นิสสัน ลีฟ ใหม่ พิชิตดอยอินทนนท์ เร่ง แรง เงียบ หมดปัญหาเรื่องชาร์จไฟ

วันศุกร์ที่ 01 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

นิสสัน ลีฟ ใหม่ พิชิตดอยอินทนนท์ เร่ง แรง เงียบ หมดปัญหาเรื่องชาร์จไฟ


โดย...สิริวิทย์ บ่อจันทึก

sirivit@yahoo.com

 

นิสสัน ลีฟ คือ รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกๆ ของโลกที่ผลิตมาเพื่อทำการตลาดในเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง และทำสถิติยอดขายสูงสุดในโลก แต่คำถามสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่เจอบ่อยๆ คือ สถานีชาร์จมีที่ไหนบ้าง เพียงพอ หรือไม่ และชาร์จแต่ละครั้งไปได้ไกลแค่ไหน

ในช่วงที่ผ่านมา นิสสัน ลีฟ ได้พยายามหาคำตอบ และพิสูจน์ให้เห็นถึงความพร้อม และความสะดวกสบายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยประเดิมให้สื่อมวลชน ทดสอบนิสสัน ลีฟ ในเขตกรุงเทพ มหานคร และปริมณฑล มาแล้ว โดยพิสูจน์ให้เห็นว่าชาร์จเพียงครั้งเดียวไปได้ทั้งวัน ถือเป็นเป็นการทดสอบขับขี่อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ที่ นิสสัน จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เรียบง่ายอย่างอัศจรรย์ หรือ Simply Amazing” โดยมีธีมงานที่ชื่อว่า ‘rEVolution’

ล่าสุด นิสสัน ลีฟ ใหม่ ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 เปิดให้พิสูจน์สมรรถนะด้วยการพิชิตยอดดอยอินทนนท์ ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,565 เมตร ภายใต้การชาร์จไฟฟ้าเพียงครั้งเดียว ในระยะทางท้าทายยิ่งขึ้นกว่า 200 กิโลเมตร เริ่มต้นจากในตัวเมืองเชียงใหม่ ขับขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์ จากนั้นเดินทางกลับสู่ที่พัก ซึ่งการทดสอบขับนี้ ใช้พลังงานไฟฟ้าจากการชาร์จเพียงเต็มครั้งเดียว

ราเมช นาราสิมัน ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า การขับขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์บนถนนที่มีช่องจราจรเดียว เป็นการทดสอบที่สามารถพิสูจน์สมรรถนะในแต่ละด้านของรถได้เป็นอย่างดี         การขับลงในพื้นที่ลาดชัน ยังแสดงให้เห็นถึงระบบฟื้นฟูพลังงานที่เป็นความเรียบง่ายอย่างอัศจรรย์ของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ รวมถึงเทคโนโลยี e-Pedal ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในลีฟ โดยเราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบอย่างลีฟ ได้มอบประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในการพิชิตภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศไทยได้

สำหรับ ระบบฟื้นฟูพลังงาน ช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่เมื่อใช้ชะลอความเร็ว มอเตอร์ไฟฟ้าเปลี่ยนพลังงานที่สูญเสียจากการเบรกกลับมาเป็นพลังงานไฟฟ้า เช่นระหว่างทางลดจากยอดดอยอินทนนท์ นิสสัน ลีฟ ใหม่สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้ากลับมาได้สูงสุดถึงกว่า 20% ทั้งนี้ความสามารถดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่และความลาดชันของเส้นทาง โดยการขับใน โหมด ‘B' ของลีฟ จะช่วยให้ผู้ขับขี่ได้การฟื้นฟูพลังงานที่มากยิ่งขึ้นในขณะที่ชะลอความเร็ว

สำหรับ นิสสัน ลีฟ ใหม่ มอบความเรียบง่ายแต่น่าอัศจรรย์ หรือ “Simply Amazing” นำเสนอวิสัยทัศน์ของนิสสันเกี่ยวกับการขับเคลื่อนในอนาคต นิสสัน ลีฟ เจนเนอเรชั่นที่ 2 นี้สามารถขับได้ไกลมากยิ่งขึ้น พร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และการดีไซน์ที่ปราดเปรียว ผู้ขับขี่จะรู้สึกมั่นใจและตื่นเต้นมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของนิสสันในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขับขี่ยานยนต์ รวมถึงการทำให้ยานยนต์เป็นพลังขับเคลื่อน และเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตของคนในสังคม ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนก้าวไปสู่โลกที่ดีขึ้น โลกที่มีใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น มีการเชื่อมต่อกันมากขึ้น และเป็นระบบขับขี่อัตโนมัติมากขึ้น

นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี มี 3 ด้านหลัก ได้แก่ เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เทคโนโลยีพลังการขับเคลื่อนอัจฉริยะ (Intelligent Power) และเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Intelligent Integration)

เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะที่โดดเด่นในลีฟ ใหม่ คือ อี-เพดัล (e-Pedal) และ นิสสัน เซฟตี้ ชิลด์ (Nissan Safety Shield)

นิสสัน ยกระดับนวัตกรรมประสบการณ์ขับขี่ให้ลีฟ ใหม่ ด้วย e-Pedal ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใหม่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ผู้ขับขี่ในการออกตัว เร่งความเร็ว ชลอความเร็ว หยุดนิ่งและควบคุมตัวรถให้อยู่กับที่ด้วยการใช้แป้นคันเร่งอย่างเดียว ถือเป็นนวัตกรรมที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ได้อย่างสิ้นเชิง   ด้วยอัตราการชะลอความเร็วที่สูงถึง 0.2G เพียงยกเท้าออกจากคันเร่ง ตัวรถจะลดความเร็วจนหยุดนิ่งได้อย่างนุ่มนวล โดยไม่จำเป็นต้องแตะแป้นเบรก เทคโนโลยี e-Pedal ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องยกเท้าจากแป้นคันเร่งเพื่อเหยียบแป้นเบรกบ่อยครั้งเมื่อต้องการชะลอระดับความเร็วหรือหยุดรถ ซึ่งช่วยลดความเมื่อยล้าและเพิ่มความเพลิดเพลินในการขับขี่

นิสสัน ลีฟ ใหม่ ยังติดตั้งเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูง ได้แก่ เทคโนโลยีเตือนการชนด้านหน้า เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉิน กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง  พร้อมเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน เทคโนโลยีช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง  และเทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่

เทคโนโลยีพลังการขับเคลื่อนอัจฉริยะ (Intelligent Power)  หัวใจหลักของเทคโนโลยีพลังการขับเคลื่อนอัจฉริยะในลีฟ ใหม่ คือระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (e-powertrain) ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน พร้อมกับมีแรงบิดและพละกำลังที่สูงขึ้น ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่มอบสมรรถนะที่ต่อเนื่อง และเร้าใจด้วยการส่งกำลังที่ 110 กิโลวัตต์ มากกว่าลีฟ        เจนเนอเรชั่นก่อนหน้า 38 เปอร์เซ็นต์ มีแรงบิดเพิ่มขึ้น 26 เปอร์เซ็นต์เป็น 320 นิวตันเมตร ส่งผลให้มีอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นโดยมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม/ชม ด้วยเวลาเพียง 7.9 วินาที ผู้ที่ขับขี่ลีฟ จะชื่นชอบกับการตอบสนองที่ทันท่วงที เพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่มากขึ้นกว่าเดิม

ไม่เพียงจะมีพละกำลังเพิ่มขึ้น ลีฟ ใหม่ ยังมีระยะทางขับขี่มากขึ้นด้วยเช่นกัน ด้วยชุดแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนชุดใหม่ขนาด 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ให้ระยะทางขับขี่ตามมาตรฐานการวัดค่าไอเสียและอัตราสิ้นเปลือง NEDC (New European Driving Cycle) ที่ 311 กิโลเมตร ซึ่งตอบสนองต่อการขับขี่ในชีวิตประจำวันของลูกค้า ส่วนใหญ่ได้อย่างน่าพึงพอใจ

เทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Intelligent Integration) ระบบ Vehicle-to-grid ของแบตเตอรี่ของนิสสัน ลีฟ ใหม่ สามารถสะสมพลังงานให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้จากพลังงานส่วนเกินในเวลากลางวัน เพื่อนำกระแสไฟฟ้ามาใช้งานภายในบ้านช่วงกลางคืน การเชื่อมต่ออัจฉริยะของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะเปลี่ยนภูมิทัศน์ด้านพลังงานอย่างสิ้นเชิง ทำให้เจ้าของรถลีฟ จะได้รับประโยชน์ต่างๆ จากบริษัทพลังงานที่ต้องการสร้างโครงข่ายไฟฟ้าที่มีความเสถียร เพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้า โดยผู้ใช้งานลีฟ สามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์ในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเป็นช่วงที่มีอัตราค่าไฟฟ้าต่ำสุดในบางประเทศ เพื่อนำมาใช้ในช่วงกลางวันเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน

ในการออกแบบภายใน บรรยากาศที่หรูหราแต่แฝงด้วยความเรียบง่าย ผ่อนคลาย และทันสมัยภายในห้องโดยสารของลีฟ ใหม่ มีความกว้างขวาง และสะดวกสบายมากขึ้น ที่ยึดหลักการออกแบบของ    นิสสัน Gliding Wing เป็นแนวทางหลัก  การปรับดีไซน์ให้หน้าจอและรูปแบบของไฟแสดงข้อมูลของคนขับเรียบง่ายขึ้น ทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจน มีความเรียบหรู และตอบสนองด้านพื้นที่และการใช้งาน ผู้ขับขี่ลีฟ ใหม่ สามารถมองเห็นข้อมูลที่จำเป็นในตำแหน่งที่เหมาะสม ช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิกับการขับขี่ที่สนุกและเพลิดเพลิน

ในการทดสอบโดยเริ่มต้นจากโรงแรมวีเรนด้า ไอ รีสอร์ท ต.บ้านปง อ.หางดง จ.หวัดเชียงใหม่ หลังชารจ์เสร็จหน้าปัดบอกตัวเลข 100% ไปได้ด้วยระยะทาง 267 กิโลเมตร  มุ่งสู่ดอยอินทนนท์ แม้เส้นทางมีโค้งและสภาพสูงต่ำต่างกัน ทั้งสูงชัน คดเคี้ยว   แต่แรงบิดสูงสุดถึง 320 นิวตันเมตร สามารถให้อัตราเร่งอย่างน่าทึ่ง แซงได้อย่างมั่นใจ รวมถึงมอบการขับขี่ที่สะดวกสบายขณะขับขี่ แม้นบนเส้นทางที่คดเคี้ยวได้อย่างราบรื่น และไร้มลพิษ เสียงเครื่องยนต์เงียบ เวลาเร่งก็ไม่มีเสียงดังบดขยี้ให้ได้ยิน เหมือนขับรถที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมัน ให้ความรู้สึกเหมือนขับบนทางเรียบธรรมดา

เมื่อขับไปถึงยอดดอย ที่สถานีรายงานดอยอินทนนท์ บนความสูง 2,565 เมตร จากระดับน้ำทะเล หน้าปัด บอกว่า พลังงานเหลือ 29% ทำให้ในช่วงขับลงเขา ได้ใช้โหมด ‘B'  ทำให้สามารถฟื้นฟูพลังงานที่มากยิ่งขึ้นในขณะที่ชะลอความเร็ว จนถึงด่านตรวจด้านล่าง พลังงานฟื้นฟูกลับมาที่ 43%  กลับสู่โรงแรมวีเรนด้า แบบไร้กังวล แถมเหลือพลังงานอีก 9% รวมระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร

หลังทดสอบ นิสสัน ลีฟ ใหม่ รถยนต์ไฟฟ้า 100% ได้รับรับรู้ถึงสมรรถนะภายใต้สภาวะที่ท้าทายที่สุดบนภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีที่เป็นเลิศ ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและการฟื้นฟูพลังงานไฟฟ้าขณะเบรกและชะลอความเร็ว หรือที่เรียกว่า regenerative braking system  และขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการใช้ รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง นิสสัน ลีฟ ใหม่ นอกจากนี้ ยังได้คลายข้อสงสัยในสมรรถนะรถไฟฟ้า อย่างสิ้นเชิง ทั้งทางเรียบและทางชัน และน่าจะเป็นการสร้างความคึกคักให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในเป็นอย่างดี และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่สนใจในรถไฟฟ้ายิ่งขึ้น 

โดยลูกค้าที่จอง ลีฟ ใหม่ จะได้รับการประกันคุณภาพรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมการรับประกันระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และการรับประกันการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่เป็นเวลา 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร อีกด้วย ปัจจุบัน มีผู้จำหน่ายฯ รถยนต์ไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ อย่างเป็นทางการ 33 แห่งทั่วประเทศ



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ