“ประภัตร”เกาะติดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร สั่งตรวจตั้งจุดตรวจแนวชายแดนอีสาน

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562

“ประภัตร”เกาะติดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร สั่งตรวจตั้งจุดตรวจแนวชายแดนอีสาน


นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ เพื่อประชุมหารือติดตามมาตรการป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร(African Swine Fever หรือ ASF) โดยจุดแรกเดินทางไปยังสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษจากนั้นเดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ และศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ตามลำดับเพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ โดยมี นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วมประชุม

นายประภัตรกล่าวว่า  จากรายงานสรุปสถานการณ์โรค อหิวาต์ในสุกร ขณะนี้พบการแพร่ระบาดของโรคใน 27 ประเทศ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดชายแดนประเทศไทย ได้แก่ เมียนมา ลาว และกัมพูชา (ยกเว้นมาเลเซีย) อย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสุกรของเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าว

ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ได้เฝ้าระวังติดตามอย่างเข้มงวด ซึ่งประเทศไทยได้มีการเตรียมความพร้อม เริ่มตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. 2561 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศจีนเริ่มเกิดการระบาดของโรคดังกล่าว ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  โดยกรมปศุสัตว์ได้มีมาตรการการควบคุมและป้องกันโรค ASF มาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น ด้านการเตรียมความพร้อม จัดทำแผนเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรและแนวเวชปฏิบัติของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร 

นอกจากนี้รัฐบาลยกระดับแผนเตรียมความพร้อมเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร เป็นวาระแห่งชาติ และมีการจัดตั้ง War Room ในส่วนกลางและภูมิภาค โดยในพื้นที่ส่วนกลางมีอธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นประธาน และส่วนภูมิภาคมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเพื่อขับเคลื่อนมาตรการซ้อมแผนรับมือโรคฯ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมทางห้องปฏิบัติการในการตรวจวินิจฉัยตลอดจนร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ OIE , FAO จัดประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลการเฝ้าระวังและป้องกันโรคฯ 
รวมทั้งด้านมาตรการในการป้องกัน มีการประกาศระงับการนำเข้าสุกรและผลิตภัณฑ์จากสุกรจากประเทศที่มีการระบาดของโรคและบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนในป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำสุกรผลิตภัณฑ์สุกรเข้ามาในประเทศ สำหรับมาตรการเฝ้าระวังได้ จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่X-Ray เคาะประตูบ้าน เฝ้าระวังทางอาการขึ้นทะเบียนและประเมินความเสี่ยงด้วยแอพลิเคชั่น อี -สมาร์ทพลัสพร้อมให้คำแนะนำความรู้เรื่องโรคและการป้องกัน  

นอกจากนี้ ประเทศไทยตระหนักถึงความสำคัญของร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน จึงร่วมจัดทำแผนเตรียมความพร้อมเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ContigencyPlan) เพื่อ ทำให้มาตรการต่างๆ ในการป้องกันโรคสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น จัดทำโรงพ่นยาฆ่าเชื้อทำลายเชื้อโรคที่ด่านชายแดนที่สำคัญ 5 แห่ง ร่วมสนับสนุนเครื่องพ่นยาฆ่าเชื้อและยาฆ่าเชื้อทำลายเชื้อโรค ค่าจ้างเจ้าหน้าที่ในการพ่นยาฆ่าเชื้อให้กับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อป้องกันโรค ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือที่ผู้ประกอบรายใหญ่ช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยให้มีรายได้ป้องกันความสูญต่อเกษตรกรรายย่อย

พร้อมกันนี้ ยังขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งคณะทำงานในการตั้งด่านตรวจป้องกันโรคโดยมีกรมปศุสัตว์เป็นเลขานุการ พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่เสริมในแต่ละด่านซึ่งจังหวัดที่มีพื้นที่ติดชาแดนนั้นมีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก แต่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีนโยบายและมาตรการที่ชัดเจนในการป้องกันโรคดังกล่าวที่สำคัญคือความร่วมมือกับภาคเอกชน โดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรต่างๆที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการทำงาน จึงทำให้ไทยเป็นประเทศที่ไม่มีการเกิดโรค ASF



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ