ตลท.มั่นใจตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวเร็ว-ยันศก.ภูมิคุ้มกันดี

วันพุธที่ 05 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ตลท.มั่นใจตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวเร็ว-ยันศก.ภูมิคุ้มกันดี


ตลท.มั่นใจตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้เร็ว หากคุมไวรัสโคโรน่า ไเปิดสถิติทุกวิกฤตที่เกิดขึ้นใช้เวลาไม่นานพลิกฟื้น เหตุเศรษฐกิจไทยมีภูมิคุ้มกันดีมีภาระหนี้ต่อจีดีพีต่ำกว่า40% มีเงินทุนสำรองแข็งแกร่ง มีเงินเฟ้อต่ำ  ระบบธนาคารมีเงินทุนสำรองแข็งแกร่ง ส่วนภาวะลงทุนเดือน ม.ค.ลดลงในทิศทางเดียวกับภูมิภาค

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า แต่คาดว่าจะฟื้นตัวได้เร็ว เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังมีพื้นฐานแข็งแรง เรามีภาระหนี้ต่อจีดีพีต่ำกว่า40% มีทุนสำรองที่แข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ภาคการธนาคารมีเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง รวมทั้ง รัฐบาลอาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม  จึงเชื่อมั่นว่า จะสามารถรองรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าได้ และเมื่อสามารถควบคุมหรือหยุดการแพร่ระบาดของโรคได้ก็เชื่อว่าตลาดหุ้นก็จะฟื้นกลับมา

อย่างไรก็ตามตลาดหลักทรัพย์ยังไม่มีการปรับเป้าหมายใดๆเพราะขณะนี้จะเห็นว่า แผนต่างๆเดินหน้าเช่น   แผนการนำบริษัทขายหุ้นไอพีโอในปีนี้ ยังคงเป้าหมายเดิม โดยมีมูลค่ามาร์เก็ตแคปใหม่ IPO 2.5 แสนล้านบาทใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยช่วงประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในเดือนมกราคม 2563 ตลาดหลักทรัพย์ไทยได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยโดยเฉพาะจากการระบาดของโคโรน่าไวรัสซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การควบคุมโรคมีแนวโน้มที่ดี จากความเข้มงวดของรัฐบาลจีน และการรักษาผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพในประเทศไทย แม้ว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันในเดือนมกราคม แต่ในระยะยาวเศรษฐกิจไทยยังคงเดินหน้าต่อไปได้ด้วยปัจจัยขับเคลื่อนอื่น ได้แก่ การบริโภคภาคเอกชน การส่งออกในช่วงที่เงินบาทอ่อนค่า และการลงทุนภาครัฐโดยเฉพาะโครงการต่อเนื่องของระบบคมนาคม และหากดูตัวเลขจากการระดมทุนด้วยการเพิ่มทุนของบริษัทจดทะเบียน จะพบว่าในเดือนม.ค.อยู่ที่ 8,600 ล้านบาท ซึ่งทำให้เห็นว่าภาคธุรกิจเองก็ยังคงเดินหน้าลงทุนตามแผน

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ณ สิ้นเดือนมกราคมปี 2563 ปิดที่ 1,514.14 จุด ลดลง 4.2% จากสิ้นปีก่อน โดย กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ให้ผลตอบแทนมากกว่า SET Index

  · ในเดือนมกราคม 2563 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 17,230 ล้านบาท

   · มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนมกราคม 2563 อยู่ที่ 62,987 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.4% จากค่าเฉลี่ยทั้งปี 2562

  · Forward และ Historical P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนมกราคม 2563 อยู่ที่ระดับ 15.2 เท่า และ 18.4 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.9 เท่า และ 15.4 เท่าตามลำดับ

  · อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมกราคม 2563 อยู่ที่ระดับ 3.4% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.9%

  · มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนมกราคม 2563 อยู่ที่ 16.2 ล้านล้านบาท ลดลง 4.1% จากสิ้นปี 2562

   · ในเดือนมกราคม 2563 มูลค่าการระดมทุนครั้งแรก (IPO) ของไทยอยู่ที่ระดับ 225 ล้านบาท ในขณะที่การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน (SPO) มีมูลค่ารวม 8,601 ล้านบาท

ส่วนภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในเดือนมกราคม 2563 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 482,707 สัญญา ซึ่งเพิ่มขึ้น 12.7% จากค่าเฉลี่ยทั้งปี 2562

 

 

 

 

 

 

 

 

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ