"ฮิตาชิ"สวนกระแสเกาหลี ปลุกคุณค่าแบรนด์ญี่ปุ่น

วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556



อาจด้วยความเป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอย่างยาว นาน ได้ทำให้ประเทศไทยมีแบรนด์สินค้าจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาจำหน่ายอย่างหลากหลายและยาวนาน
"ฮิตาชิ" (Hitachi) เองเป็นหนึ่งในแบรนด์ สินค้าญี่ปุ่นที่อยู่คู่กับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยมาอย่างยาวนานกว่า 45 ปี พร้อมด้วยชื่อเสียง เกี่ยวกับความคงทนของผลิตภัณฑ์ที่ใช้มอเตอร์เป็นส่วนประกอบหลัก อาทิ เครื่องซักผ้าและเครื่อง ดูดฝุ่น
แรกเริ่ม บริษัท ฮิตาชิ จำกัด นั้นก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ.2453 (ค.ศ. 1910) มี นายนามิเฮ โอไดระ เป็นผู้ก่อตั้ง ชื่อ Hitachi มีความหมายว่า "พระอาทิตย์ขึ้น" ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาของ บริษัท ที่ต้องการสนับสนุนผู้คนและสังคมผ่านทาง เทคโนโลยี โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้า 5 แรงม้าเป็นสินค้าชนิดแรกของบริษัท
ในเวลาต่อมาบริษัทฮิตาชิเริ่มผลิตสินค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น หัวรถจักรไฟฟ้า จนกระทั่งเป็นผู้ผลิตรถไฟหัวกระสุน หรือ Shinkansen ได้เป็น ครั้งแรกในปี พ.ศ.2507 รวมถึงคิดค้นระบบควบคุมการจราจรโดยใช้ คอมพิว-เตอร์สำหรับรถไฟดังกล่าว
สำหรับในประเทศไทย บริษัท ฮิตาชิ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปีพ.ศ.2511 เพื่อที่จะผลิตสินค้าภายใต้ชื่อ "ฮิตาชิ" ในตลาดประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนทางการตลาดจาก Hitachi Home Electronics (S) ประเทศสิงคโปร์
ล่าสุด บริษัท ฮิตาชิ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมาตรฐานญี่ปุ่น เพื่อ ต่อสู้กับการรุกตลาดอย่างหนักของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติเกาหลีและจีน ด้วยกลยุทธ์ที่สวนทางกับกระแสการแข่งขันราคาที่ดุเดือดในปัจจุบัน
นายบุญชัย พุทธาโกฐิรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ฮิตาชิ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สิ่ง ที่บริษัทให้ความสำคัญสูงสุดคือ คุณภาพและนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงได้นำสินค้ากลุ่ม "ผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่น (Made-in-Japan Model)" มาจำหน่ายในประเทศไทย
โดยสินค้าจากญี่ปุ่นที่นำเข้ามามีด้วยกัน 5 หมวด คือ หม้อหุงข้าว ตู้เย็น เครื่องกรองอากาศ เตาอบและเครื่องซักผ้า ซึ่งต่างมีฟังก์ชั่น ทันสมัย เช่น ช่องแช่สุญญากาศในตู้เย็น ระบบลดไขมันในอาหารของ เตาอบและระบบรีดผ้าของเครื่องซักผ้า พร้อมทั้งกลยุทธ์สร้างมุมสำหรับให้ลูกค้าทดลองสินค้าด้วยตนเอง เพื่อสร้างความแปลกใหม่และเสริมภาพลักษณ์ให้แก่ตัวแทน จำหน่าย
"แม้สินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่น จะมีราคาที่สูงกว่าสินค้าทั่วไปตั้งแต่ 40-500% แต่สิ่งสำคัญคือ การอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจได้ว่า มูลค่าที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากอะไร เพราะลูกค้ายินดีซื้อหากสินค้ามีคุณภาพที่เหมาะสมกับราคา ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ซื้อสินค้ากลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง" นายบุญชัย กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยี สเตนเลสคลีน ด้วยการใช้สเตนเลสเป็นส่วนประกอบของเครื่อง ช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย ลดการสะสมของฝุ่น ทั้งยังมีระบบฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวีและแผ่นกรองเคลือบ สารสกัดจากวาซาบิที่มีคุณสมบัติป้องกันแบคทีเรีย เชื้อราและสารก่อภูมิแพ้
ด้านกลยุทธ์ของบริษัท นายบุญชัย อธิบายว่า บริษัทจะเน้นที่การสร้างแบรนด์ เพิ่มการรับรู้ พร้อมสร้างตลาดและเปิดตลาดใหม่ ซึ่ง "ผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่น" จะเป็นหัวใจของกลยุทธ์ นี้ โดย มุม Japan corner จะสร้างประสบการณ์การใช้สินค้าคุณภาพสูงให้แก่ผู้บริโภค ในขณะที่ตัวสินค้าจะสร้างตลาดใหม่ในกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางและบน
คงต้องรอดูกันต่อไปว่า ฮิตาชิจะสามารถใช้ ความเป็นญี่ปุ่น ดึงให้ผู้บริโภคหันกลับมาสนใจ เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ญี่ปุ่นอีกครั้งได้หรือไม่ ท่ามกลางแสง สี และราคาที่เย้ายวนจากแบรนด์เกาหลี และจีน


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ