โตชิบา หวังตลาดไอทีฟื้นแท็บเล็ตไม่ชิงกำลังซื้อ

วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556

โตชิบา หวังตลาดไอทีฟื้นแท็บเล็ตไม่ชิงกำลังซื้อ


ผู้ประกอบการไอที หวังตลาดไอทีกลับมาหลังแท็บเล็ตดึงกำลังซื้อผู้บริโภคจนทำให้ยอดซื้อขายโน้ตบุ๊กตกลงในปีที่ผ่านมา มาปีนี้โตชิบามั่นใจตลาดไอทีกลับมาเติบโตร้อยละ 6 ประเมินคนไทยเรียนรู้และเข้าใจถึงข้อจำกัดและการใช้งานแท็บเล็ตทำให้ตลาดไอทีพลิกกลับมาเติบโตอีกครั้ง
นายถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยถึงตลาดไอทีในปี 2556 ว่ามีการเติบโตได้อีกครั้งหลังจากในปีที่ผ่านมายอดขายสินค้าไอทีตกลงอย่างมากโดยเฉพาะตลาดโน้ตบุ๊กที่ตกลงมากถึงร้อยละ 20-30 จากการคาดการณ์ โดยการกลับมาของตลาดไอทีมาจากการที่คนไทยมีประสบการณ์ในการใช้แท็บเล็ต พบว่าสินค้าชนิด นี้นำมาใช้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพกล่าวคือนำมาใช้ทำงานในองค์กรเพื่อแทนโน้ตบุ๊กไม่ได้
ดังนั้น ไอดีซีจึงประเมินว่าตลาดโน้ตบุ๊กไทยในปีนี้อยู่ที่ 2.5 ล้านเครื่อง และตลาดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะอยู่ที่ 1 ล้านเครื่องหรือเติบโตขึ้นร้อยละ 6 จากปีที่ผ่านมา ถือเป็นการกลับมาทำให้มีการเติบโตและขยายตัวได้หลังจากปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการที่คนไทยนิยมซื้อหาแท็บเล็ตมาใช้งานกันมากจนทำให้สิ้นปีที่ผ่านมาตลาดแท็บเล็ตไทยมียอดขายอยู่ที่ 2.5 ล้านเครื่องซึ่งเป็นยอดขายที่มากกว่าตลาดโน้ตบุ๊กอีก
นายถกลกล่าวว่าแม้ปีนี้ตลาดแท็บเล็ตจะมีการ ขยายตัวต่อเนื่องและคาดการณ์ว่าจะมียอดขายมากกว่า 2.5 ล้านเครื่องเนื่องจากมีแท็บเล็ตที่ราคาต่ำประมาณ 100-200 เหรียญสหรัฐ เป็นจำนวนมาก เมื่อรวมกับโครงการแท็บเล็ตของกระทรวงศึกษาธิการอีกจำนวน 1.7 ล้านเครื่อง ทำให้ยอดขายปีนี้น่าจะสูงมากกว่าปีที่ผ่านมาอีกมาก โดยเฉพาะแท็บเล็ตกลายเป็นสินค้าที่คนไทยซื้อหากันได้ง่ายและใช้งานได้สะดวก
ทั้งนี้ จากการเติบโตของแท็บเล็ตที่ผ่านมาหลาย ปี คนไทยมีประสบการณ์และพบว่าแท็บเล็ตใช้งานได้ไม่ครบทุกอย่างรวมถึงมีความไม่สะดวกเพราะระยะเวลาในการใช้งานน้อยกว่าโน้ตบุ๊กที่ใช้งานได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมง หรือเพียงพอในการใช้งานทั้งวัน ขณะที่แท็บเล็ตใช้งานได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมงไม่เพียงพอ
"เรียกการเติบโตของแท็บเล็ตว่าเป็นปรากฏการณ์ได้เหมือนการเติบโตของเน็ตบุ๊กที่เติบโตมากในช่วงต้นแต่หลังจากคนมีประสบการณ์ในการใช้งานพบว่ามีข้อจำกัดในการใช้งานมากทำให้ตลาด เน็ตบุ๊กถดถอยลงจนสุดท้ายก็ต้องหายไปจากตลาดไอที เนื่องจากคนไม่นิยมซื้ออีกต่อไป"
นอกจากนี้ ในแง่ของตลาดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะของไทยแม้จะไม่เติบโตขึ้นแต่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี เพราะมีการปรับเปลี่ยนจากการซื้อคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปไปเป็นคอมพิวเตอร์แบบออล-อินวัน หรือ AOL โดยสินค้ากลุ่มนี้มีส่วนแบ่งตลาดเติบโตขึ้นเป็นร้อยละ 20-30 จากเดิมมีส่วนแบ่งเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น
จากตัวเลขการเติบโตข้างต้นทำให้ไทยเป็นตลาดที่นิยมคอมพิวเตอร์แบบออล-อินวัน มากที่สุดในตลาดเอเชียใหญ่กว่าตลาดในอินโดนีเซียหรือมาเลเซีย ซึ่งมีประชากรมากกว่าไทย
นายถกลกล่าวว่า การตัดสินใจซื้อสินค้าไอทีของคนไทยมีส่วนผสมของการดูที่ฟังก์ชั่นการใช้งานและซื้อตามความนิยมหรืออารมณ์ซึ่งผู้ผลิตมักจูงใจและสร้างบรรยากาศในการใช้เพื่อเสริมบุคลิกและยกระดับให้เป็นคนทันสมัยและมีเสน่ห์มากกว่าการใช้อุปกรณ์ชนิดอื่น แท็บเล็ตก็เป็นสินค้าที่เน้นที่การสร้างอารมณ์ให้คนอยากใช้งาน
อย่างไรก็ตาม ตลาดไอทีไทยจะกลับมามียอดขายเติบโตอีกหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กจะพัฒนาและนำเสนอสินค้าที่ใช้งานง่ายและตรงกับความต้องการมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการใช้งานให้เข้ากับพฤติ-กรรมคนได้มากกว่าที่ผ่านมา


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ