ภายหลังจากกระทรวงพลังงานกับกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ได้อนุญาตปลดล็อคนำเอทานอลจาก 27 โรงงานไปใช้ในทางการแพทย์ และผลิตเป็นเจลล้างมือทำความสะอาดได้ โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากกระทรวงพลังงาน เนื่องจากกระทรวงพลังงานได้เห็นว่า ช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นสถานการณ์เร่งด่วนที่จะต้องนำแอลกอฮอล์กระจายออกไปช่วยเหลือประชาชนให้ทั่วไป ในขณะที่ท้องตลาดกำลังประสบปัญหาขาดแทนแอลกอฮอล์และเจลล้างมือ และปริมาณเอทานอลก็มีสำรองเพียงพอในการใช้ในภาคพลังงานด้วย
ต่อมาปรากฏว่ามีองค์กรต่างๆ ได้นำแอลกอฮอล์ไปมอบให้กับทางโรงพยาบาลเพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าถึงได้โดยง่าย รวมถึงได้จัดหาแอลกอฮอล์นำไปมอบให้หน่วยงาน และชุมชนต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงที่ทุกคนกำลังต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19
ล่าสุด นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนได้ลงพื้นที่แจกแอลกอฮอล์และหน้ากากอนามัย พร้อมกับรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องปัญหาภัยแล้งในลุ่มน้ำปากพนังกับเรื่องปากท้อง และมีชาวบ้านเข้ามาขอถ่ายภาพด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปกติในทุกๆ พื้นที่ที่ลงไปชาวบ้านให้ความสนใจและอยากถ่ายรูปกับ ส.ส.ที่พวกเขาพึงพอใจ
อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนดังกล่าวกลับโดนโจมตีอ้างขัดคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด และผิดพรก.ฉุกเฉิน ด้วย เมื่อปรากฏข่าวภาพตนอยู่ร่วมในงานนกกรงหัวจุกและวงน้ำชา ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์โจนตีรุนแรง
“ผมยืนยันว่าไม่ใช่งานเลี้ยงรื่นเริงอะไรตามที่เอาไปวิพากษ์วิจารณ์กัน และตอนถ่ายรูปก็เป็นช่วงพักและชาวบ้านอยากให้ถอดหน้ากากตอนถ่ายรูปเพื่อจะได้เห็นหน้าชัดๆ จึงถอดหน้ากากอนามัยเฉพาะตอนถ่ายรูปเท่านั้น เมื่อถ่ายภาพเสร็จก็ใส่หน้ากากตามเดิม พร้อมทั้งเดินแจกของไปตามปกติ”
นายสัณหพจน์ กล่าวอีกว่า ภาพที่เกิดขึ้นเรื่องนี้ตนได้เห็นข่าวที่เผยแพร่ในโลกโซเชียลแล้วไม่สบายใจ เพราะภาพที่เห็นนั้นเป็นเพียงการลงพื้นที่แจกหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องปัญหาภัยแล้งในลุ่มน้ำปากพนังกับเรื่องปากท้องให้กับประชาชนในพื้นที่ และที่มีภาพของนกกรงหัวจุก ก็ไม่ได้เป็นงานอะไร แต่เป็นในพื้นที่ภาคใต้จะมีการแขวนราวนกกรงหัวจุกเอาไว้ตามบ้าน ตามร้านน้ำชาเป็นปกติอยู่แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อชาวบ้านในพื้นที่เดือดร้อนเป็นส.ส.ก็ต้องทำหน้าที่ออกแจกหน้ากากออกช่วยเหลือแจกเจล แจกแอลกอฮอล์ และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในทุกๆเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องปัญหาภัยแล้งในลุ่มน้ำปากพนังกับเรื่องปากท้อง ไม่นึกว่าจะถูกนำมาเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์และเชื่อมโยงหวังผลทางการเมือง โดยเอาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาใช้เป็นโอกาส ซึ่งเป็นการใช้ความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่มาโจมตีกันถือเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจเป็นอย่างยิ่ง
“การนำภาพถ่ายไปเผยแพร่ก็ไม่ได้ขอรายละเอียด คือเอามุมเดียว แล้วก็ไปวิพากษ์วิจารณ์กันแรงๆ ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้ตั้งข้อสังเกตว่ามีเบื้องหลัง คือมีเรื่องของการโจมตีกันโดยหวังผลทางการเมือง ซึ่งจริงๆ แล้วก่อนจะลงเผยแพร่อย่างน้อยก็ควรถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก่อน แต่พอมีการเผยแพร่ไปแล้วก็ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย และมีชาวบ้านหลายคนพร้อมที่จะยืนยันว่า สิ่งที่ปรากฏในภาพเป็นการลงพื้นที่แจกหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องปัญหาภัยแล้งในลุ่มน้ำปากพนังกับเรื่องปากท้องจริง ไม่ใช่เป็นการลงไปในงานรื่นเริง ไม่ใช่งานประกวดนก แต่ภาพกรงนกกรงหัวจุกที่แขวนอยู่บนราวซึ่งเป็นปกติของพื้นที่นี้ กลับถูกเอาไปใช้ขยายความถึงพรก.ฉุกเฉิน หรือคำสั่งผู้ว่าฯ ซึ่งไม่ถูกต้องและควรจะสอบถามข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน อย่าได้ฟังความเพียงข้างเดียวเลยครับ” นายสัณพจน์ กล่าว
