บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ของญี่ปุ่น เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่ขายเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของโลก โดยรถรุ่นใหม่นี้ มีชื่อว่า ครีเดอร์ มีขนาดเครื่องยนต์ 1800 ซีซี ผลิตในจีน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกลุ่มรถยนต์ฮอนด้ากวางฉิ ทั้งนี้ ฮอนด้าตั้งความหวังว่า รถยนต์รุ่นใหม่นี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายรถในประเทศได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ขณะเดียวกันก็คาดว่า ลูกค้าชาวจีน น่าจะซื้อรถรุ่นนี้มากกว่า 20 ล้านคันในปีนี้

+ บริษัทเกาหลีใต้ทำกำไรลดลง เหตุเศรษฐกิจชะลอตัว-เยนอ่อนค่า

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเกาหลีใต้ลดลงในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและค่าเงินเยนที่อ่อนแอได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์และการต่อเรือของประเทศ โดยอัตราส่วนของผลกำไรจากการดำเนินงานต่อยอดขาย ซึ่งเป็นมาตรวัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัท เพิ่มขึ้น 5.3% จากปีที่แล้ว ซึ่งลดลงจากระดับ 5.4% ในไตรมาสก่อนหน้า ตัวเลขดังกล่าวหมายความว่า บริษัทของเกาหลีใต้มีผลกำไรจาก การดำเนินงานเฉลี่ย 5.7 วอนต่อยอดขายทุกๆ 100 วอนในช่วงไตรมาสแรก โดย คำนวณจากงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้จำนวน 1,581 แห่ง และบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหุ้นอีก 186 แห่ง

+ คนเอเชียในสหรัฐฯ ฐานะดีกว่าคนผิวขาว

ผลการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยบราวน์ ระบุว่า คนอพยพจากเอเชียที่เข้าไปอยู่ในสหรัฐฯ มีระดับรายได้สูงกว่าคนอเมริกันผิวขาว โดยชาวเอเชียที่อพยพไปอยู่สหรัฐฯ จำนวนเกือบ 18 ล้านคนเหล่านี้ เป็นกลุ่มเล็กๆ ที่มีการขยายตัวอย่าง รวดเร็ว หรือเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัวนับตั้งแต่ปี 2533 ขณะที่ข้อมูลจากการสำรวจสำมะโนประชากรมีการกล่าวถึงคนจีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และเวียดนามที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ และแนวโน้มที่เปลี่ยนไปพบว่า คนอินเดียและญี่ปุ่น เป็นชนชาติที่มีข้อได้เปรียบมากที่สุด ขณะที่คนเวียดนามมีรายได้ต่ำที่สุดและมีการ ศึกษาน้อยที่สุดในกลุ่มคนเอเชีย คนอินเดียมีรายได้ครัวเรือนอยู่ในระดับกลางถึงสูงสุดในกลุ่มคนเอเชีย โดยลอสแองเจลีสและนิวยอร์ก มีคนอพยพจากเอเชียอาศัยอยู่มากที่สุด หรือเกือบ 1.5 ล้านคนในย่านพื้นที่เมืองแต่ละแห่ง

+ สหรัฐฯ เผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 มิ.ย. ลดลง 9,000 ราย มาอยู่ที่ 346,000 ราย หลังจากที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อนหน้า สะท้อนว่าบริษัทต่างๆ หรือบรรดานายจ้างไล่ลูกจ้างออกน้อยลง เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วน ใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วจะอยู่ที่ 345,000 ราย ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 มิ.ย. ถูกปรับทบทวนขึ้นเป็น 355,000 ราย เพิ่มขึ้น 19,000 จากรายงานก่อนหน้านี้ สำหรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 2,750 ราย สู่ระดับ 345,750 ราย โดยข้อมูลนี้ถูกมองว่าสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่า เพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์