ยลโฉมมาสด้า3ใหม่ โฉบเฉี่ยว ไฉไล ยิ่งขึ้น

วันอาทิตย์ที่ 08 กันยายน พ.ศ. 2562

ยลโฉมมาสด้า3ใหม่ โฉบเฉี่ยว ไฉไล ยิ่งขึ้น


โดย...สิริวิทย์ บ่อจันทึก     

หลังรอคอยมานาน ในที่สุด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดงาน MAZDA THAILAND SNEAK PREVIEW  ณ สนามทดสอบยาง Yokohama Tire Test Center of Asia จังหวัดระยอง เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ยลโฉม all-new Mazda 3  และทดสอบขับ ก่อนแถลงข่าวเปิดตัวแนะนำ ALL-NEW MAZDA3 อย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 18 กันยายน 2562 ที่ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่ารถยนต์รุ่นนี้ สำคัญอย่างยิ่งกับมาสด้า สำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างแบรนด์ของมาสด้า และเป้าหมายอยู่ที่ Premium Brand  มาสด้า3 คือ model ที่มีความสำคัญยิ่งต่อมาสด้าทั้งในประเทศไทย และตลาดโลก โดย วันเปิดตัวมาสด้า3 รุ่นแรกเมื่อปี 2547 ได้สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ ไว้มากมายต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไทย และขายได้สูงถึง 30,000 คัน

ส่วนรุ่นที่2 เมื่อปี 2554 มาสด้าเปิดตัวด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2000 ซีซี หลายคนตั้งคำถาม ทำไมมาสด้ากล้าฉีกกฏการตลาด ในขณะที่ลูกค้ากลุ่มใหญ่ชื่นชอบเครื่อง 1.6 – 1.8 แต่มาสด้าสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกค้า ทำให้ขายได้ถึง 15,000 คัน ในเวลาเพียง 3 ปี

มาสู่รุ่นที่3 เมื่อปี 2557 มาสด้าเปลี่ยนเทคโนโลยีของโลก ด้วย SKYACTIV technology เทคโนโลยีที่อยู่ในจินตนาการ เทคโนโลยีที่หลายคนเฝ้าฝันถึง แต่มาสด้าทำฝันให้เป็นจริง ด้วยรถยนต์ที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน จนถึงวันนี้มีมาสด้า3 รุ่นนี้อยู่ในการครอบครองของลูกค้าถึง 33,000 คัน

สำหรับ “มาสด้า3 ใหม่ นี้ ถือเป็นรุ่นที่ 4  คือ model แรกในเจนเนอเรชั่นที่ 7  

แม้มาสด้า3 รุ่นปัจจุบัน จะโดดเด่นโดนใจอยู่แล้ว แต่ทางวิศวกรมาสด้า ได้ใส่ใจทุกรายละเอียดพัฒนาแก้ไขจุดด้อยเพิ่มจุดเด่นต่างๆ อย่างพิถีพิถันมากขึ้น เริ่มตั้งแต่การออกแบบ ขนาดอาจไม่แตกต่างมากนัก แต่ยังคงยึดแนวคิด KODO DESIGN หรือ จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันงดงาม โดยมีรถต้นแบบ RX-VISION และรถต้นแบบ VISION COUPE มาผสมผสานกันอย่างลงตัวกับ“การเคลื่อนไหวด้วยเส้นสายเส้นเดียว” เพื่อให้เกิดความเรียบง่ายที่สุดในองค์ประกอบโดยรวม ทิศทางของแสงและเงาสะท้อนให้เห็นการเคลื่อนไหว และสะท้อนไปบนตัวรถทำให้เกิดการแสดงออกที่มีนัยสำคัญ และน่าทึ่งเกินกว่าการออกแบบในรุ่นก่อนหน้า มีให้เลือก 2 แบบ คือ  แฮตช์แบค และซีดาน ซึ่งแม้จะใช้ชื่อรุ่น MAZDA3 เหมือนกัน แต่รูปแบบทั้งสองนั้นแสดงถึงบุคลิกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

โดยรถแฮตช์แบคนำเสนอรูปลักษณ์ที่ทรงพลังและเย้ายวน ด้วยการดึงดูดอย่างไม่สามารถลดละสายตาได้เลย ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกของประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น หนักแน่นและเร้าใจ มุมมองด้านข้างของตัวรถใช้การสะท้อนแสงและเงาที่สร้างการแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวา โดยไม่ต้องใช้แนวเส้นตามลำตัวรถ เสาซีที่ดูทรงพลังช่วยสร้างการออกแบบด้านหลังอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งห้องโดยสารและตัวถังดูเหมือนเป็นรถที่ดูแข็งแกร่ง สิ่งนี้ส่งผลให้เกิดความมีเสน่ห์ดึงดูดทุกสายตา สีเมทัลลิกเข้มของปีกที่เป็นสัญลักษณ์เน้นความเด่นของรถสปอร์ตสไตล์

 ในขณะที่ ซีดานแสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่และความประณีต โฉบเฉี่ยวและหรูหราสง่างาม   แนวคิดการออกแบบ “โฉบเฉี่ยวและหรูหราสง่างาม” ไหลลื่นจากด้านหน้าไปด้านหลังด้วย “การเคลื่อนไหวด้วยเส้นสายเส้นเดียว” ตัวถังนั้นนำเสนอสัดส่วนที่ทรงพลังด้วยรูปทรงที่นุ่มนวลและสง่างาม การใส่ใจรายละเอียดในการเคลื่อนไหวของพื้นผิวที่เรียบทำให้อากาศไหลเรียบ องค์ประกอบทั้งหมดที่ด้านหน้าและด้านหลังใช้การวางแนวเค้าโครงแนวนอนที่เน้นลักษณะของท่าทางที่กว้างและต่ำ ปีกอันเป็นเอกลักษณ์ชุบโครเมียมแสดงถึงคุณภาพที่เหมาะสมกับความหรูหรา

ในส่วนบริเวณที่นั่งคนขับและห้องโดยสาร ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันตามปรัชญาที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางของมาสด้าโดยมีเป้าหมายแรก คือ เพื่อให้ผู้ขับขี่ทุกคนได้รับความมั่นใจในการใช้งานซึ่งช่วยให้มีสมาธิในการขับขี่ อีกประการหนึ่ง คือ การใช้เวลาในการเดินทางสะดวกสบายและสนุกสนาน มาสด้าใช้ความรู้และเทคโนโลยีล่าสุดที่มีในการออกแบบตำแหน่งการขับขี่ ทัศนะวิสัย การจัดวางอุปกรณ์และฟังก์ชั่นใช้งานภายในรถตามธรรมชาติการเคลื่อนไหวของมนุษย์ (HMI) และคุณภาพเสียง

ที่สำคัญ วิศวกรพัฒนาได้มุ่งเน้นไปที่การออกแบบเบาะนั่งที่รองรับกระดูกเชิงกรานอย่างแน่นหนา เช่นเดียวกับรูปแบบการเหยียบ การปรับที่นั่ง และการบังคับเลี้ยว ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่สามารถรักษาท่าทางที่เป็นธรรมชาติ ทำให้ผู้ขับขี่ทุกคนสามารถใช้งานยานพาหนะได้ตามที่ต้องการในขณะที่มุ่งเน้นไปที่การขับขี่อย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยลดความเมื่อยล้าจากการขับขี่เป็นเวลานาน

                ในขณะที่การอัพเดทสู่ Mazda MZD Connect ระบบเชื่อมต่อรถยนต์ใช้งานง่ายกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน อินเทอร์เน็ต และการเชื่อมต่อ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ในรถยนต์มีข้อมูลมากขึ้น โดยได้รับการออกแบบใหม่ตั้งแต่ต้นจนสามารถใช้งานได้ง่ายกว่าที่ผ่านมา มีการปรับปรุงประสิทธิภาพพื้นฐานของการเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์กับคนขับให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น และระบบมีคู่มือผู้ใช้อิเล็กทรอนิกส์

สำหรับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 (SKYACTIV-G 2.0) รุ่นล่าสุดของมาสด้าใช้วาล์วควบคุมน้ำหล่อเย็นเพื่อมอบประสิทธิภาพที่สูงขึ้นในระดับไดนามิกส์ ทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

SKYACTIV-Vehicle Architecture รุ่นใหม่ มาสด้าได้พัฒนาเบาะนั่งที่รองรับกระดูกเชิงกรานอย่างมั่นคงในตำแหน่งตั้งตรง ซึ่งกระดูกสันหลังของผู้ขับขี่จะรักษาเส้นโค้งรูปตัวเอส ตามธรรมชาติ รวมทั้งโครงสร้างตัวถังและช่วงล่างที่เป็นเสมือนเท้าของมนุษย์ ในการส่งผ่านอินพุตจากถนนได้อย่างราบรื่นสู่กระดูกเชิงกราน ทุกแง่มุมของการออกแบบที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางนี้ถูกดำเนินการเพื่อทำงานร่วมกันในภาพรวม เป้าหมายคือเพื่อให้คนอยู่ในตำแหน่งที่นั่งตามธรรมชาติได้อย่างสะดวกสบายขณะขับขี่

ระบบกันสะเทือนของ ALL-NEW MAZDA3 ได้รับการออกแบบตามแนวคิดของการส่งกำลังที่ราบรื่นไปยังมวลใต้สปริงเมื่อเวลาผ่านไป เป้าหมายคือการเพิ่มเลเยอร์ใหม่ที่มีความแม่นยำในสิ่งที่มาสด้ามุ่งมั่นที่จะนำเสนอมาโดยตลอด - การควบคุมตามความตั้งใจของผู้ขับขี่ – และตระหนักถึงความมั่นคงขณะขับขี่ในขณะที่ยังคงสนุกสนานเพลิดเพลินอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ระบบกันสะเทือนยังคงใช้ MacPherson Struts ที่มีการพัฒนาอยู่ด้านหน้าและการติดตั้งทอร์ชั่นบาร์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ที่ด้านหลัง

เทคโนโลยีควบคุมรุ่นใหม่ของ SKYACTIV-Vehicle Dynamics คือ “GVC Plus” ที่ถูกพัฒนาขึ้นถูกติดตั้งเฉพาะรุ่น ALL-NEW MAZDA3 ซึ่งเป็นการใช้เบรกเพื่อเพิ่มการควบคุมการหักเหของตัวรถ (yaw moment) เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการควบคุมรถ เมื่อผู้ขับขี่ขับรถออกจากโค้งโดยคืนพวงมาลัยกลับไปที่ตำแหน่งกึ่งกลาง GVC Plus เพิ่มแรงเบรกเพียงเล็กน้อยไปที่ล้อด้านนอก ทำให้เกิดโมเมนต์ที่มีเสถียรภาพซึ่งจะช่วยให้รถกลับมาวิ่งตรงเหมือนเดิม ระบบรับรู้ช่วงการเปลี่ยนแปลงที่ราบเรียบอย่างต่อเนื่องของการหักเห (yal) การโครงของตัวรถ (roll) และการกระดกหน้า-หลัง (pitch) แม้อยู่ภายใต้แรงเข้าสู่ศูนย์กลางมาก เป็นการปรับปรุงความสามารถของยานพาหนะในการตรวจสอบการหมุนพวงมาลัยอย่างฉับพลันและมุมทางออกจากโค้งที่แม่นยำ นอกเหนือจากการปรับปรุงการบังคับรถในการหลบหลีกจากการปะทะแบบฉุกเฉิน GVC Plus ยังให้ความรู้สึกมั่นใจในการควบคุมเมื่อเปลี่ยนเลนบนทางหลวงและเมื่อขับบนหิมะหรือพื้นผิวถนนลื่นอื่นๆ

จุดเด่นอีกอย่างคือ ความเงียบสงบสบาย แต่ได้ยินเสียงที่สำคัญในการขับขี่ มาสด้าได้นำผลการศึกษาวิจัยในมนุษย์มาใช้อย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยควบคุมเสียงที่ได้ยินและกำจัดเสียงไม่พึงประสงค์ ลดเสียงรบกวน และลดระดับเสียงขณะที่ความผันผวนและทิศทางเสียงถูกควบคุม เป้าหมายสุดท้ายคือการให้ “ความเงียบสงบคุณภาพสูง”

หลังทราบรายละเอียดและคอนเซ็บต์ของมาสด้า 3  ใหม่ แล้ว จากนั้น ก็ถึงเวลาการทดสอบจริงในสนาม โดยได้ทดสอบโมเดลปัจจุบัน สลับกับ โมเดล ใหม่ เพื่อเปรียบเทียบถึงความแตกต่าง

เริ่มด้วยการทดลองขับในสถานี Handling Track ซึ่งเป็นสนามส่วนใหญ่เป็นทางโค้งจำกัดความเร็วตามป้ายกำหนดเพื่อทดสอบการควบคุมพวงมาลัย การยึดเกาะถนนของช่วงล่างใหม่ รวมไปถึงความนุ่มนวลในการขับขี่ที่เกิดขึ้นจากแพลตฟอร์มเจนเนอเรชั่นใหม่

ต่อด้วยการทดลองขับในสถานี Multi-Purpose Track เพื่อทดสอบสมรรถนะการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนอง อัตราเร่ง การเบรก รวมถึงความแม่นยำในการเข้าโค้ง ของระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจริยะขั้นสูง ทั้งในตำแหน่งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร

แม้จะเป็นการทดสอบแบบสั้นๆ พอหอมปากหอมคอ และมาสด้า3 รุ่นปัจจุบันจะทำได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่สิ่งที่รับรู้ได้อย่างชัดเจนจากมาสด้า3 ใหม่ ก็คือความเงียบเสียงของเครื่องยนต์เวลาสัมผัสถนน ความมั่นใจในการควบคุมพวงมาลัย ช่วงล่างแน่นควบคุมได้ง่าย ในเวลาเข้าโค้ง พลังเครื่องยนต์ อัตราการเร่ง การเบรก และความสะดวกสบายผ่อนคลายในการนั่งขับ ถือว่าทำได้ดียิ่งขึ้น

อดใจรอการทดสอบจริงแบบเต็มๆ ในระยะทางยาวๆ อย่างเป็นทางการปลายเดือนกันยายน แล้วจะนำมาเล่าสู่กันฟังอย่างจุใจอีกครั้งถึงสมรรถนะและความน่าสนใจของมาสด้า 3 ใหม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ด้วยรูปลักษณ์ภายในนอกที่โฉบเฉี่ยว สะดุดตา ความหรูหราแต่ เรียบง่ายในห้องโดยสาร ด้วยการลดทอนสิ่งทำให้รกตาออกไป และน่าจะสร้างความฮือฮาให้กับแฟนๆ มาสด้า3 ได้เป็นอย่างดี



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ