"แอปเปิล" เปิดโฉม "ไอโอเอส 7" ระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดสำหรับเติมแต่งบนหน้าจอ ไอโฟนและไอแพด สีสันใหม่สบายตายิ่งขึ้น เริ่มดาวน์โหลดได้ช่วงครึ่งปีหลัง และเปิดตัว "ไอทูนส์ เรดิโอ เซอร์วิส" พร้อมจับมือไบร์ทสตาร์ ลุยธุรกิจรับซื้อคืนไอโฟน กระตุ้นยอดรุ่นใหม่ หลังเริ่มสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้คู่แข่งที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์

แอปเปิล อิงค์ บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ ของสหรัฐฯ เปิด "ไอโอเอส 7" ระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ทั้ง ไอโฟน และไอแพด ใน งานประชุมนักพัฒนา WWDC 2013 ใน นครซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (10 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการยกเครื่องระบบปฏิบัติการครั้งสำคัญที่สุด นับ ตั้งแต่บริษัทเริ่มวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีเปิดตัวไอโฟน รุ่นใหม่

นายโจนี อีฟ ผู้อำนวยการฝ่ายออก แบบผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล กล่าวว่า แอป เปิลเปลี่ยนโฉมไอโอเอส 7 ให้เรียบง่าย ด้วยคีย์บอร์ดแบบใหม่ รูปบนแอพพลิเคชั่น ที่ได้รับการออกแบบใหม่ รวมถึงสีที่สบาย ตามากขึ้น แสดงให้เห็นอินเตอร์เฟซโฉมใหม่ ทั้งไอคอน ลูกเล่นใหม่ "พาเรลแลกซ์ เอฟเฟกต์" ของไอโอเอส 7 ซึ่งจะทำให้มองเห็นเหมือนไอคอน แอพพลิเคชั่นลอย ขึ้นเหนือภาพพื้นหลัง และเอียงไปตามมือของผู้ใช้ การใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ไหลลื่นมากขึ้น การปรับปรุงพยากรณ์อากาศที่มีภาพกราฟิกเคลื่อนไหวแสดง ภาพอากาศ เช่น ฝนตก ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า และนาฬิกาใหม่ ระบบเข็มทิศนำทาง รวม ถึงการทำงานที่เป็นมัลติทาสกิ้งมากขึ้น ซึ่งที่เห็นชัดที่สุดคือสีบนพื้นหลังของแอพพลิเคชั่น "เกม เซ็นเตอร์" ที่กลายเป็นสีขาวแทนสีเขียว

นอกจากนี้ แอปเปิลยังนำเสนอแอพพลิเคชั่นใหม่ อาทิ "คอนโทรล เซ็นเตอร์" ที่ประกอบไปด้วยตัวช่วยในการดาวน์โหลดเพลง และเครื่องมือที่รวม ถึงไฟฉาย "แอร์ดร็อป" คือ ซอฟต์แวร์แบ่งปันข้อมูล ขณะที่ฟังก์ชั่นช่วยเหลือในการถ่ายภาพก็ถูกปรับปรุงให้สามารถปรับแต่งด้วยตัวกรองที่คล้ายกับ "อินสตาแกรม" และการจัดหมวดหมู่อัลบั้มรูป ก็สามารถแบ่งตามปีหรือตามสถานที่ที่ใช้ถ่ายภาพได้แล้ว

ในส่วนซอฟต์แวร์ผู้ช่วยปัญญา "สิริ (Siri)" จะมีการเพิ่มเสียงผู้ชายลงไป เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการให้เสียงของสิริเป็นผู้หญิง พร้อมกับเพิ่มคุณสมบัติให้สิริสามารถเปิดข้อความ เสียง ที่มีผู้ฝากไว้ รวมถึงช่วยเพิ่มหรือลดความ สว่างของหน้าจอไอโฟนหรือไอแพด

ทั้งนี้ ไอโอเอส 7 จะสามารถใช้งาน ได้อย่างเป็นทางการตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้เป็นต้นไป โดยสำหรับไอโฟนนั้น สามารถอัพเกรดได้ตั้งแต่ ไอโฟน 4 ขึ้นไป ขณะที่ไอแพดสามารถอัพเกรดได้ตั้งแต่ไอแพด 2 เป็นต้นไป

บริษัทยังได้ใช้โอกาสเดียวกันนี้เปิดตัว "ไอทูนส์ เรดิโอ เซอร์วิส" ที่ประกอบด้วยช่องเพลงกว่า 200 ช่อง และ ให้บริการโดยไม่คิดค่าธรรมเนียม คาดว่าเพื่อเจาะจงมาเป็นคู่แข่งกับ "แพนดอรา" และ "สปอตทิฟาย" รวมถึง "แม็คบุ๊กแอร์" ขนาด 11 นิ้ว พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน 5-9 ชั่วโมง ด้วย ราคาเริ่มต้น (ราว 30,450 บาท) และ แบบ 13 นิ้ว ที่มีอายุแบตเตอรี่ 7-12 ชั่วโมง สนนราคาเริ่มต้น 1,099 ดอลลาร์ สหรัฐ (ราว 33,520 บาท)

ขณะเดียวกัน แอปเปิล ปิดท้ายด้วยการเปิดตัวระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุด สำหรับคอมพิวเตอร์ตระกูล "แม็ค" ในชื่อ "มาเวอริคส์" หรือ "โอเอส เอ็กซ์" รุ่นที่ 10 ที่มาพร้อมแผนที่และ "ไอบุ๊คส์" อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถอ่านหนังสือออนไลน์ที่ซื้อมาจาก "แอพพลิเคชั่น สโตร์" สามารถดาวน์โหลดได้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้เช่นกัน

ก่อนหน้านี้ ไม่กี่วัน แอปเปิล เปิดกลยุทธ์เรียกความสนใจต่อเนื่อง ล่าสุด เตรียมเริ่มโครงการใหม่ภายในเดือนนี้ โดยให้ลูกค้านำไอโฟนรุ่นเก่า มาขายคืน เพื่อเตรียมพร้อมตลาดสำหรับเครื่องรุ่นใหม่ โดยจับมือกับพันธมิตร "บริษัท ไบร์ทสตาร์ คอร์ป" ตัวแทนจำหน่ายมือถือรายใหญ่ที่ทำโครงการในลักษณะเดียวกันกับผู้ให้บริการระบบ เช่น เอทีแอนด์ที และที-โมบายในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ทั้งแอปเปิล และไบร์ทสตาร์ ยังไม่ให้รายละเอียดใด

ทั้งนี้ โครงการรับซื้อเครื่องคืนของ แอปเปิล คาดว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นความต้องการการซื้อสมาร์ทโฟนราคา แพงอย่างไอโฟนได้มากขึ้น โดยเฉพาะคู่แข่งสำคัญอย่างซัมซุง ที่เริ่มรุกหนักเพื่อขยายตลาดในสหรัฐฯ

ปัจจุบัน แอปเปิลเริ่มสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้คู่แข่งที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยข้อมูลจากบริษัทวิจัย พิว (Pew) ระบุว่า ปัจจุบัน 28% ของสมาร์ทโฟนในสหรัฐฯ ใช้ระบบปฏิบัติ การแอนดรอยด์ ไอโฟน 25% แบล็กเบอร์รี่ 4% และวินโดวส์ โฟน 1%

ขณะเดียวกัน พิว ยังแยกแยะให้เห็นว่า ชาวอเมริกันที่มีรายได้สูงมีแนวโน้มที่จะเลือกใช้และซื้อไอโฟน โดยในจำนวนเกือบครึ่ง หรือ 49% ของครัวเรือนที่มีรายได้เกินกว่า 150,000 เหรียญ สหรัฐต่อปี เป็นเจ้าของไอโฟน ขณะที่คน ทั่วไปส่วนใหญ่ ซื้อหามือถือแอนดรอยด์ มาใช้ ทำให้แอนดรอยด์ครองใจผู้คนในวงกว้างได้มากกว่า