“BNK48” หวั่นธุรกิจ ไอดอลหญิง ตัน ผันชื่อสู่ “i AM” นำร่องสยายปีก 2 โปรเจ็คใหม่

วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

“BNK48” หวั่นธุรกิจ ไอดอลหญิง ตัน ผันชื่อสู่ “i AM” นำร่องสยายปีก 2 โปรเจ็คใหม่


นายจิรัฐ บวรวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Independent Artist Management จำกัด (iAm) กล่าวว่า จากกระแสของวง BNK48 ภายใต้ Business model AKB48 ที่ทางเราทำแพลตฟอร์มนี้ในช่วง2ปีที่ผ่านมาซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในประเทศไทยทั้งในด้านความนิยม และรายได้ ส่งผลให้ภาพของ BNK48 สร้างความจดจำให้กับคนทั่วไปคือวง idol girl group ที่สามารถสร้างรายได้กว่า 50% ให้กับบริษัท จากฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่น แต่ถ้าหากมองในแง่คอนเทนต์เพลงกระแสของ BNK48 เริ่มจะซาลง แต่ถ้าเรามองในแง่ของบิซิเนสโมเดลจริงๆแล้ว ธุรกิจ ของ บริษัท BNK48 office จำกัด ยังสามารถนำไปขยายธุรกิจใหม่อื่น ๆ ที่หลากหลายได้อีกมาก ซึ่งไม่จำกัดการบริหารเฉพาะวง BNK48 เท่านั้น ดังนั้น บริษัทเราต้องการให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน จึงเป็นสาเหตุที่บริษัทจึงได้เปลี่ยนชื่อจาก บริษัท BNK48 Office จำกัด มาเป็น iAm โดยมีพันธกิจในการลงทุนและบริหารศิลปิน นักร้อง รวมไปถึง Influencer ที่หลากหลายและครบวงจรโดยสายธุรกิจหลัก 3 ประเภทของ iAm คือ

1.ธุรกิจ Idol management ภายใต้ AKB48 model ซึ่งมี BNK48 ที่ยังคงสร้างผลงานใหม่ๆออกมา และมีรุ่นต่อไป และล่าสุดกับการเปิดตัว CGM 48 ไปไม่นานมานี้

2.กลุ่มBoy Idol ผ่านการร่วมทุนในชื่อ บริษัท Dream Society management จำกัด (DMS) ด้วยทุนจดทะเบียน 10ล้านบาท ซึ่งiAm ถือหุ้น 60% และติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี ถือหุ้น 40% โดยDMS จะใช้บิซิเนส โมเดล ของ BNK 48 มาปรับใช้ ภายใต้ชื่อ " The Brothers" School of gentlemen ที่จะเปิดตัวในเดือนพ.ย นี้ ได้ดารานักแสดงและนักร้อง 4คน มาร่วมพัฒนาไอดอลชาย คือ ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี, มาริโอ้ เมาเร่อ, อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม และนิชคุณ หรเวชกุล โดยจะเห็นสมาชิก The Brothers รวม 20คน ได้ในช่วงต้นปี2563

3.ธุรกิจ Talent management บริหาร ศิลปิน นักร้องนักแสดง และอินฟลูเอ็นเซอร์ เพิ่มความหลากหลายของคอนเทนต์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาหาศิลปินที่มีความโดดเด่นน่าสนใจ ซึ่งมีหลายโมเดลที่จะใช้ ไม่ว่าจะเป็นการจับมือกับพาร์ทเนอร์ เป็นต้น โดยจะเริ่มเห็นความชัดเจนในช่วงต้นปี2563

ทั้งนี้  สำหรับ 2กลุ่มธุรกิจใหม่ บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้กว่า 100 ล้านบาท ซึ่งมองว่าอาจจะไม่เพียงพอ ในการบริหารและสร้างคอนเทนต์ต่างๆ โดยเฉพาะ The Brothers ที่เบื้องต้นจะมีรายได้จากสปอนเซอร์ชิฟในปีแรก จากนั้นเป็นเรื่องของเมอร์ชั่นไดซ์ ซีดี และคอนเทนต์ตามรอย BNK48 ส่วนBNK48 ช่วงพีคสุดได้งานพรีเซนเตอร์ 10แบรนด์ ปัจจุบันเหลือ 6-7แบรนด์ หรือในสิ้นปีนี้มั่นใจว่า รายได้จะทำได้เท่าปีก่อนที่ 670-680 ล้านบาท และภายใน2ปีจากนี้ คาดว่า บริษัทจะมีรายได้เติบโตขึ้น2เท่า หรืออย่างน้อย 1,000 ล้านบาท มาจากกลุ่มBNK48 50% และ The Brothers กับอินฟลูเอ็นเซอร์ 50% ส่วนอนาคตเชื่อว่าอินฟลูเอ็นเซอร์มีโอกาสทำรายได้มากสุด



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ