นางสาวมัลลิกา จิรพัฒนกุล ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายขาย บริษัท แลคตาซอย จำกัด กล่าวว่า สำหรับยอดขายของแลคตาซอยในปี 2562 ที่ผ่านมา นับว่ามีการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย โดยประสบความสำเร็จ เป็นอย่างดีจากการจัดเปิดตัวแคมเปญใหม่ “ดื่มนมถั่วเหลือง ดื่มแลคตาซอย” นับเป็นการตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดนมถั่วเหลือง อันดับ 1 ในใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน รวมไปถึงการจัดกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วม และเป็นการคืนกำไรให้กับผู้บริโภคอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทได้วางแผนการดำเนินธุรกิจผลักดันยอดขายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ด้วยการเปิดตัวและทำตลาดนมถั่วเหลืองแลคตาซอย โกลด์ซีรีย์ สำหรับผู้รักสุขภาพใน 4 รสชาติ ได้แก่ เอ็กซ์ตร้าช็อกโก น้ำนมถั่วเหลืองคุณภาพดีผสมช็อกโกแลตจากเนเธอร์แลนด์ , คอลลาเจน ไฟเบอร์ น้ำนมถั่วเหลืองที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนมากกว่า 6,500 มิลลิกรัมต่อ 1,000 มิลิลิตร, ชาเขียวมัทฉะ น้ำนมถั่วเหลืองผสมชาเขียว มัทฉะแท้ 100% และ ไฮแคลเซียม ผสมโสมสกัด รสชาติเข้มข้น มีจินเอนโนไซด์ และวิตามินบี12 ดูแลเรื่องการทำงานของระบบประสาทและสมอง โดยบรรจุขนาด 180 ml จำหน่ายในราคากล่องละ 15-16 บาท และขนาด1000 ml จำหน่ายในราคากล่องละ 70-75 บาท ซึ่งจะวางจำหน่ายครอบคลุมทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น คอนวีเนียนสโตร์, ซูเปอร์มาร์เกต, ร้านโชว์ห่วย และช่องทางอื่น ๆ รวมถึงการขายผ่านช่องทาง ออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม

ทั้งนี้ บริษัทได้วางไว้ประมาณ 150 ล้านบาท ในการทำตลาดและโฆษณากลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยมี “ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่” นักแสดงสาวสุดฮอต มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ สะท้อนถึงความมีสุขภาพดี แบบพรีเมียม ดูดีมีระดับในแบบฉบับของผู้ที่ดื่มนมถั่วเหลืองแลคตาซอย โกลด์ ซีรีย์ เน้นสื่อสารครอบคลุมทุกช่องทางทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนช่วยผลักดันยอดขายแลคตาซอยในปีนี้ ให้เติบโตขึ้น โดยวางเป้าหมาย การเติบโตของผลิตภัณฑ์แลคตาซอยและผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งในตลาดประเทศไทยและต่างประเทศ

“แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันหันมาให้ความใส่ใจกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ดังนั้นการทำตลาด นมถั่วเหลืองแลคตาซอย โกลด์ซีรีย์ เราจึงมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ในกลุ่มพรีเมียมที่มีไลฟ์สไตล์ต้องการมีโภชนาการที่ดี ชอบความแปลกใหม่ และมีความนิยมเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายนี้คือกลุ่มคนที่มีวิถีชีวิตแบบคนเมือง ส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมไปถึงหัวเมืองใหญ่ ๆ ทั่วประเทศ นับว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 49.8% และมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง”