ปี ๆ หนึ่ง ช่างผ่านไปไวเหลือเกิน อีกเพียงเดือนเศษ ๆ ก็จะเข้าสู่เทศกาลแห่งความสุข เฉลิมฉลอง ที่ทุกคนก็ทราบกันดีอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นวันคริสมาส และ เทศกาลต้อนรับปีใหม่ 2020 และในทุก ๆ ปี ช่วงเวลาดังกล่าวหลาย ๆ คนก็จะต้องมีการออกเดินทางไปท่องเที่ยว หรือ จับจ่ายใช่สอยซื้อสินค้า ของใช้ ของขวัญ ต่าง ๆ มากมายในช่วงที่มีเทศกาล
แน่นอนเหล่าบรรดาห้างร้านสรรพสินค้าก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างสีสัน ความคึกคัก ในช่วงเวลาดังกล่าว ในการจัดสถานที่ให้สวยงามเข้ากับเทศกาล พร้อมออกแคมแปญ โปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม ต่าง ๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นอารมณ์ให้ผู้บริโภคได้เกิดความรู้สึกอยากมาเดินห้าง มาถ่ายรูป มาจับจ่ายใช้สอยกัน และนี้เองถือเป็นช่วงเวลาทองของเหล่าธุรกิจห้างค้าปลีกต่างๆ ที่จะสามารถโกยยอดขายได้มากในช่วงเทศกาลดังกล่าวนั้นเอง
ล่าสุด 2 ค่ายห้างค้าปลีกยักษ์ในไทย อย่าง “บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด” และ “บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น” ไม่รอช้า ขอสตาร์ทเครื่องก่อนใครจัดประดับประดาตกแต่งห้าง พร้อมออกแคมแปญ โปรโมชั่นมากมายเตรียมต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขที่จะมาถึงในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าก่อนใคร เพื่อกระตุ้นและสร้างยอดขายได้นานขึ้น
เริ่มที่ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด นำโดย นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด กล่าวว่า สำหรับภาพรวมทิศทางธุรกิจรีเทลในช่วงโค้งสุดท้ายของปีเริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตจากปัจจัยบวกต่างๆ ทั้งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภาครัฐ ที่หนุนให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยมีความคึกคัก ส่งผลให้มีการกระจายของเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น หลังจากที่ในช่วงไตรมาสที่3ค่อนข้างนิ่ง ๆ ไป แต่ในช่วงเดือนตุลาที่ผ่านมามองว่าก็กลับมาคึกคักดีขึ้นอีกครั้ง จากอานิสงส์โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐผ่านแคมเปญ “ชิมช้อปใช้” ทั้งเฟส 1และ 2 ที่ผ่านมา โดยมองว่าถ้ามีเฟส 3 เกืดขึ้นอีก พร้อมกับถ้ามีโครงการ “ช้อปช่วยชาติ” ในช่วงปลายปีเกิดขึ้นอีก เชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อตลาดค้าปลีกและเศรษฐกิจโดยรวมให้ดีขึ้น นอกจากนี้ ช่วงปลายปีถือเป็นไฮซีชั่นของทุกธุรกิจ เป็นช่วงที่ลูกค้าจับใช้จ่ายใช้สอยซื้อสินค้า ของขวัญ ของฝาก รวมถึงบริการต่างๆ มากที่สุดช่วงหนึ่ง ดังนั้น ภาคธุรกิจต่าง ๆ เริ่มมีความตื่นตัวลุกขึ้นมาจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นส่งเสริมเสริมการขายกันมากขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปีกันเร็วขึ้นเพื่อให้มีโอกาสสร้างยอดขายสินค้าได้ยาวขึ้น ซึ่งปีนี้ทางกลุ่มเดอะมอล์ กรุ๊ป ก็ได้จัดกิจกรรมภายในห้าง พร้อมแคมแปญขยับมาเร็วขึ้นเช่นกัน
โดย ทาง เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้เตรียมทุ่มงบประมาณกว่า 350 ล้านบาท จัดแคมเปญ “The Mall Group Joy of Giving” ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 62 – 12 ม.ค. 63 รวม 60 วัน ที่เดอะมอลล์ทุกสาขา เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ซึ่งมีกิจกรรมและโปรโมชั้นสินค้าราคาพิเศษ รวมถึงอีเวนต์ต่างๆมากมา ยรวมถึงการสร้างบรรยากาศและประสบการณ์ในการช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้ได้เข้ามาใช้บริการ
สำหรับกลยุทธ์ตลาดไตรมาสที่ 4 ไปจนถึงปี2563 เรายังคงมุ่งเน้นการสร้างห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ปให้เป็นสถานที่ที่ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าอย่างครบครันด้วยหลากหลายกลยุทธ์โดยหนึ่งในนั้นยังคงเป็นเรื่อง “Digitization”คือการใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลในการทำการตลาดแบบครบวงจรทั้งออฟไลน์และออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ เพื่อเข้าถึงความต้องการของฐานลูกค้าหลักของเรา คือลูกค้าM Card ซึ่งมีกว่า 4 ล้านรายและลูกค้า SCB M VISA ที่มีกว่า 6 แสนคน ได้อย่างใกล้ชิด และเน้นเรื่อง “Data Analytics”ในการทำแคมเปญต่างๆ ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อความถูกต้องแม่นยำ ช่วยให้เราเข้าใจลูกค้าและนำไปใช้ในการทำแคมเปญและกิจกรรมต่างๆที่ตรงใจลูกค้าตลอดเวลา
“คาดว่าการจัดแคมเปญและกิจกรรมต่างๆเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่นี้จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อลูกค้าในช่วงปลายปีและช่วยเพิ่มจำนวนคนเข้ามาเดินและจับจ่ายใช่สอยในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ 25% จากช่วงเวลาปกติ โดยคาดว่าช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี สามารถสร้างยอดขายได้รวมกว่า 16,800 ล้านบาท และมั่นใจว่าจะพิชิตยอดขายสิ้นปี 58,000 ล้านบาท”
มาทางอีกด้าน ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ อย่าง “บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น” นำโดย “ ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด” กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่2563 ผนึกพันธมิตรธุรกิจ ทุ่มงบ 400 ล้านบาท เนรมิตศูนย์การค้า 34 แห่งทั้งในและต่างประเทศ ให้กลายเป็นมหัศจรรย์อาณาจักรแห่งความสุข ภายใต้คอนเซปต์ THE KINGDOM OF HAPPINESS 2020 …Where life celebrates ครั้งแรกกับการสร้าง Theme Park อาณาจักรคริสต์มาส สร้างสรรค์ ‘Life-engaged Storytelling’ ด้วย Decoration สวยงามตระการตาของเหล่าคาแรคเตอร์ราชาซานต้าและผองเพื่อนผลงานศิลปินระดับโลก “ฮาวิเย่ กอนซาเลซ บูรโกส” พร้อมด้วยโปรโมชั่นอัดแน่นและอีเว้นท์ยาวนานต่อเนื่องตลอด 46 วันจากนี้จนถึงสิ้นปีรวมมากกว่า 100 อีเว้นท์ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการมอบความสุขให้กับคนไทยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี สร้างปรากฎการณ์ความเป็นที่สุดด้วย ‘6 Super Booster’ บูสต์ความสุขให้คนทั่วโลกด้วย 6 สิ่งที่ห้ามพลาด
“ด้วยวิสัยทัศน์ในการสร้างศูนย์การค้าให้เป็น ‘Center of Life’ หรือศูนย์กลางการใช้ชีวิตในทุกโลเคชั่น ทั้ง 34 ศูนย์ ในประเทศและต่างประเทศที่เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ ประเทศมาเลเซีย โดยซีพีเอ็นมีวิสัยทัศน์ในการมองเห็นว่าศูนย์การค้าในปัจจุบันจะไม่ใช่แค่ Shopping center หรือพื้นที่สำหรับขายสินค้าและบริการ แต่ต้องเป็น ‘Experiencing center’ หรือพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางในการมอบประสบการณ์ที่หลากหลายตามแต่ละไลฟ์สไตล์ของคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนในเจเนอเรชั่นใหม่ๆ ที่โตขึ้นทุกวัน ดังนั้น ทุกกิจกรรมและอีเว้นท์ในศูนย์ฯ ของ ซีพีเอ็นจึงต้องผสมผสานไปด้วยแนวคิดสร้างสรรค์, Innovation ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนในแต่ละช่วงเวลาสำคัญ”
ผู้บริหาร ซีพีเอน กล่าวต่อว่า สำหรับแคมแปญดังกล่าวคาดว่าจะสามารถกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการรวมกันทุกศูนย์ฯในช่วงดังกล่าวเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนถึง 20% หรือวันละประมาณ 1.5 ล้านคน เพิ่มจากปกติที่มีวันละ 1.2 ล้านคน สำหรับอีเวนต์รองรับช่วงปีใหม่ในการเคาน์ดาวน์เราได้แบ่งงบจัดงานช่วงดังกล่าวไว้ราว 30 ล้านบาท จัดอีเวนต์บนลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ที่ใหญ่ขึ้นจากเดิม 1 เท่าตัว เพื่อทำให้เซ็นทรัลเวิลด์เป็นสถานที่เคาน์ดาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ตั้งเป้าหมายจะช่วยดึงดูดทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าร่วมงานดังกล่าวได้ถึง 250,000-300,000 คน
“เรามั่นใจมากว่าการจัดงานต้อนรับเทสกาลทั้งคริสมาสและปีใหม่ที่ยิ่งใหญ่ในปีนี้ ของห้างในเครือซีพีเอน ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 – 6 มกราคม 2563 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา เซ็นทรัลเฟสติวัล และ เซ็นทรัล ภูเก็ต รวม 34 แห่งทั่วประเทศ จะสามารถช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของไทยคึกคัก และตอกย้ำภาพของประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียอย่างแท้จริง”