จังหวะการเต้นของชีพจรเศรษฐกิจโลกยามนี้ กำลังสร้างความเป็นห่วงเป็นกังวลใหญ่หลวงต่อบรรดาผู้นำที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดชะตากรรมความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ถึงขั้นถูกหยิบยกเป็นประเด็นปรึกษาหารือกันอย่างเขม็งเคร่งเครียดในที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจของโลก 8 ชาติ ที่รู้จักกันทั่วไปในนาม "กลุ่มจี-8" ที่มหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อไม่กี่วันก่อน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นว่าด้วยความโปร่งใส และเป็นธรรมทางภาษี นายกรัฐมนตรีคาเมรอน เรียกร้องให้มีการร่วมมือกันกวาดล้างและป้องกันการใช้ความเหลื่อมล้ำของข้อกฎหมายด้านภาษีอากร เพื่อช่องทางสร้างความชอบธรรม ในการหลบหลีกการเสียภาษี

ในทรรศนะของเดวิด คาเมรอน เห็นว่า "เขตปลอดภาษี" ซึ่งเป็นสวรรค์ของนักเล่นกลทางภาษีต้องถูกกำจัดออกไป เพื่อสร้างความเป็นธรรมทางการค้าและการลงทุน

โอกาสเดียวกันนี้ ในที่ประชุมจี-8 คราวนี้ยังเห็นพ้องกันว่าแม้เศรษฐกิจโลกจะเผชิญความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่ลดลง แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นไปอย่างเชื่องช้า

ปัจจัยสำคัญที่กดดันให้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวเชื่องช้า เป็นผลสืบเนื่องมาจากเหตุผลหลัก 2 ประการ

ประการแรก เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ "BRIC" ซึ่งประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน ซึ่งเคยมีบทบาทอย่างสูงในการผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา กำลังเผชิญกับภาวะความชะลอตัวทางเศรษฐกิจ

ประการที่สอง เขตเศรษฐกิจสำคัญอย่างสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ยังคงมีลักษณะการเคลื่อน ไหวแบบ "ยักแย่ยักยัน" ก้าวไม่พ้นจากวิกฤตการณ์ตลาดเงิน และวิกฤตการณ์หนี้สาธารณะที่เรื้อรังต่อเนื่องกันมายาวนานกว่า 5 ปี

แม้ชีพจรความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจระดับมหภาคจะหาความแช่มชื่นแจ่มใสมีชีวิตชีวาไม่เจอะเจอ แต่ความเคลื่อนไหวในระดับจุลภาคกลับคึกคักมีชีวิตชีวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเคลื่อนไหวในการแข่งขันแย่งชิงลิขสิทธิ์การแพร่ภาพออกอากาศฟุตบอลเอฟเอคัพในอังกฤษ

ตอนนี้ 4 ค่ายโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ในอังกฤษ ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ถือครองลิขสิทธิ์เจ้าเก่าอย่างอีเอสพีเอ็น บีที ไอทีวี และผู้ท้าชิงหน้าใหม่คือ บีบีซี ที่กอดคอกับ บีสกายบี กำลังเปิดศึกชิงลิขสิทธิ์การแพร่ภาพออกอากาศฟุตบอลเอฟเอคัพสำหรับฤดูกาล 2014/2015 ถึง 2017/2018 กันอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน

กรณีการเข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์ฟุตบอลเอฟเอคัพของบีบีซี ซึ่งเป็นองค์กรแพร่ภาพและกระจายเสียงของรัฐ ที่ได้รับเงินอุดหนุนจากภาษีอากรสำหรับการดำเนินการปีละ 3,500 ล้านปอนด์สเตอริง ได้กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมดงผู้ดีที่อังกฤษในแง่มุมความเหมาะสม

ก่อนหน้านี้บีบีซี ได้สร้างความกังขาไปหมาดๆ กรณีสั่งยกเลิกโครงการเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลเพื่อการผลิตและออกอากาศรายการ ทั้งๆ ที่เสียเงินเสียทองลงทุนไปแล้วถึง 100 ล้านปอนด์สเตอริง

ดูพฤติกรรมชวนพิศวงของบีบีซีแล้ว ให้หวนนึกถึงความพิศวงใน "ไทยพีบีเอส" ที่เมืองไทยขึ้นมาตะหงิดๆ