปิดประเทศในช่วงระยะเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมาก็ส่งผลให้เศรษฐกิจทุกอย่างหยุดชะงักตามไปด้วย

ดังนั้น ถ้าหากให้เราแนะรัฐบาลเราก็อยากให้ทางรัฐกู้เงินเพิ่มอีกราว 3-4 ล้านล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจช่วยเหลือ โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอมอีหรือร้านค้าเล็กๆทั่วไปด้วยการเสริมสภาพคล่องแบบให้โดยไม่มีเงื่อนไขอย่างน้อยรายละ 10,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลาอย่างน้อย 2 เดือน และนำมาตรการชิมช้อปใช้มาใช้อีกเพื่อช่วยลดภาระการใช้จ่ายของผู้บริโภค อีกทั้งอยากให้ปรับเวลาเคอร์ฟิวใหม่ เป็นตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงตี 4 เพราะช่วงเย็นถึงหัวค่ำจะเป็นช่วงเวลาอาหารมื้อหนัก ซึ่งจะช่วยให้ร้านค้าหรือร้านอาหารที่เปิดให้บริการช่วงเย็นสามารถค้าขายได้นานมากขึ้น ล่าสุด ทางห้างในเครือเดอะมอลล์กรุ๊ปทั้งหมด เราได้มีการเตรียมความพร้อมและจำลองการเปิดให้บริการศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในเครือ ตามมาตรการปลดล็อกดาวน์ของภาครัฐ ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดสู้ โควิด-19 ครอบคลุมทุกมิติรวม 100 มาตรการ

ด้าน วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทได้คิดค้นและพัฒนามาตรการต่างๆ เพื่อให้สอดรับกับ NEW NORMAL ที่จะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด เราจึงได้เตรียมความพร้อมแบบรัดกุมและรอบด้านเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและภาครัฐว่าห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าในกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ทุกสาขา มีความสะอาดและปลอดภัยด้วยมาตรการความปลอดภัยและสุขอนามัยเชิงรุกขั้นสูงสุด แบบครอบคลุมทุกมิติ ซึ่งประกอบด้วย 5 มาตรการหลัก 34 มาตรการย่อย สำหรับลูกค้า และ 6 มาตรการเสริม 66 มาตรการย่อย สำหรับ 5 กลุ่มธุรกิจ รวม 100 มาตรการ อาทิ มาตรการตรวจคัดกรอง มาตรการจำกัดจำนวนคนต่อพื้นที่ มาตรการสังคมไร้สัมผัส และมาตรการเฝ้าระวังติดตาม ซึ่งผู้มาใช้บริการจะต้องลงทะเบียนผ่านจุดบริการหรือแอปพลิเคชั่นก่อนเข้าพื้นที่ และสำหรับกลุ่มธุรกิจที่ให้บริการภายในศูนย์การค้า อาทิ พนักงานต้องแสดงใบรับรองแพทย์ก่อนกลับมาปฏิบัติงาน การทำความสะอาดทุก 1 ชั่วโมง และ Big Cleaning อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ต้องมีระบบการจองคิวล่วงหน้าและเรียกรับบริการผ่านแอปพลิเคชั่น เพื่อเลี่ยงการรอหน้าร้าน เป็นต้น อีกทั้ง เพื่อลดความแออัด จึงขอให้ผู้ที่จะมาใช้บริการภายในห้างสรรพสินค้าในเครือทำการลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ หรือจุดลงทะเบียนที่เตรียมไว้ และใช้บริการในห้างไม่เกินหรือเฉลี่ยคนละ 2 ชั่วโมง.

ทั้งนี้ เราต้อมยอมรับเลยว่าหลังจากที่ได้ทำการปิดห้างไปเกือบ 2 เดือน รายได้เราหายไปเกือบ 80 % ซึ่งปีนี้เราไม่สามารถคาดการณ์ยอดรายได้รวมสิ้นปีได้เลยว่าจะอย่างไร แต่ถ้ามองว่าให้ได้ตามเป้าคงจะเป็นไปได้ยาก แต่ตอนนี้เราเพียงคาดการณ์ว่าหากห้างสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง มองว่าลูกค้าจะยังไม่กลับมาเป็นปกติในช่วงแรกอาจจะหายไป 30-40% เมื่อเทียบกับช่วงปกติ เนื่องจากต้องการรอดูสถานการณ์ให้แน่ชัดก่อน โดยมองว่าหลังจากนี้ลูกค้าจะมีพฤติกรรมที่อยู่ 2 กลุ่ม คือ 1.คนที่อึดอัดที่อยากมาเดินเที่ยวเล่นห้างฯ ก็จะรีบมา  กับ 2. คนที่ยังไม่รีบสามารถรอได้ขอดูสถานการณ์ก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่เราคาดว่าแม้จะมีลูกค้าเดินเข้ามาใช้บริการในห้างสรรพสินค้า แต่การรูปแบบใช้จ่ายจะไม่เหมือนเดิมจะคำนึงเน้นซื้อสิ่งที่จำเป็นมากขึ้นอันเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยขณะนี้ด้วย 

***********************************************************

สำหรับรายระเอียด 5 มาตรการหลัก 34 มาตรการย่อย สำหรับลูกค้า และ 6 มาตรการเสริม 66 มาตรการย่อย สำหรับ 5 กลุ่มธุรกิจ รวม 100 มาตรการ เข้มข้นตั้งแต่เข้าศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า  ประกอบด้วย

•TOUCHLESS FACILITIES หรือบริการไร้การสัมผัส โดยเดอะมอลล์ พร้อมให้บริการ

เพื่ออำนวยความสะดวกด้วยมิติใหม่ของบริการแบบไร้การสัมผัส อาทิ TOUCHLESS PARKING การสแกนเพื่อจอดรถผ่านแอพลิเคชั่นแบบไม่ต้องรับบัตร, WORRY-FREE WAITING AREAในห้างสรรพสินค้า, บริการกดลิฟท์ทุกตัวให้กับลูกค้าโดยลูกค้าไม่ต้องสัมผัสลิฟท์เอง, จัดพนักงานบริการเปิด – ปิดประตูศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า ฯลฯ

บริการช้อปปิ้งแบบไร้เงินสด หรือ TOUCHLESS PAYMENT การสัมผัสธนบัตรเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่อาจมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิด โอกาสติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ โดยองค์การอนามัยโลกได้ออกประกาศให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการหยิบจับสัมผัสธนบัตรและเหรียญเพื่อใช้ซื้อสินค้าและบริการในช่วงที่มีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากธนบัตรและเหรียญถูกเปลี่ยนมือไปอย่างรวดเร็วและอาจมีเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียติดอยู่เป็นเวลานาน และในช่วงนี้ทางเดอะมอลล์ กรุ๊ป จึงมีการรณรงค์ให้ลูกค้าเปลี่ยนเป็นการใช้จ่ายแบบออนไลน์แทน TOUCHLESS PAYMENT จึงเป็น ระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัส เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในสภาวะที่ผู้คนนั้นมีความระมัดระวังมากขึ้นในการสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ  โดยการชำระเงินแบบไร้สัมผัสนี้จะใช้เทคโนโลยีแบบไร้สายในพิกัดสั้นเพื่อทำการชำระเงินอย่างปลอดภัย ผ่านหลายช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่

1.จ่ายผ่าน APPLICATION ของธนาคาร ผ่าน PROMPTPAY หรือ QR-CODE เพียงมีบัญชีเงินฝากใน ธนาคาร  หรือ บัตรเครดิต ของธนาคาร  ก็สามารถสมัครบริการ MOBILE BANKING ของธนาคารนั้นๆ เพื่อใช้งาน โดยสามารถเลือกจ่ายเงินผ่าน QR PROMPTPAY ซึ่งหักค่าใช้จ่ายจากบัญชีเงินฝากที่ผูกไว้ หรือชำระผ่าน QR CREDIT CARD ซึ่งหักค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ผูกไว้กับ APPLICATION ของธนาคารนั้น

2.จ่ายผ่าน TAP & GO ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกจ่ายผ่าน TAP & GO ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต รวมถึงมือถือบางแบรนด์ เช่น SAMSUNG มีบริการ SAMSUNG PAY ซึ่งเป็นบริการจ่ายเงินผ่านมือถือ สมาร์ทโฟน โดยการผูกบัตรเครดิต แล้วนำมือถือไป “แตะ” กับเครื่องรูดบัตรที่ร้านค้ารับชำระค่าสินค้า/บริการ

3.บริการ E-WALLET หรือกระเป๋าเงินออนไลน์สามารถเติมเงินเข้าสู่กระเป๋าสตางค์ออนไลน์ เพื่อนำเงินที่โอนมาใช้ชำระค่าสินค้า/บริการผ่านบนมือถือได้ เช่น APPLICATION TRUEMONEY WALLET และ RABBIT LINE PAY โดยลูกค้าสามารถเติมเงิน (TOP UP) เข้ากระเป๋า E-WALLET ได้ด้วยวิธีการต่างๆ จากบัญชีธนาคาร เงินสด รวมทั้งบัตรเครดิต/เดบิตต่างๆที่ผูกบริการไว้

4.บริการชำระผ่าน APPLICATION รองรับนักท่องเที่ยวชาวจีน สามารถรับชำระเงิน ผ่าน ALIPAY , WECHAT PAY ,  UNIONPAY APPLICATION

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับมาตรการคัดกรองเข้มงวดโดยการลงทะเบียนก่อนเข้าพื้นที่ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า  ลูกค้าทุกคนจะมีการ (CHECK IN-OUT) เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังในด้านความปลอดภัยทุกคนที่จะเข้าห้างฯ และศูนย์ฯในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป ทั้งหมดต้องลงทะเบียนและให้ข้อมูลส่วนตัวซึ่งเปรียบเสมือนประตูด่านแรกที่สำคัญในการคัดกรองในเบื้องต้นและสามารถติดตามได้ในกรณีที่มีความจำเป็น โดยลูกค้าผู้ลงทะเบียนมีทางเลือก 3 ช่องทาง ได้แก่

1. ผ่านแอปพลิเคชัน M CARD ซึ่งสามารถทำได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และสามารถลงทะเบียนล่วงหน้า (PRE-REGISTRATION) จากที่บ้านได้ ซึ่งจะช่วยลดการเข้าคิวของจุดคัดกรองบริเวณทางเข้าห้างฯได้ หรือผ่านแอปพลิเคชัน EM AR สามารถทำได้สะดวก รวดเร็ว โดยกดปุ่ม EM CHECK IN เพื่อลงทะเบียนผ่านระบบได้ทันที (เฉพาะที่ ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์)

2.ผ่าน QR CODE หรือ LINE @THE MALL GROUP สามารถสแกน QR CODE และลงทะเบียนผ่านระบบได้ทันที

3.ลงทะเบียน ยื่นบัตรประชาชน พร้อมให้ข้อมูลที่จำเป็นกับเจ้าหน้าที่ อาทิ ชื่อและเบอร์ติดต่อ หรือที่พักใน PASSPORT ในกรณีที่เป็นชาวต่างชาติและนอกจากมาตรการสังคมไร้สัมผัส (TOUCHLESS SOCIETY) และมาตรการคัดกรองเข้มงวด (INTENSIVE SCREENING) แล้ว เดอะมอลล์ กรุ๊ป ยังให้ความสำคัญกับมาตรการความปลอดภัยด้านอื่นๆ ด้วย ได้แก่

-มาตรการลดความแออัด (PHYSICAL DISTANCING) คือ ขั้นตอนการจัดการและจัดระเบียบพื้นที่ทั้งในห้างฯ, ศูนย์ฯ และร้านค้าทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด มีการเว้นระยะห่างทางสังคมในทุกพื้นที่ รวมถึง จัดพื้นที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ากลุ่มเสี่ยง อาทิ ผู้สูงอายุ, ผู้พิการ หรือสตรีมีครรภ์ ให้ได้รับความสะดวกสบายและลดความเสี่ยงมากที่สุด

-มาตรการสุขอนามัยเชิงรุก (HYGIENIC CLEANING) เราให้ความสำคัญกับมาตรการด้านสุขอนามัยเชิงรุกในระดับสูงสุด โดยได้คิดค้นและพัฒนามาตรการแบบบูรณาการครอบคลุมทุกมิติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า พนักงาน คู่ค้า และทุกภาคส่วนอย่างดีที่สุด ประกอบด้วย 15 มาตรการย่อย โดยมาตรการที่ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ทุ่มเทดำเนินการเป็นพิเศษ คือ การจัดให้มีระบบถ่ายเทอากาศภายในอาคารมากกว่า 10 เท่าต่อชั่วโมง (10 ACH) และทำการอบฆ่าเชื้อระบบปรับอากาศส่วนกลางเป็นประจำทุกคืนด้วยรังสี UV ซึ่งนับเป็นมาตรการความปลอดภัยที่เข้มข้นไปอีกขั้นที่จะสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคและถ่ายเทอากาศได้เป็นอย่างดี

-มาตรการเฝ้าระวังติดตาม (COMPREHENSIVE INFORMATION TRACKING) รัดกุมยิ่งขึ้นด้วยขั้นตอนการเฝ้าระวังและติดตาม คือ พนักงานทุกคน รวมถึง พนักงานร้านค้า และพนักงานคู่ค้า ต้องมีบันทึกข้อมูลประวัติสุขภาพ รวมถึง ลูกค้าและผู้เข้ามาใช้บริการทุกคน ต้องลงทะเบียนและให้ข้อมูลที่จำเป็นก่อนเข้าห้างฯ และ ศูนย์ฯ ทุกครั้ง เพื่อจะสามารถ มีข้อมูลและติดตามได้ในกรณีที่มีความจำเป็น

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการด้านความปลอดภัยที่รัดกุมมากที่สุดแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยมาตรการที่ทางห้างสรรพสินค้าจัดเตรียมไว้ ได้แก่

1.STAFF POLICY มาตรการสำหรับพนักงานขาย PC/BA

- พนักงาน PC/BA ทุกคน ต้องแสดงใบรับรองแพทย์ก่อนกลับมาปฏิบัติงาน

- พนักงาน PC/BA ทุกแบรนด์ สวมใส่หน้ากากอนามัย และ FACE SHIELD ขณะปฏิบัติงาน

- พนักงาน PC/BA ทุกแบรนด์ สวมถุงมือผ้า, ถุงมือยางสีขาว ตามความเหมาะสมของประเภทสินค้าทุกครั้งที่ให้บริการลูกค้า

- พนักงาน PC/BA ทุกแบรนด์ ต้องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย 2 ครั้งต่อวัน

2.COUNTER BRAND & SHOP มาตรการสำหรับ COUNTER BRAND และ SHOP

- พนักงาน PC/BA ทำความสะอาดเคาน์เตอร์, ห้องลอง, ลูกบิด, มือจับ, ราวแขวนผ้า, เก้าอี้ , ตะกร้าช้อปปิ้งและอุปกรณ์ในการบริการต่างๆ ด้วยน้ำยาแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ทุก 30 นาทีและทุกครั้งหลังจากลูกค้าเข้าลองสินค้า

- SOCIAL DISTANCING กำหนดระยะห่างในการบริการลูกค้าอย่างน้อย 1.0-1.5 เมตรในการให้บริการ โดยห้างฯจะจัดเตรียมสื่อเพื่อบอกระยะในจุดให้บริการต่างๆทั่วห้าง

•แผนก BEAUTY HALL จำกัดจำนวนให้บริการลูกค้าไม่เกิน 2 ท่าน/เคาน์เตอร์

•แผนก FASHION จำกัด 1 ท่าน/ราวเสื้อผ้า

•งดกิจกรรม WORKSHOP หรือหากจำเป็นให้จัดที่นั่งห่างกันอย่างน้อย 1.0-1.5 เมตร

•สินค้าอาหาร, เครื่องดื่ม งดให้บริการทดลอง และชิมสินค้าทุกประเภท

3.PRODUCT CLEANING BEFORE & AFTER TESTING มาตรการสำหรับการดูแลความสะอาดสินค้า

- พนักงาน PC/BA ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อสินค้า อุปกรณ์ และสินค้าทดลอง ทั้งก่อนและหลังที่ลูกค้าสัมผัสสินค้าทุกครั้ง

•STEAMING IRON สินค้าประเภทเสื้อผ้า เมื่อลูกค้าลองสวมตัวโชว์แล้ว พนักงานจะต้องนำเสื้อที่ลูกค้าทดลองแล้วมารีดอบไอน้ำอีกครั้ง เพื่อใช้ความร้อนฆ่าเชื้อโรคเบื้องต้น

•UV-C STERILIZING CHAMBER นำสินค้าที่ลูกค้าลองสวมแล้วไปผ่านการฆ่าเชื้อโรคด้วยรังสี UV-C STERILIZING ในห้องที่ทางห้างฯจัดเตรียมไว้ ซึ่งลูกค้ามั่นใจได้ในความปลอดภัยสูงของห้อง UV-C STERILIZING CHAMBER ไม่ต้องกังวลว่าลูกค้าจะโดนแสง UV-C               เพราะติดตั้ง motion censor ภายในห้องและมี limit switch ที่ประตูห้องเพื่อจับความเคลื่อนไหว หากมีการเคลื่อนไหวในห้อง วงจรไฟ UV-C จะถูกตัดทันที

•ALCOHOL SPRAY & WIPE พนักงานขายเช็ดทำความสะอาด แล้วฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อหลังจากลูกค้าทดลองสินค้าทุกครั้ง ในกรณีที่เป็นสินค้าที่ไม่สามารถนำไปอบ UV-C ได้ เช่น LINGERIE, WATCH, BETREND, LIVING, POWER MALL เป็นต้น

-การทดลองสินค้าที่มีการสัมผัสกับผิวโดยตรง พนักงานจะต้องเตรียมอุปกรณ์ป้องกัน แบบใช้ครั้งเดียวทิ้งให้ลูกค้าสวมก่อนทำการทดลองสินค้า และเมื่อลูกค้าลองเสร็จต้องเปลี่ยนทิ้งทุกครั้ง เช่น ถุงเท้า,  ถุงมือพลาสติก ยกเว้นอุปกรณ์ป้องกันบางชนิดที่ทางแบรนด์ต้องเตรียมมาเอง ผ้าคลุมหน้าบริการลูกค้าที่ลองเสื้อผ้า, กระดาษบางรองหมวก, คลุมผ้าสปันบอนด์บนสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์, เตียง, หมอน, เก้าอี้ แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

- ภายในเคาน์เตอร์แบรนด์ มีแอลกอฮอล์เจล และแบบสเปรย์น้ำ โดยพนักงานจะต้องพกสเปรย์แอลกอฮอล์ติดตัวเพื่อฉีดให้ลูกค้าทุกครั้งก่อนให้บริการลูกค้า

4.SERVICES มาตรการสำหรับงานบริการ

-WORRY-FREE WAITING AREA พนักงานขายช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าโดยไปชำระเงินและนำสินค้ามาให้ลูกค้าที่จุดนั่งรอรับบริการ WORRY-FREE WAITING AREA ที่ห้างฯ จัดเตรียมไว้ให้ทุกชั้น

-งดบริการแต่งหน้านวดหน้า หากจำเป็นต้องให้บริการแต่งหน้าจะต้องนัดหมายล่วงหน้าหรือจัดคิวเพื่อคุมปริมาณลูกค้าโดยให้บริการได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง งดสนทนาขณะให้บริการและต้องใช้อุปกรณ์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้งพร้อมทำความสะอาดมือต่อหน้าลูกค้าและสวมถุงมือผ้าก่อนให้บริการทุกครั้ง

-งดกิจกรรมในแผนกเด็กทั้งหมด เช่น โต๊ะบริการของเล่น, อุปกรณ์เสริมทักษะทุกประเภท, การทดลองสินค้า เป็นต้น กำหนดระยะห่างของเครื่องเล่นหยอดเหรียญไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร

อีกทั้ง เพื่อความปลอดภัยแบบครอบคลุมทุกมิติ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้เพิ่ม 6 มาตรการเสริม 66 มาตรการย่อย สำหรับ 5 กลุ่มธุรกิจ สำหรับร้านค้าและพนักงานในศูนย์การค้า ได้แก่ มาตรการสำหรับร้านค้าทุกประเภทและพนักงานทุกคนภายในศูนย์การค้า, มาตรการสำหรับร้านอาหาร, คลินิก, ร้านตัดผม, ร้านแฟชั่น , ร้านไลฟ์สไตล์ และธนาคาร เพื่อความมั่นใจของลูกค้าทุกท่านที่มาใช้บริการ



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ