นายทาคุจิ อิชิฮาระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โคเมเฮียว จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) กล่าวว่า โคเมเฮียว ได้ทำธุรกิจ รับซื้อและขายสินค้าแบรนด์เนมมือ 2 ที่ญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 70 ปี ธุรกิจดังกล่าวนั้นเป็นรูปแบบธุรกิจที่ทำการรับซื้อสินค้ามาจากลูกค้าที่ไม่ได้ใช้สิ่งของนั้นแล้ว เอามาทำการซ่อมแซม เพื่อจำหน่ายต่อให้กับลูกค้าที่มีความต้องการสินค้านั้นๆ ซึ่งที่ญี่ปุ่นมีสินค้าหลากหลายทั้ง กระเป๋านาฬิกา เครื่องประดับ และ เสื้อผ้า เป็นต้น โดยปัจจุบันแบรนด์ของเราถือเป็นเบอร์หนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ด้วยจำนวนสาขาทั้งหมด 39 สาขาและภายในสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 42 สาขา และมียอดขายต่อปีประมาณ 45,000 ล้านเยน หรือกวา 13,500 ล้านบาท จากมูลค่าการซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมมือ 2 ในญี่ปุ่นซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2.5 แสนล้านเยนต่อปี หรือกว่า 75,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น นิยมซื้อสินค้าแบรนด์เนมมือ 2 สูงมากโดยโคเมเฮียวที่ญี่ปุ่นเองก็เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมที่นักท่องเที่ยวชาวไทยหลายคนรู้จักและไว้วางใจ โดยเดินทางมาใช้บริการโคเมเฮียวสาขาต่าง ๆ ในญี่ปุ่นมากจนติดอันดับหนึ่งในสาม ซึ่งในปัจจุบันโคเมเฮียวได้ดำเนินกิจการอยู่ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น ฮ่องกง และจีน และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองนาโกย่าซึ่งสาขาที่มีจำนวนลูกค้าชาวไทยเข้าไปใช้บริการมากที่สุด ได้แก่ ชินจูกุ กินซ่าและนาโกย่า ตามลำดับ
โดยเมื่อปี 2561 บริษัทได้ขยายธุรกิจเข้ามาในประเทศไทย ภายใต้บริษัท สหโคเมเฮียว จำกัด เพราะเล็งเห็นตลาดดังกล่าวมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากมูลค่าตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือ 2 ในไทยคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 1,000-2,000 ล้านบาท มีการเติบโตประมาณ 10-20% ดังนั้น เราจึงได้จึงตัดสินใจทุ่มเงินลงทุน 5 ล้านบาท ไม่รวมกับสินค้ามูลค่าหลักสิบล้านเปิดร้านโคเมเฮียว แฟลกชิพสโตร์ ที่ห้างสรรพสินค้าเซน เป็นสาขาแรกในประเทศไทย ซึ่งนอกจากภายในร้านจะมีสินค้ากระเป๋า และนาฬิกา แบรนด์เนมหรู มากมาย โดยราคาสินค้าที่จำหน่ายในร้านเริ่มต้นที่หลักหมื่นบาทขึ้นไป นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายผ่านออนไลน์ด้วยไม่ว่าจะเป็นช่องทางเวปไซต์และหน้าเพจเฟศบุ๊ค เป็นต้น ซึ่งจะมีประเภทสินค้ารวมแล้วกว่า 1,000 รายการ
ส่วนด้านการวางแผนการตลาดจะมี ทั้งในส่วนของการรับซื้อและการขายสินค้า โดยจะปรับงบประมาณให้เหมาะสมตามช่วงเวลาด้วย สำหรับแผนดำเนินธุรกิจในประเทศไทยที่เราได้วางไว้ระยะยาวประมาณ 3 ปี นับจากนี้ ตั้งเป้าจะขยายสาขาให้ครบ 4-5 สาขา และคาดว่าจะมียอดขายราว 300-400 ล้านบาท โดยยังคงโฟกัสในโลเคชั่นย่านใจกลางเมือง เช่น สยาม สุขุมวิท ชิดลม เป็นต้น สำหรับสาขาแรกแห่งนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 54 ล้านบาท ในปีนี้
ด้าน นายวิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า บริษัท สหโคเมเฮียว จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนกับญี่ปุ่นโดยมีทุนจดทะเบียน 140 ล้านบาทในช่วงธันวาคม 2561 ถือหุ้นโดยคนไทยร้อยละ 51 และญี่ปุ่นร้อยละ 49 ซึ่งทางโคเมเฮียวมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าสนใจเนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวไทยต่างเข้าไปช้อปสินค้ามือสองที่ญี่ปุ่นมากเป็นอันดับ 2 รองจากประเทศจีน และมีการใช้จ่ายเฉลี่ย 2-3 แสนบาท ต่อคนต่อครั้ง มาเปิดโคเมเฮียวสาขาแรกในไทยและเป็นสาขาแรกในต่างประเทศที่ใช้ชื่อว่า โคเมเฮียว
