ซีอีโอใหม่ "จีซี" กดปุ่มลุยลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ ในสหรัฐฯ เป้าหมายเพื่อเป็น Second Home Base ​

วันเสาร์ที่ 09 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ซีอีโอใหม่


ซีอีโอใหม่"จีซีกดปุ่มลุยลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐฯเป้าหมายเพื่อเป็นSecond Home Base 

 ​  

ดร.คงกระพันอินทรแจ้งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(CEO) บริษัทพีทีทีโกลบอลเคมิคอลจำกัด(มหาชนหรือGC กล่าวว่าGC ประกาศวิสัยทัศน์พร้อมก้าวไกลไประดับโลกTo be a Leading Global Chemical Company for Better Living / เป็นผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากลเพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตโดยภายใต้วิสัยทัศน์นี้มีคีย์เวิร์ดสำคัญคำได้แก่1) Leading คือการเป็นผู้นำซึ่งในความหมายของGC คือจะต้องวัดผลได้2) Global ความหมายตรงตัวคือการมุ่งสู่ระดับโลกและ3) Better Living สร้างชีวิตที่ดีมุ่งเน้นความยั่งยืนตรงกับนโยบายการทำงานล่าสุดคือสานต่อต่อยอด” โดยGC จะเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้กลยุทธ์3 Steps :

 

• Step Change:  สานต่อสร้างบ้านให้แข็งแรงGC Group ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้วยการสานต่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับฐานการผลิตปัจจุบันของบริษัทที่มาบตาพุดจังหวัดระยองโดยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มPlant Reliability ให้อยู่ในระดับ1st Quartile และต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจด้วยการขยายเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ปลายน้ำและHigh Value Business รวมถึงการขยายตลาดในภูมิภาคSouth East Asia 

 

• Step Out: การหาฐานธุรกิจแห่งที่2 (Second Home Base) ซึ่งมีศักยภาพในการแข่งขันด้านวัตถุดิบหรือการเติบโตของตลาดอาทิโครงการศึกษาการลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐฯที่มีศักยภาพความเป็นต่อด้านวัตถุดิบ(Feedstock) ต่อยอดเข้าสู่ธุรกิจใหม่ด้วยMergers and Acquisitions (M&A) สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด

 

• Step Up: สานต่อแนวคิดการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน(Circular Economy) ซึ่งGC ได้ปฏิบัติอย่างโดดเด่นด้วยความคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อความยั่งยืนสูงสุดและต่อยอดบูรณาการให้เกิดความยั่งยืน(Sustainability) ในทุกธุรกิจและกระบวนการของบริษัทโดยในปี2562 GC ได้รับการจัดอันดับจากDJSI ให้เป็นบริษัทอันดับด้านการสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี

 

ความก้าวหน้าโครงการลงทุนGC มีการลงทุนเพื่อต่อยอดโครงการลงทุนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์อย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมในบริเวณพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือEEC โดยปัจจุบันมีการลงทุนในโครงการหลักมูลค่าการลงทุนกว่า100,000 ล้านบาท

 

โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตOlefins Reconfiguration Project (ORP) เป็นการขยายกำลังการผลิตผ่านการลงทุนในNaphtha Cracker  เพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบที่บริษัทมีอยู่แล้วต่อยอดธุรกิจปลายน้ำในอนาคตด้วยกำลังการผลิตเอทิลีน500,000 ตันและโพรพิลีน250,000 ตันอยู่ในระหว่างการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วประมาณ73% คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี2563 มูลค่าโครงการประมาณ36,000 ล้านบาท

 

โครงการโพรพิลีนออกไซด์(Propylene Oxide :PO) และโครงการโพลีออลส์(Polyols) เพื่อผลิตโพรพิลีนออกไซด์(PO) 200,000 ตันต่อปีและผลิตภัณฑ์โพลีออลส์(Polyols) 130,000 ตันต่อปีมีมูลค่าโครงการประมาณ34,000 ล้านบาทโดยทั้งโครงการเป็นต่อยอดผลิตภัณฑ์โพรพิลีนไปสู่ผลิตภัณฑ์ปลายทางสายโพลียูรีเทน(Polyurethane) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเข้าสู่ผลิตภัณฑ์High Value Business ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการPO คืบหน้าไปแล้ว79% และโครงการโพลีออลส์คืบหน้าไปแล้ว77% คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี2563

 

โครงการร่วมลงทุนในธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรมชั้นสูงในโครงการได้แก่  PA9T 13,000 ตัน/ปีและHSBC 16,000 ตัน/ปีคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี2565 สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่ต้องการขยายธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลายเกรดพิเศษเพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์(Automotive) และเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์(E&E) ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัทคุราเร่จีซีแอดวานซ์แมททีเรียลส์จำกัด(KGC) มูลค่าโครงการประมาณ15,000 ล้านบาท

 

โครงการพลาสติกรีไซเคิลเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางด้านCircular Economy ของGC โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำบรรจุภัณฑ์ขวดพลาสติกที่ใช้แล้วมาเป็นวัตถุดิบในกระบวนการRecycle ได้เม็ดพลาสติกคุณภาพสูงระดับFood-Grade และPackaging-Grade

 

• ร่วมมือกับพันธมิตรแอลพลา  (ALPLA) ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงระดับโลกปฏิวัติการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน

 

• จัดตั้งบริษัทร่วมทุนบริษัทเอ็นวิคโคจำกัด(ENVICCO Limited) ที่นิคมเอเชียมาบตาพุดจังหวัดระยองเพื่อผลิตเม็ดพลาสติกหมุนเวียนคุณภาพสูงชนิดrPET ขนาด30,000 ตันต่อปีและrHDPE ขนาด15,000 ตันต่อปีคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในต้นปี2563 และคาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในปี2564 มูลค่าโครงการประมาณ2,000 ล้านบาท

 

โครงการศึกษาการลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐฯซึ่งโครงการดังกล่าวมีความได้เปรียบในด้านความสามารถในการแข่งขันทางด้านวัตถุดิบนั้นคือมีแหล่งวัตถุดิบEthane ซึ่งมีต้นทุนที่มีความสามารถในการแข่งขันทั้งนี้คาดว่าในช่วงครึ่งปี2563 จะได้ผลสรุปเพื่อตัดสินใจในการดำเนินโครงการดังกล่าวทั้งนี้GC อยู่ในระหว่างการพิจารณาเงื่อนไขต่างๆของโครงการเช่นเงื่อนไขสัญญาการก่อสร้างโครงการและการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการเป้าหมายเพื่อเป็นSecond Home Base ของบริษัท

 

Circular Economy in Action สิ่งที่GC มุ่งเน้นเพื่อสร้างความยั่งยืนมีประเด็นหลักคือ1) การลดก๊าซเรือนกระจกซึ่งมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด2) การนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน(Circular Economy) มาปรับใช้ซึ่งครอบคลุมในส่วนหลักได้แก่

 

• Smart Operating: สร้างธุรกิจรูปแบบใหม่ที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

• Responsible Caring : เป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความยั่งยืนไม่ผลิตสิ่งที่ใช้แล้วทิ้งเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมและต้องพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่ผลิตออกไปจะต้องปล่อยของเสียน้อยที่สุด

 

• Loop Connecting: เพิ่มพลังความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสียและเชื่อมต่อธุรกิจให้ครบวงจรโดยขยายความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในชุมชนและเชื่อมต่อธุรกิจให้ครบวงจรในโครงการUpcycling Plastic Waste อาทิโครงการPPP วัดจากแดง(OUR Khung BangKachao) Think Cycle Bank เป็นต้น

 

GC มุ่งมั่นในการผลิตเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งมีเป้าหมายชัดเจนในด้านการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก(Greenhouse Gas Emission) จากกระบวนการผลิตของบริษัทฯโดยตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง20% ใน10 ปีข้างหน้า(ปี2573) เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาภาวะโลกร้อนสอดคล้องกับเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทยและยังตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง52% ภายในปี2593 เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของโลกในการควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกินองศาเซลเซียส

 

ผลิตภัณฑ์ที่GC ดำเนินการผลิตได้รับการรับรองเครื่องหมายCarbon Footprint และCarbon Footprint Reduction จากองค์การก๊าซเรือนกระจก(TGO) อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี2554 จนถึงปัจจุบันรวมทั้งGC มีการวางเป้าหมายที่จะมีผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษและผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม(Green Chemicals) เพิ่มเป็น30% ภายในปี2573 และยกเลิกการผลิตเม็ดพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งในปีข้างหน้าต่อไป 

 

นอกจากนี้GC ยังได้รับการจัดอันดับเป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์(Dow Jones Sustainability Indices) หรือDJSI ปี2019 โดยได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับของโลกด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยPercentile 100 และอยู่ในระดับTop 10 ของDJSI World และEmerging Markets ในกลุ่มเคมีภัณฑ์(Chemical Sector) ต่อเนื่องเป็นปีที่7

 

นอกจากนี้GC ในฐานะภาคเอกชนที่มีการขับเคลื่อนและนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน(Circular Economy) มาปรับใช้ในการดำเนินการอย่างชัดเจนและต่อเนื่องได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในพันธมิตรด้านความยั่งยืน(Partner for Sustainability) ในการสนับสนุนของที่ระลึกในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่35 โดยGC ได้นำหลักCircular Economy และนวัตกรรมด้านGreen ที่ได้ดำเนินการมานำเสนอต่อผู้เข้าร่วมงานอย่างเป็นรูปธรรม



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ