“โรบินสัน” พลิกโมเดลธุรกิจ ฝ่ายุคท้าท้าย ดันองค์กรโตควบออฟไลน์ - ออนไลน์

วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2562

“โรบินสัน”  พลิกโมเดลธุรกิจ ฝ่ายุคท้าท้าย  ดันองค์กรโตควบออฟไลน์ - ออนไลน์


นายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โรบินสันมองว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของธุรกิจ บริษัทจึงได้วางแผนการเดินหน้าการทำธุรกิจต่อเนื่องโดยเน้นที่ 2 กลยุทธ์หลัก เพื่อเป็นหัวหอกสำคัญของการแข่งขันในตลาดค้าปลีก นั่นคือ การขยายสาขาและการบริหารพื้นที่ขาย ซึ่งในปัจจุบันโรบินสันมีสาขารวม 49 สาขา โดยแบ่งเป็นรูปแบบห้างสรรพสินค้า 49 สาขา และในจำนวนดังกล่าวเป็นรูปแบบศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ 22 สาขา ซึ่งศูนย์ฯ มีพื้นที่การให้บริการรวมถึงกว่า 1,000,000 ตรม. รวมทั้งมีจำนวนคู่ค้ามากถึงกว่า 1,700 ราย และมีจำนวนนักช้อปเข้ามาใช้บริการถึงกว่า 92 ล้านคนต่อปี  โดยภายในปี 2562 นี้โรบินสันได้ทำการรีโนเวท 7 สาขาศักยภาพ ที่มีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการ และยอดขายที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น  ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ สมุทรปราการ, สุพรรณบุรี, ตรัง  และ กาญจนบุรี และห้างสรรพสินค้า อีก  3  แห่ง คือ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ซีคอนสแควร์ เชียงราย และจังซีลอน

ล่าสุด ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โรบินสันมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มในรูปแบบศูนย์การค้าอีก 1 สาขา คือ ‘ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง’ สาขาลำดับที่ 50 และเป็นสาขาลำดับที่ 23 ในรูปแบบศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ในรูปแบบศูนย์การค้าฯ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในคอนเซ็ปต์ ‘โอเอซิส’ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ ที่พร้อมมอบประสบการณ์การช้อปที่ตอบโจทย์ทุกเจนเนอเรชั่น  โดยโรบินสันใช้เงินลงทุนราว 1,500 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 50,000 ตารางเมตร

 เราเล็งเห็นว่าลาดกระบัง เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ศักยภาพที่มีปัจจัยและโอกาสที่จะเอื้อให้เกิดความสำเร็จสูงในธุรกิจ ทั้งในเรื่องของการมีคู่แข่งค้าปลีกที่น้อย การเติบโตของตัวเลขผู้พักอาศัย ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ธุรกิจการบินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และหมู่บ้านขนาดใหญ่ระดับลักชัวรี่ โดยกลุ่มผู้พักอาศัยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มีรายได้ประจำ และมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง จึงส่งผลให้เป็นพื้นที่ที่มีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ดี  โดยในปัจจุบันการก่อสร้างของศูนย์ฯ แล้วเสร็จไปแล้วกว่า 75 %  และมีจำนวนคู่ค้าทีให้การตอบรับถึงราว 90%  จากที่ตั้งเป้าไว้กว่า 200 คู่ค้า  ซึ่งพร้อมจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน 2562 นี้

นอกจากนี้  อีกหนึ่งกลยุทธ์หลักที่สำคัญ คือ การพัฒนาธุรกิจเพื่อก้าวสู่การเป็น ‘Omni Channel Department Store’ ที่สมบูรณ์แบบ เพื่อปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ ‘Digital Disruption’ ที่เทคโนโลยีและสื่อดิจิทัลมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นที่มาของการพัฒนาแพลทฟอร์มการช้อปปิ้งออนไลน์ที่แข็งแกร่งของโรบินสันอย่าง Robinson Shop Online อาทิ www.robinson.co.th , Robinson Online และบริการ Robinson Chat & Shop กับบริการ  Click & Collect  เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันบริการดังกล่าวทั้งหมดสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ ราว 70% และต่างจังหวัด 30% และสามารถเจาะกลุ่มนักช้อปที่เป็น Young & Hips ในช่วงอายุระหว่าง 25 – 34 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มนักช้อปกำลังซื้อสูงได้มากขึ้น โดยแบ่งเป็นกลุ่มผู้หญิง 65% และผู้ชายราว 35%

ทั้งนี้ ปัจจุบันกลุ่มบริษัทเซ็นทรัลมีฐานสมาชิกเดอะวันอยู่กว่า 16 ล้านคน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นฐานสมาชิกเดอะวันของโรบินสันถึงราว 7 ล้านคน  ซึ่งโรบินสันได้เดินหน้าทำการตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์  ซึ่งฐานข้อมูลดังกล่าวช่วยทำให้โรบินสันเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยต่อยอดและขยายโอกาสทางธุรกิจ ทั้งในด้านการแบ่งส่วนตลาด กำหนดตลาดเป้าหมาย กำหนดตำแหน่งสินค้าและการบริการ ให้ธุรกิจเกิดความแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ