ผู้นำกองทัพ..‘เปิดหน้าสู้’ เดิมพันที่มีจึงสูงยิ่ง... !!

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ผู้นำกองทัพ..‘เปิดหน้าสู้’  เดิมพันที่มีจึงสูงยิ่ง... !!


 

                กลายเป็น “ประเด็นร้อน” คั่นรายการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วาระแรกที่ได้เปิดอภิปรายกันเมื่อวันที่ 17-19 ตุลาคม ที่ผ่านมา เมื่อ “กองหนุน” คนสำคัญของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงกลาโหม นั่นคือ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ควบเก้าอี้ ส.ว. ออกมา “เดี่ยวไมโครโฟน” บรรยายหัวข้อ “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) 

การบรรยายดังกล่าวของ “พล.อ. อภิรัชต์” ครั้งนี้ นอกจากจะมีนายทหารใหญ่น้อยมานั่งฟังแล้ว ยังมีการเชิญ “แขกพิเศษ” ที่มีทั้งสื่อมวลชน ศิลปินดาราที่ผ่านเวที กปปส. มาร่วมรับฟังอีกด้วย โดยในการ “เดี่ยวไมค์” วันนั้น “พล.อ.อภิรัชต์” ใช้เวลาร่ายยาวกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง เนื้อหาที่บรรยายส่วนใหญ่เป็นการ “จัดหนัก” ฝ่ายการเมือง ทั้ง ซ้ายจัดดัดจริต, ชอบอ้าง 2475 มาชี้นำ, ผึ้งแตกรัง, ลูกพี่ใหญ่หนีไปต่างประเทศ, พวกฮ่องเต้ซินโดรม, ชุมนุมกับเผาบ้านเผาเมือง, ชักศึกเข้าบ้าน, ล้างสมองคนรุ่นใหม่, หนักแผ่นดิน เป็นต้น

โดย พล.อ.อภิรัชต์ ได้แบ่งนักการเมืองออกเป็น 3 กลุ่ม ว่า พวกนักวิชาการ อาจารย์บางคน ที่คบคิดกับพวก คอมมิว นิสต์เดิม เป็น Mastermind เป็นคลังสมองร่วมกับนักเรียนนอก “ซ้ายจัดดัดจริต” ไปเรียนในประเทศที่เคยล่าอาณานิยม อบรมสั่งสอน ไร้จรรยาบรรณ ชอบอ้างตัวเลข 2475 เป็นตัวชี้นำ อ้างว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย แต่มีวาทกรรมจาบจ้วง หรือจะเป็นนักการเมืองบางคน นึกถึงประโยชน์ส่วนตัวและพวก ไม่นึกถึงประ-โยชน์ประเทศ หรือนักการเมืองบางคนที่อยู่ในภาคใต้ เคยมาเกาะแข้งเกาะขาเพื่อนพ่อผม ตั้งพรรคการเมืองมา 20 ปี วันนี้กลับมาเป็นใหญ่เป็นโตอีกครั้ง กลับเอาเรื่องศาสนา การแบ่งแยกดินแดนมาหาเสียงในพื้นที่ จ.ชายแดนใต้

หรือจะเชื่อกลุ่มนักการเมือง ผึ้งแตกรัง ลูกพี่ใหญ่หนีไปต่างประเทศ หรือจะเชื่อนักธุรกิจ เจ้าของโรงงาน ที่เกิดมาคาบ ช้อนเงินช้อนทอง ชีวิตไม่เคยลำบาก พวก “ฮ่องเต้ซินโดรม” เคยชุมนุมกับกลุ่มเผาบ้านเผาเมือง สมคบคิดกับชาวต่างชาติ ชักศึกเข้าบ้าน เจาะพฤติกรรม ล้างสมองคนรุ่นใหม่ เป็นฐานให้ตัวเองเข้าสู่การเมือง มีพฤติกรรมล้มล้างชาติและสถาบัน

พล.อ.อภิรัชต์ บอกว่า ทั้ง 3 กลุ่มนี้ไม่ผิด ถ้าจะขึ้นเป็นผู้นำประเทศไม่ใช่ไม่เคยมี แต่ขอให้เขาไม่มีพฤติกรรมล้มล้างสถาบัน ล้มล้างการปกครอง หาประโยชน์ส่วนตัว ก็เชิญมานำประเทศสู่ความเจริญ

นอกจากนี้ ผบ.ทบ.ยังโต้แนวคิดการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 1 หลังมีนักวิชาการไปเสนอบนเวทีเสวนาของพรรคฝ่ายค้าน ที่ จ.ปัตตานี ว่า ตนไม่ได้ขวางการแก้ รธน. แต่การแก้มาตรา 1 ตนจะ ไม่ยอม เพราะเป็นเรื่องของความมั่นคง ซึ่ง “บิ๊กแดง” ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การแก้มาตรา 1 ก็จะกระทบมาตราอื่นๆ และหมวดอื่นๆ ตามมา โดยชี้ว่าเป็นความชาญฉลาดของนักวิชาการ ว่าสุดท้ายแล้วต้องการแก้ไขสิ่งใด พร้อมย้ำว่าแม้ตนจะตายไป ก็จะมีนายทหารรุ่นน้องขึ้นมาแทน อีกทั้งไม่มี รธน. ใดบนโลกที่ให้แบ่งแยกดินแดนได้

แน่นอนว่าหลังการบรรยายดังกล่าว ก็ได้รับ “ฟีดแบ็ก” ไปเต็มๆ โดยเฉพาะจาก “ฝ่ายตรงข้าม” ว่าการออกมาทอล์กโชว์ของผบ.ทบ.ครั้งนี้เป็นการพูดจนทำให้เกิดบรรยากาศที่อาจนำไปสู่ “ความขัดแย้ง” โดยเฉพาะจากพรรคการเมืองฝ่ายค้านที่ออกมาแสดงความเห็นในเชิงคัดค้านกับสิ่งที่ผบ.ทบ.คนนี้ออกมาระบุ

โดยเฉพาะ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่เปิดเวทีคู่ขนานขึ้นทันที ใช้ชื่อหัวข้อที่ล้อกับ “พล.อ. อภิรัชต์” ว่า “แผ่นดินของเราในมุมมองประชาธิปไตยบทบาทของประชาชนในการสร้างชาติ” โดยตอบโต้กลับว่า พล.อ.อภิรัชต์ ทำลายความชอบธรรมในการแก้ไข รธน. ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ต้องการแก้ไข รธน. ตามเงื่อนไขและกติกาที่กำหนดไว้ใน รธน.60 พร้อมชี้ว่า ใครกันแน่ที่คิดล้มล้าง เพราะคณะรัฐประหารคือผู้ฉีก รธน. ที่ทำให้เกิดสุญญากาศทาง รธน. ขึ้นมา ซึ่งที่ผ่านมาพรรคฝ่ายค้านก็ยืนยันมาตลอดว่าจะไม่มีการแก้ไข หมวด 1 และ หมวด 2

ขณะเดียวกัน ส.ส.หนุ่มวัย 40 ปีผู้นี้ ถามกลับว่า ประชาชนไทยเราจะฝากประเทศไว้ในมือคน 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก คือ กองทัพที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แทรก-แซงทางการเมืองได้เสมอ พร้อมรัฐประหารทุกเวลา และยังติดหล่มอยู่ในยุคสงครามเย็น กลุ่มที่สอง : สื่อยุยงปลุกปั่นที่เขาเรียกว่า “ดาวสยาม 4.0” และกลุ่มที่สาม : รัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจ ซึ่งตอนอำนาจล้นมือยังแก้ปัญหาไม่ได้ แล้วจะปล่อยให้เข้ามาแก้ไขปัญหานั้น ตนคิดว่าไม่มีทาง

ในแวดวงนักวิเคราะห์การเมือง มองการออกมา “โยนระเบิด” ใส่นักการเมืองของผู้บัญชาการทหารบกในครั้งนี้ว่า ในเบื้องต้นฉากหน้าแล้วเป็นการออกมาแสดงความเป็นห่วงประเทศชาติ การพูดของผบ.ทบ.ครั้งนี้น่าจะ “ส่งสาร” ไปถึง “ใครบางกลุ่ม” ได้รู้ว่าผบ.ทบ.คนนี้คิดอะไร  แล้วอยากให้สังคมไทยไปในทางไหน เป็นความคิดฟาก “อนุรักษนิยม”

แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง การออกบรรยายครั้งนี้ของผบ.ทบ.ก็อาจเป็นการกลบกระแส “ขาลง” ของ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯและรมว.กระทรวงกลาโหมก็เป็นได้ เพราะอย่าลืมว่านับตั้งแต่เข้า “กุมอำนาจรัฐ” ของพล.อ.ประยุทธ์และคณะตลอด 5 ปีที่ผ่านมามีเพียงช่วงแรกเท่านั้นที่มีเสียง “ปลื้ม” ในตัวอดีตหัวหน้าคสช.และนายกฯ หากแต่หลังจากนั้นมาก็เริ่มมีคำถามถึงความสามารถในการนำพาประเทศชาติไปในทิศทางไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ต้องเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ทั้งโลกต่างก็ต้องเผชิญ มิต้องพูดถึงประชาชนในระดับรากหญ้าที่ยังต้องเผชิญกับปัญหาปากท้องมาจนถึงวันนี้

อย่าลืมว่า “พล.อ.อภิรัชต์” คือบุคคลที่นายกฯ เห็นฝีมือมานาน โดยเฉพาะในอดีตที่ต้องกรำศึกกับคนเสื้อแดงด้วยกันช่วงปี 2552-2553 โดย พล.อ.ประยุทธ์ นั่งตำแหน่ง 5 เสือ ทบ. ส่วน พล.อ.อภิรัชต์ เป็น ผู้การ ร.11 รอ. ในขณะนั้นมาในยุค รบ.ยิ่งลักษณ์ ทำให้ “บิ๊กแดง” ถูกโยกไปเป็น ผบ.พล.11 ฉะเชิงเทรา และ ผบ.มทบ.14 เพชรบุรีแทน จนมาถึงช่วงก่อนรัฐประหาร 22 พ.ค.57 เพียง 1 เดือน “บิ๊กตู่” ได้โยก “บิ๊กแดง” กลับเข้ากรุง ขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ. ที่ดูแลพื้นที่ กทม. ทั้งหมด แสดงถึงความไว้วางใจที่มีให้        จากนั้น พล.อ.อภิรัชต์ เดินขึ้นตามสายเส้นทางเหล็ก จนได้เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 เรื่อยมาถึง ผบ.ทบ. อันเป็นการ “ตอกย้ำ” ถึงความแนบแน่นไว้ใจกัน

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพลเอกอภิรัชต์จะออกมา “เคลื่อนไหว” ด้วยเพราะว่าความเป็นห่วงประเทศชาติ หรือมีเบื้องลึกในการปรามพรรคการเมืองฝ่ายค้าน โดยเฉพาะการอภิปรายร่างงบประมาณรายจ่ายปี 2562 ที่แม้จะเป็นวาระแรกก็ตาม หลายฝ่ายมองว่า “ได้ไม่เท่าเสีย” เพราะการแสดงออกถึงการรักชาติด้วยการแสดงการกดให้ผู้อื่นรักชาติน้อยกว่าตนนั้น เป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งแยกโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ซึ่งมีหลายครั้งหลายหนกลับกลายเป็นตัวจุดประเด็นเสียเอง

การออกมาพูดของ ‘บิ๊กแดง’ จึงทำให้ถูกตีความไปไกล ว่ามีเบื้องหลังอย่างไร ? เป็นการ ‘เปิดหน้าสู้’ ที่มีเดิมพันสูงยิ่ง... !!



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ