กูรูหุ้นจาก บล.เอเซีย พลัส แนะนำ “ซื้อ” INSET ให้ราคาเป้าหมายที่ 4.16 บาท คาดงบไตรมาส 1/63 ทรงตัว ชี้การแพร่ระบาดโควิด-19 กระทบธุรกิจไม่มาก ระบุในช่วงที่เหลือของปีนี้จ่อคว้างานใหม่ ไม่ต่ำกว่า 1-1.5 พันล้านบาท อานิสงส์รัฐ-เอกชนเดินหน้าขยายการลงทุนโทรคมนาคม รองรับ 5G หนุนผลงานครึ่งปีหลังโตกระฉูด ผลักดันรายได้-กำไร สร้างสถิติสูงสุดใหม่
ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้น บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) (INSET) โดยระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/63 คาดว่าจะทรงตัว เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่งานใหญ่และกำไรจะทยอยมาในช่วงที่เหลือของปี พร้อมแนะนำ “ซื้อ” ประเมิน Fair Value ที่ 4.16 บาท
ทั้งนี้ Backlog ของ INSET ณ สิ้นปี 2562 ที่สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 2 พันล้านบาท แม้งานใหญ่ในส่วนท่อร้อยสายใต้ดินกทม. 800 ล้านบาท อาจจะเลื่อนการส่งมอบอย่างเร็วปลายปี 2563 หรือต้นปี 2564 เนื่องจากปัจจุบันเพิ่งอยู่กระบวนการทำ Demo Site งาน และกำลังรอให้ กทม.เจ้าของโครงการตรวจสอบอนุมัติก่อนเข้า Site อย่างไรก็ตาม กำหนดการส่งมอบงานอื่นๆ ที่ชัดเจน ประกอบกับ งานปกติ (นอกเหนืองานใหญ่) ที่ ต้องการลงทุนโทรคมนาคมอยู่แล้ว เช่น การสร้างเสา, ลากสายไฟเบอร์ คาดช่วยให้ INSET ยังส่งมอบงานตามกำหนดปี 2563 ได้ที่ราว 700 ล้านบาท หรือไตรมาสละ 150-200 ล้านบาท จึงประเมินรายได้และบริการงวดไตรมาส 1/63 ที่ 195 ล้านบาท ลดลง 23.6% yoy
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากงานใน Backlog ที่มีองค์ประกอบงานซ่อมบำรุงที่มีมาร์จิ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น คาดช่วยหนุน Net Profit Margin ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 10.1% ส่งผลให้คาดกำไร ไตรมาส 1/63 ที่ 19.7 ล้านบาท ยังทรงตัว yoy ได้
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส มองว่า Backlog หลังการรับรู้รายได้งวดไตรมาส 1/63 คาดว่ายังทรงตัวสูงได้เกิน 2 พันล้านบาท จากการรับงานใหม่ระหว่างไตรมาส 1/63 ที่ 300 ล้านบาท สะท้อนภาพรวมธุรกิจงานรับเหมาโทรคมนาคม ยังถือว่าเป็นธุรกิจที่กระทบจาก COVID-19 จำกัด ขณะที่แนวโน้มระยะถัดไปดูดี ตามปริมาณการลงทุนระบบโทรคมนาคมที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาวะปัจจุบันที่มีความต้องการใช้โทรคมนาคมสูงอย่ารวดเร็ว ช่วยให้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ สายไฟเบอร์, เสาสัญญาณ และ Data Center ซึ่งเป็นงานถนัดของ INSET ยังมีต่อเนื่อง และหลังจากนี้จะเป็นคิวการลงทุนเอกชนที่เริ่มเปิดให้รับงานลงทุนระบบ 5G ซึ่งคาดหมายจะเป็นอีกรอบลงทุนใหญ่ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ ประเมินโดยรวมช่วงที่เหลือของปี INSET น่าจะทยอยรับงานใหม่ไม่ตํ่ากว่า 1-1.5 พันล้านบาท ซึ่งคาดส่วนใหญ่จะส่งมอบทันปีนี้ตามลักษณะงานขนาดไม่ใหญ่ บวกกับ รายได้ที่มีกำหนดรับรู้จาก Backlog ปีก่อนที่ 700 ล้านบาท คาดการณ์รายได้ปีนีที้่ 1.4 พันล้านบาท จึงเชื่อว่าเป็นไปได้
ฝ่ายวิจัยบล.เอซีย พลัส ยังคงประมาณการกำไรปี 2563 ที่ 146 ล้านบาท เติบโต 22% ทั้งนี้ หากพิจารณากำไรรายไตรมาส เชื่อว่าจะเริ่มเห็นกำไรที่ดีขึ้น ในงวดไตรมาส 2/63 และเริ่มกลับมาเติบโต yoy ได้ และเชื่อว่าจะโดดเด่นในช่วงครึ่งปีหลัง ตามกำหนดการรับส่งมอบงานที่เพิ่มขึ้น โดยน้ำหนักในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมาจากผลบวกการรับงานใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกจำนวนภายใน 1H63
นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) (INSET) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ INSET เนื่องจากธุรกิจเป็นการทำงานแบบ Outdoor ซึ่งยังคงเดินหน้าติดตั้งระบบอย่างต่อเนื่องหลังค่ายมือถือแต่ละแห่งเข้าสู่โหมดการลงทุนรอบใหม่หลังได้รับใบอนุญาตคลื่น 5G ทำให้มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ในปี 2563 จะเติบโต 10-15 % สร้างสถิติสูงสุดใหม่ โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ราว 600-700 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้ไปถึง 5 ปี (2567)
