คมนาคม ไม่มีถอย! ตั้ง 2 ทนายสู้คดีโฮปเวลล์เต็มที่

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

คมนาคม ไม่มีถอย! ตั้ง 2 ทนายสู้คดีโฮปเวลล์เต็มที่


คมนาคม สู้ไม่ถอยตั้ง 2 ทนาย พิจารณา-สู้คดีโฮปเวลล์ “นิติธร” เตรียมบุกยื่น 4 หน่วยงาน ช่วยปฏิบัติหน้าที่ ลั่นพบกระบวนการไม่ชอบด้วยกฎหมาย แย้งมติ ครมยัน “โฮปเวลล์ (ประเทศไทย)” ไร้อำนาจ จ่อฟ้องศาลปกครองพิจารณาตัดสิน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังเป็นประธานประชุมคณะทำงานศึกษากรณีโครงการโฮปแวลล์แล้ว มีความเป็นไปได้ว่าฝ่ายรัฐสู้ได้ ดังนั้นกระทรวงคมนาคมจึงมีการแต่งตั้งทนายความ 2 ท่าน เพื่อมาดำเนินการสู้คดีดังกล่าว คือ นายศุภชัย ใจสมุทร ทนายความ  และนายชนินทร์ แก่นหิรัญ ทนายความ ในฐานะตัวแทนทนายของกระทรวงคมนาคม โดยเหตุผลที่เลือกทนายทั้ง 2 ท่านนี้ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ และเพื่อให้เข้ามาช่วยเป็นที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย และพิจารณาให้รอบคอบรัดกุมมากยิ่งขึ้น 

“เรื่องคดีโฮปเวลล์ผมสู้มาตั้งแต่เแรกแล้ว ซึ่งการดำเนินการของกระทรวงฯ ต้องมีที่ปรึกษาด้านกฎหมายเข้ามาช่วยและทั้งสองท่านก็มีประสบการณ์และความรู้ความสามารถที่จะมาดูเรื่องตรงนี้  ซึ่งมองว่าจะเป็นการช่วยกันดูในรายละเอียด หลังจากประชุมวันนี้เรามีไทม์ไลน์ไว้หมดแล้ว”

ด้านนายนิติธร ลํ้าเหลือ หรือทนายนกเขา ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในคดีโฮปเวลล์ กล่าวว่า ‪ในวันที่ 21 พ.ย. 62 นี้ จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ ‬4 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงการคลังสำนักงบประมาณ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกรมบัญชีการ ถึงการปฏิบัติหน้าที่และความรับผิดชอบต่อคดีดังกล่าวนั้น จะต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย ไม่เพียงแค่กระทรวงคมนาคมเท่านั้น เช่นเดียวกับคดีรับจำนำข้าวในอดีตที่ผ่านมา

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะต้องไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากการพิจารณาเอกสาร พบว่า กระบวนการไม่ชอบด้วยกฎหมาย และ รฟท. ไม่มีอำนาจในสัญญาดังกล่าว ขณะที่การเจรจาของ รฟท. กับเอกชนนั้น ยังดำเนินการควบคู่ไปกับการตรวจสอบรายละเอียดด้วย

“กระทรวงการคลังต้องมาช่วยดูด้วย เพราะเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล เหมือนคดีรับจำนำข้าวในอดีต ที่ตอนแรกฟ้องกระทรวงการต่างประเทศ แต่ต้องกลับไปฟ้องกระทรวงการคลัง และคดีนี้ประชาชนทั่วไป ถ้าเห็นเอกสารก็รู้แล้วว่าไม่ถูกต้อง ผิดฝาผิดตัว และเท่าที่ตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว เห็นว่าไม่มีการอนุญาตให้กับบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) มีแต่โฮปเวลล์ (ฮ่องกง) จึงสงสัยว่าโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) เป็นคนมาลงนามในสัญญาได้ไงและมาฟ้องคดีได้ยังไง ซึ่งเรื่องนี้ แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งถ้าไม่ทำ ก็ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด จากพยานทางเอกสาร เนื่องจากเป็นการดำเนินการที่ไม่ตรงกับมติ ครม. และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ รวมถึงต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงว่าเป็นธรรมและถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้ คดีดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสัญญาสัมปทาน ซึ่งศาลปกครองจะเป็นผู้พิจารณาตัดสินต่อไป

“ถ้าถามความเห็นส่วนตัวของผมนะ ไม่เกี่ยวข้องกับคณะทำงาน และคณะรัฐมนตรี เรื่องนี้เป็นเรื่องของเอกสาร ไม่ใช่เรื่องบุคคล และผมจะไม่ยอมจ่ายค่าเสียหาย เพราะข้อมูลที่เรามี เห็นว่าหลายกระบวนการไม่เป็นไปตามกฎหมาย และสัญญาไม่น่าจะมีผลบังคับใช้”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ