"โนเกีย" พักรบตลาดสมาร์ทโฟน เปลี่ยนกลยุทธ์ลุยมือถือราคาถูก

วันเสาร์ที่ 04 พฤษภาคม พ.ศ. 2556



ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ยังคงความขลังเป็นอมตะ และใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย โดยปราศจากข้อยกเว้น แม้กระทั่งความยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานของอาณาจักรธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อโนเกีย สัญชาติฟินแลนด์ก็หนีไม่พ้นกฎแห่งอนิจจัง

ย้อนเวลาถอยหลังกลับไปเมื่อก่อนปี 2550 "โนเกีย" คือเจ้าผู้ครองตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของโลก ที่มีส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของทั้งโลกอยู่ในความครอบครองกว่าร้อยละ 50 และเริงร่าหรรษากับรายได้ กำไรเป็นกอบเป็นกำ โดยไม่เคยสัมผัสรับรู้กับรสชาติของการขาดทุน

ถัดมาปี 2550 โลกของโนเกียที่เคยหวานชื่น และสวยสดใส แปรเปลี่ยนไปเป็นตรงกันข้ามอย่างน่าใจหาย...ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่เคยผูกขาดการครอบ ครองแบบเบ็ดเสร็จ ต้องสูญเสียส่วนที่เป็น "หัวกะทิ" ให้แก่หน้าใหม่ อย่าง "ไอโฟน" และ "ซัมซุง" เมื่อทั้ง 2 ค่ายที่ว่าแจ้งเกิดสู่สมรภูมิธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยเน้นเจาะกินเฉพาะหัวกะทิ ที่เป็นตลาดโทรศัพท์อเนกประสงค์ หรือ "สมาร์ทโฟน"

รายได้ และกำไรของโนเกีย ที่เคยมีอยู่อย่างอู้ฟู่ในช่วงก่อนหน้าปี 2550 ก็ถดถอยร่อยหรอลง กระทั่งฐานะการเงินของโนเกียพลิกผันจาก "กำไร" เป็น "ขาดทุน" และเป็นการขาดทุนที่ต่อเนื่องยาวนานนับจากปี 2550 เรื่อยมา ตราบกระทั่งทุกวันนี้

โนเกีย พยายามตะเกียกตะกายก้าวข้ามการขาดทุน ด้วยการพัฒนารุ่น "ลูเมีย" ซึ่งถือเป็นสมาร์ทโฟนพันธุ์ใหม่ขึ้นมา เพื่อหวังจะต่อกรกับน้องใหม่ที่มาทีหลัง แต่ดี-เด่น-ดังกว่า อย่างไอโฟน และซัมซุง โดยประสานความร่วมมือกับค่ายไมโครซอฟท์ ในรูปลักษณ์ของการใช้ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์วินโดวส์-8

ความพยายามของโนเกีย ในการดิ้นรนต่อสู้กับไอโฟน และซัมซุงในตลาดสมาร์ทโฟน อาจจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้กระเตื้องขึ้น แต่เป็นเพียงแค่แรงกระเพื่อมเล็กๆ เท่านั้น ไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงใดๆ ในตลาดสมาร์ทโฟนได้

ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนของทั้งโลกโดยส่วนใหญ่ร้อยละ 90 ยังคงกระจุกรวมตัวกันอยู่กับไอโฟน และซัมซุง ขณะที่โนเกีย แม้จะมีลูเมียออกมาสู้ ก็มีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มสมาร์ทโฟนเพียงแค่ร้อยละ 3 เท่านั้น

เมื่อโอกาสของโนเกีย ในการต่อสู้ เพื่อหวังเอาชนะในตลาดสมาร์ทโฟนริบหรี่เต็มทน คณะผู้บริหารโนเกียจึงตัดสินใจปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจ ด้วยกันทุ่มเทสรรพกำลังมุ่งมั่นลุยทะลุทะลวงตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ราคาถูกอย่างจริงจัง โดยเล็งเป้าหมายสำคัญไปที่ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศกำลังพัฒนา ตลอดจนประเทศที่ประสบวิบากกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหลายแหล่

"โนเกีย105" ที่มีราคาขายแค่เครื่องละ 20 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 580 บาท คือโทรศัพท์เคลื่อนที่ราคาถูกที่สุดเท่าที่โนเกียเคยผลิตออกสู่ตลาด และคือดอกผลของการพัฒนา เพื่อเป็นอาวุธสำคัญในการบุกตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ราคาถูก

แม้จะมีราคาค่าตัวที่ถูกเพียงแค่ 580 บาท แต่โนเกีย 105 ก็ถูกพัฒนาขึ้นมาให้มีคุณสมบัติที่สามารถตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานได้อย่างสมบูรณ์ ตั้งแต่หน้าจอสี สามารถใช้เป็นนาฬิกาดูเวลา-ตั้งเวลาได้ และใช้เป็นวิทยุพกพาได้ แถมยังสามารถใช้เป็นไฟฉายได้อีกด้วย

สำคัญที่สุดคือโนเกีย 105 ยังมีแบตเตอรี่ที่อึดเป็นพิเศษ ด้วยขีดความสามารถในการเปิดเครื่องรอรับสายได้ยาวนานถึง 35 วัน อีกทั้งยังถูกออกแบบให้มีความทนทานในการใช้งานสมบุกสมบันทั้งในสภาพชุ่มน้ำ และฝุ่นตลบ

ตอนนี้โนเกีย 105 ถูกปล่อยออกเพ่นพ่านแล้วในตลาดอินเดีย อินโดนีเซีย และค่ายโนเกีย กำลังเตรียมการจะวางตลาดในสหภาพยุโรป ที่ประสบภัยวิกฤติเศรษฐกิจเรื้อรังในอนาคตอันใกล้นี้

อย่างไรก็ตาม ความพยายามของโนเกีย ในการสร้างความยิ่งใหญ่ในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ราคาถูก กำลังถูกมองจากบรรดานักวิเคราะห์ธุรกิจหลายรายว่าอาจต้องเผชิญกับการแข่งขันจากผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ราคาถูก

ในทางตรงกันข้ามนักวิเคราะห์ธุรกิจบางราย เชื่อว่าโนเกียน่าจะประสบความสำเร็จในการสร้างจุดยืนที่โดดเด่นในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ราคาถูก แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายของโทรศัพท์เคลื่อนที่ราคาถูกจากเมืองจีน เนื่องจากผู้ผลิตจากเมืองจีนไม่สามารถจะพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งานของโทรศัพท์เคลื่อนที่ และคุณภาพการให้บริการในระดับที่แข่งขันกับโนเกียได้

ความพยายามสร้างจุดยืนใหม่ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของโนเกีย จะประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้หรือไม่ ผลประกอบการที่ถูกเปิดเผยออกมาในอนาคตอันใกล้นี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ