PANUS กวาดยอดขายรถโลจิสติกส์ 3,400 คัน ครองเจ้าตลอดต่อเนื่อง เดินหน้าพัฒนางานบริการสู่ระบบ AI ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม พร้อมยกระดับโครงการ “Panus Logtech 2020” คัดคนโลจิสติกส์ระดับหัวกะทิทั้งในไทยและเวทีอาเซียนสู้ตลาดโลก
นางสาวณัชชา วงศ์คำภู ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด (PANUS) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดรวมรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ หรือรถโลจิสติกส์ในเมืองไมยมีการแข่งขันสูงขึ้นกว่าปีก่อน เนื่องจากปัจจัยหลายด้านซึ่งส่งผลกระทบให้ตลาดรวมในประเทศไทยตกลง 8% และในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา มียอดการสั่งซื้อลดลงอย่างเห็นได้ชัด คนในวงการผู้ผลิตได้รับผลกระทบหมด ทั้งนี้ ลูกค้าที่ดำเนินธุรกิจขนส่งและรถเช่าก็ซบเซาไม่สามารถลงทุนเพิ่มได้ จึงส่งผลกระทบให้ภาพรวมตลาดรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ลดลง
“แม่ตลาดรวมจะลดลง แต่ทางพนัสฯ มียอดที่ขยับขึ้นถึง 9% และสัดส่วนการตลาดของบริษัทรวมยอดขายทุกประเภทยังคงเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 24% ซึ่งถือว่ามากที่สุดและยังครองแชมป์เหมือนทุกปี โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา มียอดขายทั้งหมดอยู่ที่ 3,400 คัน”
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2563 นี้ ทางพนัสฯ ได้ตั้งเป้าไว้ที่ 3,900 คัน เป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นทุกปี ประมาณ 4% และจะมองเรื่องผลประกอบการให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยสินค้าที่มีสัดส่วนการตลาดเพิ่มขึ้นคือ ประเภทรถบรรทุกกึ่งพ่วงพื้นเรียบก้างปลา เพราะเป็นเจ้าตลาดอยู่แล้ว โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 67% รถบรรทุกกึ่งพ่วงพื้นเรียบอยู่ที่ 28% และรถบรรทุกตู้ผ้าเป็นมีสัดส่วนอยู่ที่ 40%
ทั้งนี้ ทางพนัสฯ ยังพัฒนาขึ้นไปอีกระดับในด้านบริการให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น โดยนำระบบการจัดการและโซลูชั่นโดยใช้องค์ความรู้เกี่ยวกับ AI เข้ามาเสริมในการจัดการระบบ เพื่อความพึงพอใจและความสะดวกของลูกค้าที่เข้ามารับบริการด้วย
ส่วนงานด้านบริการนั้น ทางพนัสฯ ได้ขยาย Panus S Plus ครอบคลุมทั่วประเทศ จำนวน 200 แห่ง เพื่อความสะดวกในการเข้ารับบริการของลูกค้า แต่สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงคือพฤติกรรมของลูกค้าคือการเข้ารับบริการมากขึ้น จากเดิมลูกค้าจะนำเข้าไปเช็คเฉพาะหัวลากหางพ่วงก็จอดทิ้งไว้ไม่ได้เข้าทำการตรวจเช็คสภาพหางพ่วง แต่ปัจจุบันเมื่อมีศูนย์บริการ Panus S Plus ที่ประจำกับดีลเลอร์และศูนย์บริการหัวลากพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไป จะเข้ารับการดูแลตรวจเช็คทั้งหัวลากและหางพ่วงไปพร้อมกันโดยวัดจากคูปองตรวจเช็คสภาพที่เรามอบให้ซึ่งไปในทิศทางที่ดีและส่งผลดีกับลูกค้า
นอกจากนี้ ทางพนันฯ ยังเร่งก่อสร้างโรงงานที่เป็นไลน์การผลิตรถกึ่งพ่วง โดยคาดว่าจะมีกำหนดเปิดในช่วงเดือน มิถุนายนปี 2563 นี้ ซึ่งเป็นแผนเริ่มต้นเปิดโรงผลิตแรกก่อน หลังจากนั้นก็จะเป็นโรงถัดไป
นอกเหนือจากเรื่องการลงทุนแล้วทางพนัสฯ ยังคงเดินหน้าเรื่องการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการขนส่งกับโครงการ Panus Thailand Logtech Award โยในปี 2563 นี้ จะมีการพัฒนาโครงการนี้ให้กว้างขึ้นคือจะเปิดรับสมัครผู้เข้าประกวดเป็นระดับอาเซียน ซึ่งอาจจัดขึ้นในประเทศอื่นหรืออาจจัดขึ้นที่ประเทศไทย เพื่อยกระดับผู้เข้าประกวดของประเทศไทยสู่เวทีนานาชาติ จะได้เปิดรับองค์ความรู้ใหม่ๆ และแนวคิดด้านการพัฒนานวัตกรมขนส่งของประเทศต่าง ๆ และนำไปสู่การพัฒนาตัวเองเข้าสู่การแข่งขันระดับประเทศและระดับโลก
