“แพทย์” ชี้ บุคคลไดกระทำสิ่งที่ผิด อย่าอ้าง “ป่วยทางจิต” เหตุทำให้คนมองผู้ป่วยจิตเวชจริงในแง่ลบ ซัดกลับ อยู่ที่พฤติกรรมมากกว่า แนะ ควรมีสติใช้รถใช้ถนน

วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2562

“แพทย์” ชี้ บุคคลไดกระทำสิ่งที่ผิด อย่าอ้าง “ป่วยทางจิต” เหตุทำให้คนมองผู้ป่วยจิตเวชจริงในแง่ลบ  ซัดกลับ อยู่ที่พฤติกรรมมากกว่า แนะ ควรมีสติใช้รถใช้ถนน


จากกรณีข่าวดังใหญ่โตในโลกโซเชียล “หนุ่มแว่น” หัวร้อน ที่เกิดอาการโมโหรุนแรง จากเหตุการณ์เกิดอุบัติเหตุรถกะบะชนรถฮอนด้าซีวิคคันเป็นล้านของตน บนท้องถนน จนเกิดอาการโกรธอย่างหนัก ด่าทอ ต่อว่าด้วยคำพูดที่ดูถูกคู่กรณีอย่างรุนแรง จนลามปามไปถึงด่าคนไทย และสถาบันฯ จนกลายเป็นประเด็นทอร์คออฟเดอะทาร์ว พูดถึงบนโลกซียลกันอย่างมาก

จนกระทั้งมีประชาชนบางส่วนไปรอด่าทอหนุ่มแว่นคนนี้ที่โรงพักจำนวนมากเมื่อวานก่อน จนยิ่งเกิดเป็นประเด็นไม่จบไม่สิ้น แต่จากคำให้สัมภาษณ์ของทางพ่อและแม่ หนุ่มแว่น หัวร้อนคนนี้นั้น ได้บอกว่าลูกตนเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จากกรณี้ดังกล่าวแพทย์จึงได้ออกมาอธิบายชี้แจ้งในเรื่องนี้ให้คนไทยได้ทราบกันว่าพฤติกรรมดังกล่าวของหนุ่มแว่นเกิดจากอาการป่วยที่มาจากโรคซึมเศร้าจริงหรือไม่  

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในปัจจุบันการเดินทางบนท้องถนนเป็นเรื่องที่เครียดสำหรับใครหลายๆ คน เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลานานอยู่บนท้องถนนที่มีการจราจรติดขัด เกิดมลภาวะ และมีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่ค่อยเคารพกฏจราจรและขับขี่อันตราย ความเครียดต่างๆ เหล่านี้ อาจก่อให้เกิดการกระทบกระทั่งบนท้องถนนได้บ่อยครั้ง ซึ่งการบันดาลโทสะบนท้องถนน หรือ road rage มักพบได้ตั้งแต่การแสดงภาษากาย การแสดงความรุนแรงทางวาจา การทะเลาะวิวาททางกายภาพ หรือแม้แต่การใช้อาวุธทำร้ายร่างกายกัน โดยส่วนมากมักจะเริ่มจากความรุนแรงเล็กๆ และขยายตัวเป็นความรุนแรงที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ การทะเลาะกับคนแปลกหน้าบนท้องถนนเล็กน้อยอาจนำไปสู่ปัญหาที่เป็นคดีความทางอาญาได้หากไม่มีวิธีการป้องกันที่ดี

อย่างไรก็ตาม จากการที่มีการกล่าวอ้างถึงปัญหาความรุนแรงบนท้องถนนกับอาการป่วยทางด้านสุขภาพจิตของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในหลายๆ เหตุการณ์ สังคมไทยควรทำความเข้าใจว่า แม้การมีปัญหาด้านสุขภาพจิตควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และปัญหาด้านสุขภาพจิตบางกลุ่มโรค เช่น โรคทางอารมณ์ โรควิตกกังวล ที่อาจทำให้มีอารมณ์แปรปรวนง่าย เศร้าเสียใจ หรือหงุดหงิดได้ง่ายกว่าปกติ อาจจะทำให้ผู้ป่วยควบคุมอารมณ์ได้ยากก็ตาม แต่พฤติกรรมหรือการกระทำที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นล้วนเป็นการตัดสินใจส่วนบุคคล ทุกคนมีสิทธิเลือกวิธีตอบสนองอารมณ์ของตัวเองภายใต้ความรับผิดชอบของตัวเอง

ดังนั้นปัญหาสุขภาพจิตจึงไม่ควรถูกยกมาเป็นคำอธิบายในการกระทำไม่ดีต่อผู้อื่นหรือกระทำไม่ดีกับสังคม เพราะจะทำให้สังคมมองภาพลักษณ์ผู้ป่วยจิตเวชในแง่ลบ โดยขอฝากทิ้งท้ายว่า สังคมไทยควรเรียนรู้ที่จะยืนหยัดในการทำสิ่งที่ถูกต้อง ไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้ที่จะให้อภัย อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับการป้องกันความรุนแรงที่เหมาะสมที่ควรทำในการขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนน มีดังนี้

1.เผื่อเวลาก่อนออกเดินทาง เพราะเส้นทางอาจมีการจราจรติดขัดหรือมีอุบัติเหตุ การเผื่อเวลาจะทำให้เราไม่ร้อนรนในการขับขี่

2.ตั้งสติก่อนสตาร์ท ให้มีสติรู้ตัวเสมอว่าตนเองกำลังจะไปไหน มีใครรออยู่ และเตรียมสภาพกายและจิตใจให้พร้อมก่อนการขับขี่ยานพาหนะ โดยดูว่ามีความพร้อมหรือไม่

3.สร้างบรรยากาศ โดยการเปิดเพลงที่ชอบและร้องตาม หรือพูดคุยเรื่องดีๆ กับคนที่โดยสารมาด้วย

4.อย่าคาดหวัง เพราะเราอาจต้องพบเจอผู้คนที่มีมารยาทบนท้องถนนแตกต่างกัน จึงไม่ควรคาดหวังว่า เราจะปรับพฤติกรรมของคนอื่นได้ ควรมองการขับขี่ถูกต้องและปลอดภัยของตนเองเป็นหลัก

5.เป็นคนใจดีบนท้องถนน โดยขับขี่เคารพกฏจราจร แบ่งปันน้ำใจต่อผู้ร่วมเส้นทาง ให้อภัย ไม่เก็บเอาความรุนแรงจากคนอื่นมาใส่ใจ ไม่มองถนนเป็นสนามแข่งที่ต้องมาเอาชนะกัน เน้นการเดินทางถึงเป้าหมายอย่างปลอดภัยพร้อมรอยยิ้ม



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ