รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ NIA เผยว่า “จากนโยบายของรัฐบาลที่ได้จัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ขึ้นเพื่อตอบโจทย์สําคัญในศตวรรษที่ 21 ในการวางรากฐานประเทศสู่อนาคต รวมถึงการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ให้มีความอยู่ดีกินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสิ่งแวดล้อมที่ดี และใช้ศักยภาพคนอย่างเต็มที่ โดยกระทรวงฯ ได้มุ่งเน้นการสร้างและพัฒนาคนเพื่อให้เป็น “ประเทศที่มี Smart Citizen” การสร้างและพัฒนาองค์ความรู้เพื่อเป็น “ประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจที่เน้นคุณค่า” รวมถึงการสร้างและพัฒนานวัตกรรมเพื่อมุ่งสู่การเป็น “ประเทศฐานนวัตกรรม หรือ Innovation Nation” ตอบโจทย์การปฏิรูปประเทศ ที่ไม่เพียงให้ความสําคัญกับการสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังให้ความสําคัญกับการลดเหลื่อมล้ำ และการพัฒนาที่กระจุกตัวในสังคม ซึ่งจะต้องอาศัย “นวัตกรรมเพื่อสังคม หรือ Social Innovation” เป็นตัวขับเคลื่อนสําคัญในการสร้างนวัตกรรมที่เกิดคุณค่าต่อสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม ร่วมกันทุกภาคส่วน ผ่านการแบ่งปันและเข้าถึงทรัพยากร องค์ความรู้ ทุน และบริการภาครัฐ ซึ่งขณะนี้ กระทรวงฯกําลังดําเนินงาน เพื่อให้เกิด “1,000 นวัตกรรมชุมชน” โดยมีโครงการหมู่บ้านนวัตกรรม เพื่อสังคมเข้าไปร่วมดําเนินการอยู่ด้วย”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ NIA ซึ่งถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสําคัญในการขับเคลื่อนระบบนวัตกรรมของประเทศ ผ่านกลไกและการประสานงานให้เกิดการทํางานร่วมกันของทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมทั้งด้านเศรษฐกิจและด้านสังคม โดยที่ผ่านมา NIA ได้ให้ความสําคัญกับการส่งเสริมและพัฒนา “นวัตกรรมเพื่อสังคม” อย่างต่อเนื่อง โดยมีการดําเนินงานที่ครอบคลุมทั้งการสร้างธุรกิจนวัตกรรม และการสร้างเครือข่ายนวัตกรรมเชิงสังคม ตลอดจนการขับเคลื่อนโครงการที่มีผลกระทบเชิงสังคมสูงร่วมกับเครือข่ายในหลายพื้น ได้แก่ “โครงการหมู่บ้านนวัตกรรมเพื่อสังคม” ที่เน้นแก้ไขปัญหาจาก ชุมชนในพื้นที่เป้าหมาย “โครงการนวัตกรรมสําหรับเมืองและชุมชน” ที่สามารถผลักดันไปสู่ การใช้งานจริง เพื่อแก้ไขปัญหาในประเด็นท้าทายที่เกิดขึ้นในสังคม เมืองและชุมชน รวมถึง “การพัฒนาสาขาธุรกิจเพื่อสังคม” ที่สร้างความสามารถทางนวัตกรรมของสังคม ลดความเหลื่อมล้ำครอบคลุมทั้งการสร้างธุรกิจ นวัตกรรม และ “การสร้างเครือข่ายนวัตกรรมเชิงสังคม” ที่แสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ระหว่างชุมชน ผู้ประกอบการธุรกิจเพื่อสังคม หน่วยงานวิจัยทั้งภาครัฐและเอกชน โดยการจัดงาน Innovation Thailand Expo 2019 ภายใต้แนวคิด Social Innovation in the City ในปีนี้ จึงถือเป็นเวทีสําคัญในการ นําเสนอมุมมองการเกิดขึ้นของสังคมเมืองในปัจจุบันและการขยายตัวของ เมืองในพื้นที่ต่างๆ ที่ก่อให้เกิดปัญหาด้านสังคมตามมามากมาย ซึ่งสามารถ นํานวัตกรรมเพื่อสังคมมาช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ําของคนในเมือง และ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ทั้งในด้าน “การสร้างรายได้ การสร้างสุขภาพที่ ดี ที่จะนําไปสู่การสร้างความสุขอย่างยั่งยืน”
ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวเสริมว่า “งาน INNOVATION THAILAND EXPO 2019 หรือ ITE 2019 เป็นครั้งแรกกับการนำเสนอ “นวัตกรรมเพื่อสังคม” ซึ่งเป็นหนึ่งทางเลือกสำคัญที่จะช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำของคนในเมือง เพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิตทั้งอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ สร้างรายได้ - นวัตกรรมเพื่อสังคมที่ช่วยสร้างรายได้ สร้างอาชีพ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างสุขภาพ - นวัตกรรมเพื่อสังคมที่ช่วยสร้างสุขภาพที่ดี ทำให้สังคมมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และ สร้างความสุข - นวัตกรรมเพื่อสังคมที่ช่วยสร้างความสุขในการใช้ชีวิตในสังคมเมือง ทำให้เกิดสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่”
ภายในงานมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจหลากหลาย ทั้งงานแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่สร้างสรรค์เพื่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมที่มีความหลากหลาย ซึ่งตอบโจทย์วิถีชีวิตของทุกคนที่อยู่ร่วมกันในสังคมในงานเดียว ตั้งแต่เด็ก วัยทำงาน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส Social Innovation Forum หรือเวทีถ่ายทอดความรู้นวัตกรรมจากผู้เชี่ยวชาญใน 3 หัวข้อ ได้แก่ 1) กรณีศึกษาการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคมจากสถาบันการศึกษาและบริษัทชั้นนำของประเทศ 2) นวัตกรรมเพื่อสังคมกับการแก้ปัญหาในหลายหลายมิติและสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคม และ 3) แนวโน้มนวัตกรรมไทยที่มีต่อสังคมในอนาคต ทั้งด้านหุ่นยนต์ การออกแบบ และสื่อ
“นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปจากผู้ประกอบการที่ได้รับการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคม อาทิ การชมภาพยนตร์สำหรับผู้พิการทางสายตาที่เปิดโอกาสให้ทั้งคนตาบอดและประชาชนทั่วไป การสอนประกอบ Solar Cell อย่างง่ายสำหรับชุมชน การสอนปลูกผักกลางเมืองสำหรับคนในเมือง การสอนธรรมะด้วยดิจิทัลอาร์ต “โพธิเธียร์เตอร์” กิจกรรมเสริมสุขภาพ เช่น การดัดจัดสรีระโดยผู้ด้อยโอกาส และการสอนโยคะสำหรับผู้สูงอายุ และกิจกรรมสำหรับเด็ก/นักเรียน/นักศึกษา เช่น การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น การเตรียมตัวเข้าสู่งานในอนาคต เป็นต้น และในวันสุดท้ายของการจัดงานซึ่งถือเป็นวันนวัตกรรมแห่งชาติ จะมีพิธีประกาศผล และมอบรางวัลสุดยอดนวัตกรรม (Innovation Awards) ให้กับผู้พัฒนานวัตกรรมดีเด่นในหลากหลายประเภท ได้แก่ รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ (ด้านเศรษฐกิจ สังคม การออกแบบ สื่อ องค์กรนวัตกรรมดีเด่น) รางวัลนวัตกรรมแห่งประเทศไทย รางวัล UAV Startup รางวัลแผนธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคม และรางวัลนวัตกรรมข้าวไทย” ดร.พันธุ์อาจ กล่าว