“แคเรียร์” ชี้ ปีนี้ปัจจัย ศก.สะเทือนแอร์เชิงพาณิชย์ตก ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อากาศร้อน ดัน แอร์บ้านโตต่อเนื่อง

วันศุกร์ที่ 07 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

“แคเรียร์” ชี้ ปีนี้ปัจจัย ศก.สะเทือนแอร์เชิงพาณิชย์ตก ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อากาศร้อน ดัน แอร์บ้านโตต่อเนื่อง


นายวรเศรษฐ์ ตันติศิริวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.กริม แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากภาพรวมสภาวะเศรษฐกิจ การเมือง และปัจจัยลบต่างๆ  ที่เกิดขึ้นทั่วโลกขณะนี้ที่อาจมีผลกระทบมายังประเทศไทยบ้าง ดังนั้นบริษัทคาดว่าในภาพรวมของตลาดเครื่องปรับอากาศปี 63 นี้จะส่งผลในกลุ่มของตลาดแอร์เชิงพาณิชย์ที่น่าจะมีอัตราการเติบโตที่ลดลง แต่ในส่วนของแอร์ขนาดเล็กน่าจะเติบโตได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องอันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่ร้อนในเมืองไทยและเรื่องปัญหาฝุ่นที่ยังคงมีอยู่ในปีนี้ 

โดยดูได้จากในปี 2562 ที่ผ่านมาตลาดเครื่องปรับอากาศของไทยโตขึ้นประมาณ 9% มียอดขายรวมอยู่ที่ 37,000 ล้านบาท อันเป็นผลจากปัจจัยบวกด้านสภาพอากาศร้อนจัด และปัญหาฝุ่น PM 2.5  ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มทำความเย็นมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น โดยแบ่งเป็นตลาดแอร์บ้านและคอนโด ประมาณ 24,000 ล้านบาท หรือมีจำนวน 1 ล้าน 8 แสนเครื่อง ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด และต่อมาคือตลาดแอร์เชิงพาณิชย์อยู่ที่ 13,000 ล้านบาท ในปัจจุบันสินค้าเครื่องปรับอากาศของแคเรียร์อยู่อันดับท็อป 3 ของตลาดด้วยสัดส่วน 17% และคาดว่าจะสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดได้เพิ่มขึ้นเป็น 21% ในปีนี้

ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศแบบติดผนังระบบอินเวอร์เตอร์ 3 ซีรีส์ ได้แก่ 1. แคเรียร์ เอ็กซ์ อินเวอร์เตอร์ เอ็กซ์ 1 โดดเด่นเรื่องการประหยัดพลังงานตามมาตรฐานฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 3 ดาว 2. แคเรียร์ เอ็กซ์ อินเวอร์เตอร์ เอ็กซ์ 2 ในขนาด 25,000-30,000 BTU มาพร้อมระบบฟอกอากาศ X-Ionixer ช่วยลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 รวมถึงเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่ปนเปื้อนในอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ และ 3. แคเรียร์ เอ็กซ์ อินเวอร์เตอร์ เอ็กซ์ 3 มีระบบทำความเย็นขนาด 36,000 BTU ที่ใช้งานได้กับห้องกว้างขนาดใหญ่ถึง 50 ตารางเมตร ด้วยคุณสมบัติเฉพาะของเครื่องปรับอากาศแคเรียร์ 12 ประการ มาเป็นสินค้าเรือธงในต้นปีนี้

บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายเฉพาะรุ่น แคเรียร์ เอ็กซ์ อินเวอร์เตอร์ ทั้ง 3 ซีรีส์ ดังกล่าวอยู่ที่ 30,000 ชุด พร้อมวางกลยุทธ์และงบลงทุนทางการตลาดแบบครบวงจรไว้มากกว่า 200 ล้านบาท ในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการขาย ผ่านสื่อทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เป็นต้น พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ในการนำ 3 ศิลปิน ดารา ได้แก่ ทอม อิศรา กิจนิตย์ชีว์, ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ และต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายคนรุ่นใหม่ในปีนี้มากขึ้น เพราะบริษัทเล็งเห็นว่าคนรุ่นใหม่ปัจจุบันมีการหาข้อมูลมากขึ้นในการหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตนเองในสังคมยุคคนเมืองและมีกำลังซื้อมากด้วยเช่นกัน

ตลาดแอร์อินเวอร์เตอร์ถือเป็นตลาดที่เติบโตสูงขึ้นมากเรื่อยๆ ในแถบประเทศยุโรปซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 50-60 % c]h; ส่วนสำหรับในประเทศไทยเองตลาดแอร์ดังกล่าวปีที่ผ่านมายังเติบโตอยู่ที่ 15 % ซึ่งยังถือเป็นอัตราที่ยังไม่มากนัก แต่ในอนาคตเรามองว่าคนไทยจะเริ่มเข้าใจและหันมาสนใจใช้แอร์อินเวอร์เตอร์มากขึ้น เพราะมีประโยชน์และช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงานด้วย ซึ่งมองว่าปีนี้น่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 20 % และในส่วนของกลุ่มอินเวอร์แคเรียร์เองเราตั้งเป้าเติบโตถึง 100 % จากการที่ปีนี้เราได้เปิดตัวถึง 3 รุ่นและรุกทำตลาดมากขึ้นอย่างหนักกว่าปีที่ผ่านมา

สำหรับด้านตัวเลขผลประกอบการของแคเรียร์ เฉพาะตลาดเครื่องปรับอากาศมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 ที่ผ่านมาปิดยอดขายรวมในประเทศกว่า 6,400 ล้านบาท แบ่งเป็นเครื่องปรับอากาศติดผนัง 2,500 ล้านบาท โตขึ้นประมาณ 80% และเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ 3,900 ล้านบาท โตขึ้นราว 11% รวมมียอดรายได้โตขึ้นกว่า 35% จากปีก่อนหน้า ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 17% ติดอันดับท็อปทรีของตลาดเครื่องปรับอากาศในประเทศไทย ส่วนในปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 8,000 ล้านบาท โตขึ้น 25% ซึ่งถือเป็นสัดส่วนรายได้ในประเทศอยู่ที่ 10 % และเรายังมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกทั่วโลกอีก 90 %



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ