เมียนมา..ปักหมุด ทอป 100 Doing Business

วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2562

เมียนมา..ปักหมุด ทอป 100 Doing Business


สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ร่วมกับสมาคมนักธุรกิจไทยในเมียนมา จัดสัมมนาการลงทุน "เมียนมา อินไซต์ 2019" (Myanmar Insight 2019) ครั้งที่ 4 เพื่อเตรียมพร้อม และติวเข้มผู้ประกอบการไทยที่สนใจเปิดตลาดการค้าการลงทุนกับเมียนมา โดยระดมผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลเมียนมาร่วมเปิดมุมมองและให้ข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพทางเศรษฐกิจ ธุรกิจดาวรุ่ง รวมทั้งแผนพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ๆ แบบเจาะลึกทุกมิติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน

นางสุพัตรา ศรีไมตรีพิทักษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง เปิดเผยว่า งานสัมมนาครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ข้อมูลเชิงลึกด้านการค้าและการลงทุนในเมียนมา รวมทั้งพบปะผู้กำหนดนโยบาย ตลอดจนอัพเดทเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันให้แก่กลุ่มนักธุรกิจไทยหรือผู้สนใจลงทุนในเมียนมา อาทิ โอกาสความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับเมียนมา การพัฒนาเศรษฐกิจของเมียนมา อุตสาหกรรมดาวรุ่ง การปรับปรุงกฎหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุน ตลอดจนการกระชับความสัมพันธ์ และชี้ให้เห็นถึงศักยภาพในการขยายตลาดการค้า การลงทุนให้กลายเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระดับชาติ

ทอป100 ความง่ายในการทำธุรกิจ

สำหรับการจัดอันดับของธนาคารโลก ด้านความยากง่ายในการประกอบธุรกิจหรือ Doing Business 2019 ในเมียนมา ในด้านหลักๆคือ การเริ่มต้นธุรกิจ, การขออนุญาตก่อสร้าง, การขอใช้ไฟฟ้า, การจดทะเบียนทรัพย์สิน,การได้สินเชื่อ, การคุ้มครองผู้ลงทุน, การชำระภาษี, การค้าระหว่างประเทศ, การแก้ปัญหาการล้มละลาย,การบังคับให้เป็นไปตามสัญญา เมียนมาอยู่ในลำดับที่ 171 จาก 190 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเมียนมามีเป้าหมายขึ้นสู่อันดับที่ 100 ภายในปี 2563-2564 และสู่อันดับที่ 40 ภายในปี 2578-2579

สิงคโปร์นักลงทุนต่างชาติอันดับ 1

ด้านการลงทุนทางตรงของต่างประเทศในเมียนมา (FDI) ในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2018-2019 ของเมียนมา(ตุลาคม 2561-พฤษภาคม 2562) คณะกรรมการการลงทุนแห่งเมียนมา(Myanmar Investment Commission : MIC) อนุมัติการลงทุนคิดเป็นมูลค่า 2,499.413 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสิงคโปร์ มีการลงทุนสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 มูลค่า 1,600.053 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมา คือ จีน และฮ่องกง ขณะที่ไทยมีการลงทุนสูงเป็นอันดับที่ 4 มูลค่าการลงทุน 118.634 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในส่วนของอุตสาหกรรมที่ต่างชาติให้ความสนใจลงทุนในเมียนมามากที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2018-2019 อันดับที่ 1 การคมนาคมและการสื่อสาร อันดับที่ 2 อุตสาหกรรมการผลิต อันดับที่ 3 ภาคพลังงาน อันดับที่ 4 โรงแรมและการท่องเที่ยว และ อันดับที่ 5 อสังหาริมทรัพย์

ศูนย์กลางจีน-อินเดีย

ด้านนายสรศักดิ์ กีรติโชคชัยกุล นายกสมาคมธุรกิจไทยในเมียนมา (TBAM) กล่าวเพิ่มเติมว่าเมียนมามีศักยภาพด้านการค้าและการลงทุนอย่างยิ่ง เนื่องจากมีที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองตลาดใหญ่สำคัญของจีนและอินเดีย และมีประชากรในวัยทำงานจำนวนมาก อีกทั้งเป็นศูนย์กลางความเชื่อมโยงในระดับภูมิภาคและระหว่างภูมิภาค เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม

ศตวรรษที่ 21 หรือ Belt and Road Initiative (BRI) ไทยและเมียนมาเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์โดยธรรมชาติ (Natural Strategic Partner) โดยรัฐบาลไทยมีนโยบายที่จะส่งเสริมการค้าการลงทุนกับเมียนมาเพื่อการพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืน

สำหรับมูลค่าการค้ารวมระหว่างไทยและเมียนมา ช่วงมกราคม – พฤษภาคม 2562 คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3,188.69 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.43 % จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยประเทศไทยมีการส่งออกไปยังเมียนมาคิดเป็นมูลค่า 1,888.32 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าสินค้าจากเมียนมาเป็นมูลค่า 1,300.37 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าไทยที่ส่งออกไปเมียนมา ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องดื่ม เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกล รถยนต์ ข้าวสาลี เป็นต้น ส่วนสินค้าไทยที่นำเข้า ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ สินแร่โลหะ เนื้อสัตว์สำหรับบริโภค ผลิตภัณฑ์จากพืชผัก ผลไม้ เป็นต้น



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ