“เดอะมอลล์” จับ “กูร์เมต์” ดันสู่สแตนอโลน สู้รบสมรภูมิตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตไทยแข่งเดือด

วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2562

“เดอะมอลล์” จับ “กูร์เมต์” ดันสู่สแตนอโลน  สู้รบสมรภูมิตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตไทยแข่งเดือด


นายชัยรัตน์ เพชรดากูล ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต กูร์เมต์ มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า  จากสถานการณ์การแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้นของซูเปอร์มาร์เก็ตเมืองไทยในปัจจุบันถ้าคนทำธุรกิจไม่มีการพัฒนาหรือปรับตัว ก็อาจจะถูกคู่แข่งแย่งลูกค้าไปได้ ดังนั้นบริษัทจึงได้เตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขัน ด้วยการวางแผนขยายธุรกิจสู่ร้านค้าแบบสแตนอโลน จากเดิมที่เน้นพัฒนาสโตร์ในพื้นที่ของเราเท่านั้น ในปีนี้เราจึงเตรียมงบลงทุนราว 140 ล้านบาทเพื่อรุกสู่ตลาดสแตนอโลนในทุกมุมเมือง โดยมีแพลนเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 3 สาขาในปีนี้  แบ่งงบลงทุน 70 ล้านบาท เปิดที่พุทธมณฑลสาย 2 ซึ่งจะเปิดบริการช่วงต้นเดือนธันวาคม คาดเป้ายอดขาย 300 ล้านบาท/ปี และสาขา 2 เปิดที่อ่อนนุช ใช้งบลงทุน 60 ล้านบาท มีพื้นที่ 1,600 ตารางเมตร คาดเป้ายอดขาย 200 ล้านบาท/ปี และส่วนสาขาที่ 3 ได้นำร่อง “กูร์เมต์ ไทย” ขนาดพื้นที่ 140 ตารางเมตร ตกแต่งในคอนเซ็ปต์ไทยวินเทจ ที่โครงการ I’m Chinatown เยาวราช ชูจุดเด่นคือ มีกูร์เมต์ มาร์เก็ต ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบหลายรายการ เพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว คาดเป้ายอดขาย 50 ล้านบาท/ปี 

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ วางแผนขยายสาขากูร์เมต์มาร์เก็ตทุกรูปแบบรวมประมาณ 5 สาขาต่อปี หรือลงทุนประมาณ 400 ล้านบาทต่อปี และจะขยายนอกเครือข่ายของเดอะมอลล์มากขึ้นด้วย อีกทั้ง บริษัทฯ ยังมีแผนปรับโฉม “โฮมเฟชรมาร์ท” ปรับให้มาเป็น กูร์เมต์มาร์เก็ตทั้งหมด เพื่อพัฒนารูปแบบซูเปอร์มาเก็ตและนำสินค้าและการบริการที่หลากหลายเข้าตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

ทั้งนี้ ตลาดรวมค้าปลีกอาหารมีประมาณ 1 ล้านล้านบาท แยกเป็น โมเดิร์นเทรด 60% และเทรดิชันนัลเทรด 40% และเติบโตเฉลี่ย 1.5% ซึ่งกูร์เมต์มาร์เกตยังมีส่วนแบ่งน้อยมากแค่ 2% เนื่องจากมีสาขาน้อย ทั้งๆ ที่เป็นตลาดที่มีศักยภาพ การที่จะเปิดแต่ในเดอะมอลล์อาจจะน้อยเกินไป ซึ่งสาขาใหม่ของเดอะมอลล์ที่รออยู่ก็เช่น ที่แบงค็อกมอลล์ตรงถนนบางนา-ตราด ดิเอ็มสเฟียร์ ถนนสุขุมวิท เป็นต้น

ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า  สำหรับภาพรวมตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตในครึ่งปีแรกของปีนี้เป็นไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่ในซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นสินค้าจำเป็นที่ลูกค้าต้องใช้ในชีวิตประจำวันทั้งสินค้าอุปโภค – บริโภค รวมถึง ความหลากหลายของสินค้าและจำนวนสาขาเปิดใหม่ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมตลาดธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยเติบโตขึ้น 1.5% โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ เครื่องดื่ม , ของใช้ส่วนตัว  และสินค้ากลุ่มอุปโภคในครัวเรือน โดยพฤติกรรมผู้บริโภคจะซื้อสินค้าเมื่อต้องการ เท่าที่ต้องการ ไม่นิยมซื้อสินค้าตุนไว้ รวมถึง จำนวนครั้งในการจับจ่ายสินค้าเพิ่มขึ้น แต่มูลค่าการซื้อต่อครั้งลดลง โดยคาดว่าในครึ่งปีหลังจะเป็นโอกาสที่ดีมากขึ้น เนื่องจากนับเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวและธุรกิจค้าปลีก คาดว่าจะสามารถดันกำลังซื้อของลูกค้าช่วงไตรมาสสุดท้ายให้เติบโตได้ประมาณ 3-5 % สำหรับกูร์เมต์ มาร์เก็ต และ โฮม เฟรช มาร์ท ปีนี้คาดว่าจะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ทำรายได้ไว้ 11,800 ล้านบาท”

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ