นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการประกาศนโยบาย Safer Everyday1 และแผนการดำเนินงานด้านความปลอดภัยนับตั้งแต่เดือนตุลาคมในปีที่ผ่านมาธุรกิจให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันของแกร็บทั่วทั้ง 8 ประเทศ (ซึ่งรวมถึงประเทศไทย) มีอัตราความปลอดภัยในด้านอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ และด้านอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่สูงกว่า 1.3 เท่า และ 1.8 เท่าตามลำดับ เมื่อเทียบกับมาตรฐานขั้นต่ำสุดในด้านคุณภาพของการให้บริการ ซึ่งระบุในรายงานผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัยและการให้บริการของอุตสาหกรรมแท็กซี่4 ที่กำหนดโดยหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศสิงคโปร์
ล่าสุดแกร็บได้เปิดตัวสองนวัตกรรมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง ซึ่งประกอบด้วย “Safety Centre” หรือศูนย์ความปลอดภัย ฟีเจอร์ที่รวบรวมบริการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย และ “Passenger Selfie Verification Technology” หรือเทคโนโลยีในการตรวจสอบข้อมูลอัตลักษณ์ของผู้โดยสารผ่านการถ่ายภาพเซลฟี เพื่อสร้างความมั่นใจในทุกการเดินทางให้กับทั้งผู้โดยสารและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ โดยการเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการดำเนินธุรกิจของแกร็บในประเทศไทย ที่มุ่งส่งเสริมให้เกิดการเดินทางที่ปลอดภัยในทุกๆ วัน ผ่านการป้องกันและลดอุบัติภัยทางถนน รวมถึงอาชญากรรมให้กลายเป็นศูนย์
ทั้งนี้ การแกร็บเปิดตัว “Safety Centre” หรือศูนย์ความปลอดภัย ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดซึ่งรวบรวมบริการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการเดินทางไว้ในที่เดียว เพื่อสร้างความมั่นใจยิ่งขึ้นให้กับผู้โดยสาร รวมถึงเพื่อนและครอบครัว ระหว่างการเดินทางกับแกร็บพร้อม “Passenger Selfie Verification Technology” หรือเทคโนโลยีในการตรวจสอบข้อมูลอัตลักษณ์ของผู้โดยสารผ่านการถ่ายภาพเซลฟีสำหรับผู้ใช้บริการรายใหม่ เพื่อการป้องกันอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นกับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่การเปิดตัวนวัตกรรมครั้งนี้สะท้อนเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจของแกร็บในประเทศไทยที่มุ่งเน้นการป้องกันและลดอุบัติภัยและอาชญากรรมในทุกบริการของแกร็บให้กลายเป็นศูนย์
“แกร็บ ผู้นำซูเปอร์แอปแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของการเดินทางในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ โดยพัฒนาและให้บริการการเดินทางขนส่งสาธารณะผ่านเทคโนโลยีที่มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกแก่ผู้โดยสารชาวไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวในประเทศไทย”
สำหรับฟีเจอร์ล่าสุด “Safety Centre” ผู้โดยสารสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของแกร็บที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการเดินทางโดยจะถูกรวมไว้ในที่เดียว อันได้แก่
การแชร์รายละเอียดการเดินทาง: แกร็บ คือผู้ริเริ่มฟีเจอร์ “Share My Ride” เป็นรายแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสร้างความมั่นใจและความรู้สึกปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร ผ่านการแชร์ตำแหน่งปัจจุบัน สถานะการเดินทาง รายละเอียดของคนขับ รวมถึงระยะเวลาโดยประมาณที่ผู้โดยสารจะไปถึงจุดหมาย ให้ครอบครัวหรือเพื่อนๆ ได้รับทราบ
การรายงานปัญหาด้านความปลอดภัย: หากผู้โดยสารรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยระหว่างการเดินทาง เช่น พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ขับรถด้วยความประมาท ก็สามารถรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อให้แกร็บดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที
และ การขอความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน: ในกรณีที่ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ฉุกเฉินขณะเดินทาง ผู้โดยสารสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที นอกจากนี้ ข้อมูลการเดินทางและตำแหน่งปัจจุบันของผู้โดยสารจะถูกส่งผ่าน SMS ไปยัง “บุคคลที่ผู้โดยสารต้องการให้ติดต่อในยามฉุกเฉิน” ที่ระบุไว้ในแอปพลิเคชัน