Toggle navigation
วันพุธ ที่ 17 ธันวาคม 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
"โอบามา" ส่งสัญญาณลอยแพ"เบอร์นันเก้"จีบสหภาพยุโรปทำข้อตกลงกู้วิกฤติเศรษฐกิจ
"โอบามา" ส่งสัญญาณลอยแพ"เบอร์นันเก้"จีบสหภาพยุโรปทำข้อตกลงกู้วิกฤติเศรษฐกิจ
วันพุธที่ 03 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
Tweet
"น้ำลายนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลาง แห่งสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ต้องถือเป็น "สารพิษ" ที่มีอานุภาพบ่อนทำลายความมั่นคงระบบเศรษฐกิจโลกอย่างร้ายกาจ และถือเป็นการกระทำที่ไร้จริยธรรม จรรยาบรรณอันดีแห่งความเป็นผู้กุมชะตากรรมการเงินโดยสิ้นเชิง"
คำชี้แจงเพิ่มเติมของเบอร์นันเก้ ต่อสื่อมวลชน ว่าด้วยทิศทางและเงื่อนไขความต่อเนื่องของการใช้มาตรการคิวอี ซึ่งเป็นสาระสำคัญนอกเหนือจากที่ปรากฏอยู่ในเอกสารเผยแพร่ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความตื่นตระหนกแผ่ซ่านไปในตลาดทุนทั่วโลก และเป็นเหตุทำให้ดัชนีราคาหุ้นทั่วโลกทรุดฮวบลงอย่าง รุนแรง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายยับเยิน หลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
พฤติกรรมในลักษณะนี้ของเบอร์-นันเก้ หากมิได้มีสาเหตุมาจาก "ความซื่อบื้อ" กระทั่งหลงลืมสำนึกรับผิดชอบในฐานะประธานธนาคารกลาง ก็น่าจะมาจากเจตนาแอบแฝงที่ร้ายกาจในการ "ทิ้งทวน" สั่งลาตำแหน่ง ด้วยการ "พ่นพิษ" ถล่มตลาดหุ้น
สาระสำคัญระหว่างคำพูดของเบอร์นันเก้ ที่ชี้แจงผู้สื่อข่าว ซึ่งพยากรณ์เป็นตุเป็นตะให้เกิดการตีความว่าประมาณกลางปี 2557 มาตรการคิวอี มีแนวโน้มที่น่าจะยุติลง ทั้งๆ ที่ถึงตอนนั้นเบอร์นันเก้ ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งประธานธนาคารกลางแล้ว ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ต้องถือว่าสิ่งที่เบอร์นันเก้ ได้กระทำลงไป และบังเกิดผลเสียหายรุนแรงเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งแล้ว สมควรที่เขาต้องถูกลงโทษให้พ้นจากตำแหน่งไปโดยเร็ว ก่อนที่เขาจะก่อความเสียหายซ้ำขึ้นมาอีก หากยังใจดีปล่อยให้อยู่ในตำแหน่งต่อไปจนครบวาระในเดือนมกราคมศกหน้า
กรณีของเบอร์นันเก้ ไม่เพียงเป็นตัวการก่อเหตุวินาศกรรมตลาดหุ้นทั่วโลกเท่านั้น หากจะพินิจพิเคราะห์ผลงานในสมัยที่ 2 ของเขา ก็พอจะสรุปรวบยอดได้ว่า "ล้มเหลวสิ้นเชิง"
ประจักษ์พยานยืนยันความล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่ของเบอร์นันเก้ ที่ชัดเจนที่สุดคือการดำเนินมาตรการคิวอีที่ใช้ต่อเนื่องกันมาแล้วถึง 4 ปี ด้วยเม็ดเงินมากมายมหาศาลนับเป็นหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการจ้างงาน รวมทั้งกระตุ้นเงินเฟ้อให้กระเตื้องขึ้น แต่จนแล้วจนรอดจนถึงป่านนี้ทุกอย่างยัง "สะลึมสะลือ" เหมือนคนเมาค้าง
ณ ขณะนี้แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจ แนวโน้มการจ้างงาน รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อ ยังมีอาการพะงาบๆ แต่พ่อเจ้าประคุณเบอร์นันเก้ ปั๊มเงินหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเติมเข้าไปในตลาดเรียบร้อยแล้ว โดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นกับผลลัพธ์ความล้มเหลวที่เกิดขึ้น
สัญญาณชีพจรทางเศรษฐกิจที่อยู่ในขั้นน่าเป็นห่วง และฝากความไว้วางใจกับธนาคารกลางต่อไปได้ยาก ทำให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา จำเป็นต้องเคลื่อนไหว เพื่อประคับประคองระบบเศรษฐกิจให้กลับมามีชีวิตชีวา ด้วยการออกปากเชิญชวนผู้นำสหภาพยุโรปทั้งหลายให้ร่วมกันทำสนธิสัญญาว่าด้วยการค้าและการลงทุนระหว่างกัน เพื่อขยายมูลค่าการค้า การลงทุนให้โตขึ้น และหวังว่าจะไปผลักดันให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ และอัตราการจ้างงานดีขึ้นพร้อมๆ กัน ทั้งในสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป
ปฏิกิริยาตอบรับของผู้นำสหภาพยุโรป ต่อข้อเสนอของผู้นำสหรัฐอเมริกา ดูจะเป็นไปด้วยดี ถึงขั้นเห็นพ้องต้องกันที่จะจัดการประชุมร่วมนัดปฐมฤกษ์ขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้ ที่กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อหวังจะผลักดันให้สนธิสัญญาที่ว่านี้สำเร็จเรียบร้อย และพร้อมมีผลบังคับใช้ได้ภายในก่อนสิ้นสมัยของประธานาธิบดีโอบามาในอีก 3 ปีข้างหน้า
กระบวนการจัดทำสนธิสัญญาว่าด้วยการค้าและการลงทุนระหว่างกันของ 2 ขั้วอภิมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่มีความสำคัญที่สุดในโลก ดูจะมีข้อกังวลระหว่างกันอยู่ 2 ประเด็น
ประเด็นแรก เป็นความกังวลของฝ่ายสหภาพยุโรป ที่ตระหนักดีถึงความเสียเปรียบฝ่ายสหรัฐอเมริกา ในภาคธุรกิจด้านความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นทีวี ภาพยนตร์ หรือเพลง จึงแสดงท่าทีที่อยากจะให้ยกเว้นไม่บรรจุภาคธุรกิจนี้ไว้ในสนธิสัญญาที่จะจัดทำขึ้น
ประเด็นที่สอง เป็นความกังวลของฝ่ายสหรัฐอเมริกา ที่ตระหนักดีถึงความเสียเปรียบฝ่ายสหภาพยุโรป ในภาคธุรกิจการเกษตร จึงมีท่าทีที่ต้องการให้สงวนภาคธุรกิจนี้ไว้ ไม่ต้องบรรจุอยู่ในสนธิสัญญาที่จะจัดทำขึ้น
เมื่อใดก็ตามที่สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ยอมแลกเปลี่ยนข้อเสียเปรียบระหว่างกันได้ เมื่อนั้นโอกาสที่สนธิสัญญาฉบับนี้จะบรรลุผลโดยเร็วก็มีอยู่สูง แต่ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายยังตั้งแง่เกี่ยงงอนกันอยู่ โอกาสที่สนธิสัญญาฉบับนี้จะแท้งก็มีอยู่สูง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
รู้ลึกเรื่องค่าใช้จ่าย ! วางแผนการเงินก่...
...
3 เหตุผลที่น่าสนใจ ทำไมต้องติวคณิตศาสตร์...
...
LINE จับมือ 3 ผู้เชี่ยวชาญ แนะ ‘ติดปุ่มเ...
...
จัดอันดับ 5 คอนโดหรูทำเล "ทองหล่อ" ที่สุ...
...
เปิดเทคนิคกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัย ซื้อบ้...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ