เซ็นไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน 24 ต.ค.นี้

วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2562

เซ็นไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน 24 ต.ค.นี้


คมนาคม เตรียมจับมือ CPH เซ็นสัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน 24 ต.ค.นี้ เร็วกว่าแผน 1 วัน ยืนยันไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้เอกชน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กิโลเมตร.มูลค่า 2.2 แสนล้านบาท ว่า นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เรื่องการลงนามกับเอกชนที่ชนะการประมูลได้เลื่อน เดิมกำหนดเดิมในวันที่ 25 ต.ค. 2562 เป็นวันที่ 24 ต.ค.นี้ เนื่องจากกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัดและพันธมิตร(CPH) ได้แจ้งมาว่ามีความพร้อมและต้องการลงนามสัญญาในวันดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามหลักการปกติ

สำหรับพิธีการลงนามสัญญาโครงการฯ ระหว่าง รฟท. และกลุ่ม CPH จะจัดขึ้นในเวลา 13.30 น. วันที่ 24 ต.ค.นี้ ที่ อาคารภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

"โครงการดังกล่าว เป็นโครงการขนาดใหญ่ จึงต้องลงนามให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าเราได้เริ่มต้นแล้ว และหลังจากลงนามสัญญาแล้วคณะทำงานดูแลการส่งมอบพื้นที่ที่มีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ในฐานะคณะทำงาน ไปเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้าง โดยจะมีแผนการทำงานที่ชัดเจนว่า แต่ละวันจะดำเนินการอะไร ในบริเวณไหนบ้างเพื่อให้เกิดความชัดเจน"

อย่างไรก็ตาม หลังจากลงนามสัญญาแล้ว จะส่งข้อมูลสัญญาและเอกสารแนบท้ายโครงการ ทั้งหมดให้สื่อมวลชนช่วยกันปประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ เพื่อให้ประชาชนและฝ่ายต่างๆ ร่วมกันติดตามว่า มีสิ่งใดไม่ได้เป็นไปตามเอกสารบ้าง รวมถึงต้องการทำความเข้าใจในหลายประเด็นที่คลาดเคลื่อนกันหลายเรื่อง เช่นบอกว่าโครงการมีการปรับร่างสัญญาหลักหรือมีกการเอื้อประโยชน์ให้เอกชน ยืนยันว่าไม่มีอย่างแน่นอน สิ่งเหล่านี้ผมประหลาดใจอย่างมาก

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ก่อนที่เราจะดำเนินการนัดหมายกับเอกชนที่ชนะการประมูล ในเรื่องของการลงนามซึ่งในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้หารือว่าเจะสามสารถส่งมอบพื้นที่ได้อย่างไร ในช่วงนั้นกระทรวงคมนาคม และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีถูกกล่าวหาว่าเป็นการปฎิบัติที่เอาเปรียบกับเอกชน พอกำหนดวันลงนามได้ข่าวก็เปลี่ยนว่าเอื้อต่อเอกชน ทั้งหมดนี้ยืนยันว่าเอาความชัดเจนจากเอกสาร ตัวสัญญา และเอกสารแนบท้ายประกอบ ดำเนินการตาม Request for Proposonal (RFP) โดยจะดูปลผลประโยชน์ของประเทศ และภาครัฐอย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ดี ได้กำชับว่าทางคณะกรรมการคัดเลือกต้องดูฏกหมาย และ RFP ไม่มีอะไรเกินไม่มีอะไรขาด เรื่องนี้มองว่าเป็นเรื่องสำคัญระดับประเทศ เราทุกคนผลักดันทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงเรื่องนี้มาก ซึ่งตนได้เรียนแล้วว่าได้ฟังอภิปรายไหม ปี 2525 เรามีอีสเทิร์นซีบอร์ด เสร็จปี 2533 ต่างประเทศเข้ามาลงทุนแยะเยะก็สามารถทำให้เศรษฐกิจประเทศเจริญเติบโตได้ถึงปี 2540 หลังจากนั้นเราไม่เคยมีการลงทุนทำอะไรเลย จากปี 33-63 ระยะเวลา 30 ปี ท่านนายกฯเริ่มมาตั้งแต่ปี 58 กว่าจะเสร็จปี 68 เรื่องนี้ไม่มีการทำอะไรนอกเหนือจาก RFP และกฎหมายอย่างแน่นอน



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ