“บางปะอิน” จับมือ “กิเลนจูเนี่ยร์” สู้ศึกที 3-“โค้ชเจษ” กุมบังเหียนตั้งเป้าติดท็อปไฟท์

วันเสาร์ที่ 07 มีนาคม พ.ศ. 2563

“บางปะอิน” จับมือ “กิเลนจูเนี่ยร์” สู้ศึกที 3-“โค้ชเจษ” กุมบังเหียนตั้งเป้าติดท็อปไฟท์


          บรรลุข้อตกลงจนได้ทำงานร่วมกันในที่สุด หลังผู้บริหารจาก “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ผนึกกำลังร่วมมือกับ “บิ๊กอ้วน” นายยุทธนา ก้อนทอง ผู้คลั่งไคล้และหลงไหลเกมลูกหนังยิ่งนักจากเมืองเก่า จ.พระนครศรีอยุธยา จนได้มาก่อร่างสร้างตัวเป็นสโมสรแห่งใหม่สมญานามว่า "เดอะบูลวอริเออร์" หรือ บางปะอิน อยุธยา เอฟซี ที่กำลังโม่แข้งศึกฟุตบอล “ออมสิน ลีก โปร 2020” ไทยลีกที 3 อยู่ในขณะนี้

          แน่นอนว่า การทำงานด้วยภาษา "ฟุตบอล" กว่าจะลงตัวกันได้นั้น มันต้องใช้เวลาทุ่มเททั้งแรงกาย-ใจ และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งที่ไม่ธรรมดาเลย โดยเฉพาะความเชื่อมั่นและความมั่นใจในการ “สร้างผลงาน” ที่จะออกมาเพื่อแฟนคลับ รวมไปถึงเรื่องของเงินงบประมาณต่างๆต้องลงทุน "มหาศาล"

นี่ยังไม่รวมถึงรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายในการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพอีกต่างหาก มันถึงจะไปรอดตลอดฝั่งไม่เป็นการลงทุนที่เสียเปล่าเหมือนหลายสโมสรที่เคยล้มเหลวมาแล้ว

          ล่าสุดทางผู้บริหาร "เดอะบูลวอริเออร์" ได้เปิดตัวสโมสรพร้อมด้วยชุดแข่งขันทั้งเหย้า-เยือน ขึ้นมาอย่างเป็นทางการแล้ว ประกอบด้วย นายยุทธนา ก้อนทอง ประธานสโมสร, นายโสฬส อุดมสมปอง ผู้จัดการทีม, พร้อมด้วยผู้ให้การสนับสนุน คือ นายสุวิทย์ จงประสานเกียรติผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน),นายสุเทพ จารุมณีโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีโก้สปอร์ต อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, นายประสิทธิ์ ดีศิลปกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท อยุธยา อีซูซุ เซลล์ จำกัด, "ดร.ปู๋" ดร.ศราวุธ ดิษยวรรธนะ ผู้จัดการสายงานกิจกรรมพิเศษและกีฬา บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด และ น.ส.กชกร ยิ้มแฉล้ม ผู้อำนวยการ ร.ร.บางปะอิน ณ ห้องประชุม ร.ร.บางปะอิน ที่จะใช้เป็นรังเหย้าต้อนรับทีมต่างๆในซีซั่นนี้

          ทั้งนี้ นายยุทธนา ก้อนทอง ประธานสโมสรฯ เปิดเผยถึงการย้ายสนามเหย้าของทีมมาเล่นที่ ร.ร. บางปะอินว่า เราต้องการสร้างทีมขึ้นมาใหม่ เพื่อชาวบางปะอินที่อยู่ในพื้นที่ของอยุธยาอยู่แล้ว ให้มีทีมประจำท้องถิ่น เพื่อสร้างโอกาสทางด้านการกีฬาให้ผู้คนที่นี่ซึ่งมีเป็นแสนคน นี่ยังไม่รวมถึงผู้คนจากที่อื่นมาทำงานในโรงงานในแถวนี้อีกจำนวนมิใช่น้อย เชื่อว่า จะได้รับความสนใจจากแฟนคลับไม่แพ้ใคร

          นอกจากนี้ตัวเองต้องการส่งเสริมให้เยาวชนระวกนี้หันมาสนใจฟุตบอลที่เป็นกีฬายอดนิยมมากขึ้น ประกอบด้วยสนามฟุตบอล (หญ้าเทียม) ที่เราได้สร้างขึ้นมาใหม่ลงทุนไปไม่น้อยกว่า 10ล้านบาท มีมาตราฐานและความสวยงามระดับสากล พร้อมต้อนรับแฟนบอลชาวบางปะอิน และ อยุธยา เข้ามาชมเกมในสนามอย่างเต็มที่ โดยมีการบรรลุข้อตกลงในการทำทีมกับสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมดังในศึกไทยลีก 1 ในการนำนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดี พร้อมมีดีกรีระดับเยาวชนทีมชาติมาร่วมทีมเป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวบางปะอินจะได้เห็นคลื่นลูกใหม่ที่มีความพร้อม เป็นแบบอย่างที่ดีในการเป็นนักกีฬาระดับทีมชาติไทยต่อไป

          ขณะที่ "เสี่ยโส" นายโสฬส อุดมสมปอง ผู้จัดการทีม ได้กล่าวว่า ทีมเราเหมือนเป็นคลื่นลูกใหม่ คอนเซปที่เราวางไว้ คือ "เดอะเน็ก" หรือ เดินไปข้างหน้า ประกอบด้วย 1.เดอะเน็กสเตชั่น สถานีต่อไปที่ทุกคนจะต้องเข้ามาชมและเชียร์ให้กำลังใจ จากการเล่นฟุตบอลแบบเอ็นเตอร์เทรนของนักเตะเราที่มีอยู่ 2.เดอะเน็กเจเนอเรชั่น กลุ่มนักเตะรุ่นใหม่ ที่หลายคนผ่านการคว้าแชมป์ระดับยูธลีกยู19 ปี มาแล้ว ซึ่งแต่ละคนล้วนมีดีกรีระดับเยาวชนทีมชาติ อาทิ "เจ้าตี้" ธีรภัทร เลาหบุตร, "เจ้าเดียร์" ธัชพล ไชยยันต์ นักเตะยอดเยี่ยมชุดแชมป์ยูธลีก และ "เจ้าโดม" เจษฏากร น้อยศรี แถมยังมีนักเตะต่างชาติเข้ามาผสมโรงด้วยทั้ง ราฟาเอล กองกลางชาวบราซิล กับ ปาร์ค ฮยุนวู กองหลังจอมแกร่งจากกาหลีใต้  

          และสุดท้าย 3.เดอะเน็กฟุตบอลไทย ด้วยวิธีการบริหารแบบมืออาชีพ และกุนซือหนุ่มไฟแรงที่เป็นตำนานของทีมชาติไทยแถมยังเป็นสุภาพบุรุษลูกหนังนั่นก็คือ "โค้ชเจษ" เจษฏา จิตสวัสดิ์ เฮดโค้ช ที่มีดีกรีไลน์เซ่นส์ผู้ฝึกสอนระดับชั้นแนวหน้าของเมืองไทย จะเข้ามาช่วยพัฒนาและทำให้วงการลูกหนังไทยตื่นตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแฟนคลับของเราจะได้เห็นการทุ่มเทตั้งใจของนักเตะดาวรุ่งเฉลี่ยอายุระหว่าง 19-21 ปี ประเภท วิ่งสู้ฟัดไม่มีหมดใน 90 นาที แม้ว่า ประสบการณ์ขอนักเตะเราจะน้อยไปนิด แต่เราจะเอาความฟิตเข้ามาทดแทนเพื่อไปสู้เป้าหมายความสำเร็จทีวางไว้คือ ติด 1 ใน 5 ของฤดูกาลนี้ให้ได้

          ส่วนชุดแข่งขันของเรานั้นได้ทาง "อีโก้สปอร์ต" แบรนด์กีฬาชื่อดังมาดูแลให้ ซึ่งมีความสวยงามตามแบบฉบับของ “เดอะบูลวอริเออร์” โดยสีเหย้า ยังคงเป็น "สีน้ำเงิน" เช่นเดิม ส่วนสีทีมเยือนเป็น "สีเหลือง" สนนราคาที่สามารถจับต้องได้ นอกจากนี้เรายังมีแพคเกจตั๋วปี (การ์ด+เสื้อแข่ง+ถุงผ้า) ในราคาเพียง 890 บาทเท่านั้น ซึ่งแฟนคลับสามารถเข้าชมเกมนัดเหย้าของทีมได้ทั้งฤดูกาล พร้อมส่วนลด 10% ในการซื้อของที่ระลึก สินค้าสโมสรในครั้งต่อไป

          ด้าน "โค้ชเจษ" เจษฏา จิตสวัสดิ์ เผยความรู้สึกให้รับฟังว่า แม้นักเตะน้องๆในทีมจะยังมีประสบการณ์น้อยไปสักนิด แต่ทุกคนเรียนรู้เพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการใช้แรงพละกำลังประเภทวิ่งสู้ฟัด 90 นาทีไม่มีหมดเข้ามาทดแทน ทุกเกมมันมีความสำคัญกับพวกเรามาก ในการศึกษาและพัฒนาฝีเท้าอยู่ตลอดว่า ยังขาดตกบกพร่องตรงจุดไหนบ้าง เพราะฟุตบอลเราต้องเล่นกันเป็นทีมมีระบบชัดเจน ไม่มีใครเป็นซุปเปอร์สตาร์แต่ทุกคนต้องช่วยกันทำหน้าที่เมื่อได้รับโอกาสลงไปในสนาม

ทุกวันนี้ตัวเองเตรียมตัวทำการบ้านและศึกษาข้อมูลทีมต่างๆหนักมากแบบนัดต่อนัด เวลานี้ความพร้อมจาก 100 เปอร์เซ็นต์ เราน่าจะอยู่ประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนที่ยังขาดหายไปคือ เรื่องของความเข้าใจและความสัมพันธ์ภายในเกมที่ดี รวมไปถึงจังหวะการจบสกอร์ต้องเฉียบขาด อย่าใช้โอกาสให้มันสิ้นเปลืองจนเกินไป ส่วนตัวก็จะพยายามปรับจูนทุกอย่างให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ส่วนเป้าหมายที่ทางผู้ใหญ่สโมสรฯได้วางไว้เอานั้น คือ ติด 1 ใน 5 ของตาราง ตรงนี้ตัวเองรู้สึกกดดันพอสมควร แต่ก็จะพยายามไปสู้เป้าหมายให้ได้ เพราะ 3 นัดที่ลงแข่งขันด้วยการเสมอ สระแก้ว เอฟซี 1-1 แพ้ดวลจุดโทษ ทหารอากาศ ในลีกคัพ 3-5 และชนะ เชียงราย มาได้ 3-1 ทีมเราอยู่อันดับ 3 ของกลุ่มตัวเองเห็นภาพทุกอย่างมากยิ่งขึ้น

ทั้งหมดนี้เนื้อหาของฉายา “เดอะบูลวอริเออร์” แต่ทุกอย่างมันจะเป็นจริงได้มากน้อยแค่ไหน… เวลาเท่านั้น… จะเป็นเครื่องพิสูจน์!!!



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ