ชุดว่ายน้ำ 3 พันล้าน “เซ็กซี่-เพิ่มอึ๋ม” แรง!

วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556

ชุดว่ายน้ำ 3 พันล้าน “เซ็กซี่-เพิ่มอึ๋ม” แรง!


ตลาดรวมชุดว่ายน้ำในประเทศไทย มีมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท หากเปรียบเทียบกับตลาดชุดชั้นในนับว่ายังตามห่าง เนื่อง จากมูลค่าตลาดชุดชั้นในอยู่ที่กว่า 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นตลาดบน 12,000 ล้านบาท ตลาดล่าง 8 พันล้านบาท
โดยตลาดชุดว่ายน้ำ จะอยู่ที่ตลาดกลาง-บน เป็นหลัก ขณะที่ตลาดล่าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าจากจีน จะไม่มีการจำหน่ายผ่านห้างสรรพสินค้า โดยแต่ละปีสินค้าทั้งสองกลุ่มนี้เติบโตประมาณ 10%
แบรนด์อันดับ 1 ในตลาดชุดว่ายน้ำคือ "สปีโด" ขณะที่แบรนด์อันดับที่ 2 ยังคงสลับกันตามช่วงเวลาของการทำตลาด คือ ไทรอัมพ์ และอารีน่า
+ นักท่องเที่ยวนิยมซื้อในไทยถูกกว่า
บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่มีการจำหน่ายชุดว่ายน้ำถึง 5 แบรนด์ คือ สปีโด บีเอสซี วาโก้ สตรีมไลน์ และ แอล ถือเป็นกลุ่มผู้นำตลาดที่มีส่วนแบ่งประมาณ 50% และความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
นายชัยเลิศ มนูญผล กรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดรวมชุดว่ายน้ำมูลค่า 3 พันล้านบาท ในปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 15% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการจำหน่ายชุดว่าย น้ำ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาซื้อชุดว่ายน้ำในเมืองไทย เนื่องจากราคาที่ถูกกว่า อีกทั้งคนไทยในปัจจุบันก็ออกมาท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอม ส่งผลให้ตลาดชุดว่ายน้ำมีความคึกคักมากในช่วงหน้าร้อน
แนวทางหลักในการแข่งขันของตลาดชุดว่ายน้ำ คือ การออกสินค้าใหม่ เนื่องจากลวดลายและรูปแบบ ยังเป็นตัวกระตุ้นในการซื้อชุดว่ายน้ำของคนไทย นอกจากนั้นคือ การจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย
+ ผู้นำตลาดขยับแชร์ทิ้งคู่แข่ง
สำหรับแบรนด์ "สปีโด" ซึ่งเป็นผู้นำตลาด ในปีนี้ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตประมาณ 30% จากปีที่ผ่านมา คิดเป็นรายได้ประมาณ 350 ล้านบาท เพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 35% จากเดิม 30% และยังคงครองความเป็นผู้นำตลาดเช่นเดิม
นายชัยเลิศ กล่าวว่า ในช่วงหน้าร้อนเป็นช่วง หลักของการจำหน่ายชุดว่ายน้ำ คิดเป็นสัดส่วน 60% จากทั้งปี บริษัทจึงมีการออกคอลเล็กชั่นใหม่ของชุดว่ายน้ำสปีโดถึง 30 รูปแบบ และเพิ่มอุปกรณ์เสริมเข้ามาทำตลาด อาทิ แว่นตากันน้ำ เข้ามาเสริม รวมทั้งมีแผนการขยายช่องทางการจำหน่าย "สปีโด ช็อป" อีก 5 สาขา ตามแหล่งท่องเที่ยวหลักและกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ศักยภาพที่สำคัญในการครองความเป็นผู้นำตลาดของสปีโด คือ ความแข็งแกร่งของแบรนด์ ราคาและรูปแบบที่หลากหลาย อีกทั้งยังมีโรงงานผลิตในประเทศไทย ผลิตและส่งออกไปยังอเมริกา 50% ป้อนตลาดในประเทศ 50% ซึ่งปัจจุบันโรงงานผลิตสปีโดในไทย ถือเป็น 1 ใน 3 โรงงานของสปีโดทั่วโลก โดยมีอยู่ในจีน 1 แห่ง และในกัมพูชา ซึ่งเป็นการลงทุนจากผู้ถือลิขสิทธิ์จากจีน
+ จีนแห่เข้าไทยยอดซื้อเพิ่ม 20%
ด้านนางธีรดา อำพันวงษ์ ประธานเจ้าหน้า ที่บริหาร บริษัท โอซีซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาวะกำลังซื้อของลูกค้าในปีนี้ได้รับผลกระทบจากการผ่อนรถคันแรก ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปีนี้ ยอดขายในส่วนของชุดชั้นใน ชุดว่ายน้ำ และเครื่องสำอาง ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 10% จากที่วางเป้าหมายไว้ที่ 13% ส่วนใหญ่ตลาดที่ได้รับผลกระทบคือกรุงเทพฯ ส่วนกำลังซื้อในต่างจังหวัดมีการเติบโตที่ดีกว่า
แต่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี ตลาดเริ่มมีความคึกคักขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงหน้าร้อน โดยเฉพาะกลุ่มชุดว่ายน้ำ ซึ่งมีสัญญาณการเติบโตที่ดีมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และคาดว่าจะคึกคักไปจนถึงปลายเดือนเมษายน ก่อนจะแผ่วลงตามฤดูกาลท่องเที่ยว โดยจะกลับมากระเตื้องอีกครั้งในช่วงตุลาคมไปจนถึงปลายปี
ปัจจัยในการกระตุ้นตลาดชุดว่ายน้ำคือการท่องเที่ยว เนื่องจากประเทศไทยมีจุดเด่นของการท่องเที่ยวทางทะเล โดยกลุ่มที่มีสัญญาณการเติบโตที่ดีมากคือนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่นิยมมาเที่ยวเมืองไทย และมีอัตราการซื้อชุดว่ายน้ำเพิ่มขึ้น 20% ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาแล้ว
+ เผยสาวไทยชอบแฟชั่นเซ็กซี่
สำหรับลูกค้าชาวไทย ปัจจัยที่ทำให้ตลาดชุด ว่ายน้ำเติบโตขึ้น เนื่องจากความมั่นใจในการสวมใส่ชุดว่ายน้ำริมชายหาด นอกเหนือจากการสวมชุดว่ายน้ำเพื่อการกีฬาแบบในอดีต อีกทั้งคนไทยยังยอมรับความเป็นแฟชั่นของชุดว่ายน้ำมากขึ้น กล้าใส่ชุดว่ายน้ำที่มีรูปแบบหลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มทูพีซ วันพีซหรือบิกินีที่ลูกค้าจะนิยมซื้อมาเพื่อมิกซ์แอนด์แมตช์ ตาม ความพึงพอใจ แตกต่างจากในอดีตที่จะซื้อชุดว่ายน้ำแบบเต็มตัว หรือชุดทูพีซที่อยู่ในลวดลายเดียวกัน
นางธีรดา กล่าวว่า ชุดชั้นใน และชุดว่ายน้ำสตรีกีลาโรชคือแบรนด์สินค้าคุณภาพสูงจากฝรั่งเศส ซึ่งอายุของแบรนด์ก้าวล่วงเข้าสู่ปีที่ 92 แล้วในอุตสาหกรรมชุดชั้นใน และชุดว่ายน้ำฝั่งยุโรป สำหรับประเทศไทยกีลาโรชวางจำหน่ายมายาวนานกว่า 35 ปี ปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดชุดชั้นในอยู่ที่ 18% และชุดว่ายน้ำอยู่ที่ 15% โดยสินค้าจัดอยู่ในกลุ่มพรีเมี่ยม
ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กีลาโรชได้แนะนำชุดชั้นในและชุดว่ายน้ำคอลเล็กชั่น VeniceŽ (เวนิส) ออกสู่ตลาด โดยดึงความสวย งามของสถาปัตยกรรมเมืองเวนิสมาประกอบการออกแบบ ประกอบด้วยชุดชั้นใน 20 รูปแบบ และชุดว่ายน้ำ 30 รูปแบบ
+ กีลาโรชส่งมัลดีฟส์แถมเพิ่มอึ๋ม
ส่วนช่วงหน้าร้อนปีนี้ กีลาโรชได้เปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่คือ "Maldives" (มัลดีฟส์) ทั้งชุดชั้นในและชุดว่ายน้ำในคอลเล็กชั่นนี้จะมีความโมเดิร์นและเซ็กซี่เป็นพิเศษ ด้วยสีสันและดีไซน์ที่มีกลิ่นอายของท้องทะเลที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์อย่างมัลดีฟส์ประกอบด้วยชุดชั้นใน 20 รูปแบบ ชุดว่ายน้ำ 30 รูปแบบ ทั้งวันพีซ และทูพีซ
คอลเล็กชั่นนี้สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมตช์ เพื่อค้นหาสไตล์ในแบบที่ลูกค้าชื่นชอบ เพิ่มความมั่นใจให้กับหญิงสาวด้วย mold Push Up นวัต-กรรมล่าสุดจากฝรั่งเศส แผ่นฟองน้ำที่แตกต่างจากฟองน้ำทั่วไป เพราะมีความยืดหยุ่นสูงกว่า ระบายอากาศได้ดี ช่วยในการยกกระชับทรวงอกให้แลดูชิด และอวบอิ่มขึ้น
กีลาโรชวางงบตลาดสำหรับหน้าร้อนในปีนี้ที่ 20 ล้านบาท โดยปีนี้กีลาโรชจะแนะนำสินค้ากลุ่มชุดชั้นในและชุดว่ายน้ำออกสู่ตลาด 8 คอลเล็กชั่น คาดว่าจะสามารถแชร์ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นได้อีก 10% และดันตัวเลขยอดขายรวมของทั้งปีให้สูงขึ้นอีก 20%
ปัจจุบันกีลาโรชมีจุดขายสำหรับชุดชั้นในอยู่ 80 จุด และชุดว่ายน้ำ 55 จุด ทั่วประเทศ และมีแผนที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายเพิ่มอีก 8 จุด เน้นพื้นขายในห้างสรรพสินค้าเขตหัวเมืองใหญ่เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อน อาทิ อุดรธานี อยุธยา และกาญจนบุรี เป็นต้น
นางธีรดา กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากการ แนะนำสินค้าใหม่พร้อมกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังมีการรีเฟรชแบรนด์เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายที่มาอายุน้อยลง จากเดิมกีลาโรชจะเป็นแบรนด์สำหรับกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป ปรับลดลงมาสำหรับกลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไปด้วย
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันของตลาดชุดชั้นในและชุดว่ายน้ำยังเต็มไปด้วยความรุนแรงจาก แบรนด์ใหม่ระดับบนที่เข้ามาทำตลาดมากขึ้น ส่วนแบรนด์ระดับล่าง ไม่ถือเป็นผู้แข่งขันเนื่องจากมีราคาที่ถูกมากตามคุณภาพของการใช้งาน


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ