นาย ไมเคิล เดวิด แลมบ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า เจ็ทส์ ประเทศไทยได้เริ่มขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วในประเทศไทยมาตั้งแต่ต้นปี 2561 และดำเนินการตามแผนการเติบโตของธุรกิจมาอย่างต่อเนื่องจน ปัจจุบันมีสาขารวมกว่า 22 แห่ง โดยแบ่งเป็นกรุงเทพฯ 17 แห่ง นนทบุรี 2 แห่ง พัทยา 2 แห่ง และโคราช 1 แห่ง อีกทั้งบริษัทตั้งเป้าขยายสาขาให้ได้ราว 12-18 สาขาต่อปี โดยทุกสาขาของเราจะโฟกัสอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอสหรือเอ็มอาร์ที และตั้งอยู่ในย่านการค้าและชุมชนที่อยู่อาศัยที่มีประชากรหนาแน่นในกรุงเทพฯ ตลอดจนจังหวัดใหญ่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ และในปีนี้เราตั้งเป้าจะเปิดอีก 10 สาขา ซึ่งจะทำให้ภายในสิ้นปีนี้เจ็ทส์ ฟิตเนส มีสาขาทั้งหมดรวม 32 แห่งทั่วประเทศซึ่งแต่ละสาขาวางงบประมาณลงทุนอยู่ราว 40 ล้านบาท บนพื้นที่ประมาณ 1,000 ตารางเมตร และเป้าหมายภายในอีก 5 ปีจากนี้มั่นใจว่าจะสามารถขยายได้ครบ 100 สาขา ตามเป้าที่วางไว้
“เราถือเป็นผู้ให้บริการฟิตเนสที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีอัตราการขยายตัวรวดเร็วที่สุดอยู่ที่เฉลี่ย 1 สาขาต่อเดือน โดยปัจจุบันมี Member กว่า 25,000 ราย โดยเฉลี่ยสาขากว่า 1,000 คน ดังนั้นอีก 10 สาขาที่เปิดในปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มสมาชิกได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย นี่คือการเติบโตที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ไม่เพียงแต่ภายในภาคอุตสาหกรรมฟิตเนสของไทยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงในภูมิภาคเอเชียทั้งหมด นอกจากนี้ เรายังเป็นเชนฟิตเนส 24 ชั่วโมงรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาดถึง 60% ในด้านจำนวนสาขา และคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะมีจำนวนสาขารวมทั้งหมดมากกว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆและสามารถผลักดันขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ได้ในอนาคต”
ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า แม้ว่าขณะนี้จากการวิเคราะห์ว่าสภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่ตนเองเล็งเห็นว่าเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ จากการศึกษาข้อมูลล่าสุดพบว่า กว่า 70% ของสมาชิกฟิตเนสในกรุงเทพฯ เข้าไปออกกำลังกายในฟิตเนสเป็นเวลา 2-6 ครั้งต่อสัปดาห์ ดังนั้นมองว่าสภาวะดังกล่าวไม่ได้มีผลต่อธุรกิจฟิตเนส เพราะคนก็ยังคงให้ความสนใจในการออกกำลังกาย อีกทั้งในเรื่องแนวโน้มของสังคมสูงวัยที่เพิ่มมากขึ้นก็ยิ่งเป็นโอกาสที่ดีอย่างหนึ่งในการผลักดดันในธุรกิจฟิตเนสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น เจ็ทส์จึงได้คิดการบริการฟิตเนสที่สามารถตอบโจทย์ข้อจำกัดด้านเวลาและความต้องการออกกำลังกายที่หลากหลายให้แก่ลูกค้าในวัยทำงาน ตลอดจนออกแบบคัดสรรการออกกำลังกายที่เหมาะกับผู้สูงอายุที่ต้องการฟิตร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ อาทิ ออกโปรแกรมการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุที่ผนวกวิธีการดูแลตัวเองเข้ากับระดับความเข้มข้นของการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อการออกกำลังกายที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
