“เสียวหมี่” ฝ่าความท้าทายด้าน ศก. โลก ธุรกิจครึ่งปีโตทุกเซกเมนต์พุ่งขึ้น 71.7%

วันพุธที่ 04 กันยายน พ.ศ. 2562

“เสียวหมี่” ฝ่าความท้าทายด้าน ศก. โลก  ธุรกิจครึ่งปีโตทุกเซกเมนต์พุ่งขึ้น 71.7%


นายเหลย จวิน ผู้ก่อตั้ง ประธานกรรมการ และซีอีโอของ เสียวหมี่ กล่าวว่า แม้ว่าในขณะนี้จะต้องเผชิญกับความท้าทายด้านเศรษฐกิจโลกก็ตาม  ซึ่งผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปีนี้สูงเหนือความคาดหมาย โดยในครึ่งแรกของปี 2562 รายได้รวมของเสียวหมี่ ในเซกเมนต์ตลาดสมาร์ทโฟนอยู่ที่ราว ๆ 5.9 พันล้านหยวน ในขณะที่ไตรมาสที่สองเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 32 พันล้านหยวน ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สามาร์ทโฟนและการเพิ่มราคาขายโดยเฉลี่ย โดยเว็บไซต์ Canalys จัดอันดับให้เสียวหมี่อยู่ในลำดับที่ 4 เมื่ออิงจากยอดขนส่งสมาร์ทโฟนในไตรมาสที่ 2 ปี 2562  รวมถึงความมุ่งมั่นผลักดันที่จะทำให้ Redmi เป็นแบรนด์อิสระ นอกจากนี้กลยุทธ์มัลติแบรนด์ของเสียวหมี่ยังเพิ่มโอกาสการทำกำไร โดยยอดกำไรสุทธิพุ่งสูงขึ้นจาก 3.3% ในไตรมาสแรก ไปอยู่ที่ 8.1% ในไตรมาสสอง ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ย (ASP) ของสมาร์ทโฟนในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ และในตลาดต่างประเทศก็ประสบความสำเร็จโตทะลุเป้า ที่ 13.3% และ 6.7% ตามลำดับ โดยสมาร์ทโฟน ราคาสูงกว่า 2,000 หยวน คิดเป็น 32.3% ของรายได้ทั้งหมดในกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน

ในไตรมาสแรกของปี 2562 เสียวหมี่เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงตระกูล Mi 9 และสมาร์ทโฟนตระกูลRedmi Note 7 ในเวลาต่อมากลุ่มบริษัทเสียวหมี่ก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงอีกหนึ่งรุ่นในไตรมาสสอง ได้แก่สมาร์ทโฟนตระกูล K20 ซึ่งเน้นความคุ้มค่า คุ้มราคา ซึ่งถือเป็นอีกกลยุทธ์ความสำเร็จของเสียวหมี่ในการออกแบบกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนให้มีความหลากหลาย โดยในไตรมาสสอง ยอดขายสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่พุ่งขึ้นถึง 32.1 ล้านเครื่อง โดยมียอดขายในตระกูล Redmi Note 7 สูงถึง 20 ล้านเครื่องทั่วโลก ในวันที่ 30 มิถุนายน 2562 และนอกจากนี้ยังมียอดจัดส่งสมาร์ทโฟนตระกูล K20 ทั่วโลก แล้วกว่า 1 ล้านเครื่อง หลังจากเปิดตัวได้ภายใน 1 เดือนเท่านั้น

ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า ภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 รายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ IoT และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์พุ่งขึ้นสูงถึง 49.3% อยู่ที่ 27 พันล้านหยวน เมื่อเทียบปีต่อปี  ขณะที่รายได้ในไตรมาสที่สองของปี 2562 จากกลุ่มผลิตภัณฑ์เดียวกันเพิ่มขึ้นถึง 44% คิดเป็น 14.9 พันล้านหยวน เมื่อเทียบปีต่อปี นอกจากนี้แล้วรายได้รวมของกลุ่มผลิตภัณฑ์ IoT และไลฟ์สไตล์ในไตรมาสสอง ของปีนี้ยังคิดเป็น 28.8% ของรายได้รวมทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 22.9% สมาร์ททีวีของเสียวหมี่ ยังคงเป็นผู้นำที่มียอดการจัดส่งทั่วโลกมากถึง 5.4 ล้านเครื่องในช่วงครึ่งปีแรก นอกเหนือจากสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป มีจำนวนถึง 196 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 69.5% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยมีผู้บริโภคราว ๆ 3 ล้านคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม IoT จำนวนมากกว่า 5 เครื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 78.7% เมื่อเทียบปีต่อปี ยิ่งไปกว่านั้นในไตรมาสสอง ผู้ใช้งาน Home application ต่อเดือนของเสียวหมี่ยังเพิ่มขึ้นถึง 30.4 ล้านคนทั่วโลก และ มีจำนวนผู้ใช้ AI Assistant ต่อเดือนมากถึง 49.9 ล้านคน ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารด้วยระบบเสียง AI ที่คนนิยมใช้มากที่สุดในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่

สำหรับในครึ่งปีแรกของปี 2562 รายได้จากการบริการอินเตอร์เน็ตของเสียวหมี่เติบโตขึ้น 22.9% อยู่ที่ 8.8 พันล้านหยวน เมื่อเทียบปีต่อปี ส่วนไตรมาสที่สอง รายได้จากบริการอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นขึ้นอีก 15.7% อยู่ที่ 4.58 พันล้านหยวน เมื่อเทียบปีต่อปี และในเดือนมิถุนายน 2562 จำนวนผู้ใช้งานต่อเดือนของ MIUI เพิ่มสูงถึง 34.7%  คิดเป็น 278.7 ล้านคน เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนจำนวนผู้ใช้สมาร์ททีวีและ Mi Box เพิ่มสูงขึ้น 53.8% มาอยู่ที่ 22.6 ล้านคนในเดือนมิถุนายน 2562 ไตรมาสสอง รายได้จากการให้บริการอินเตอร์เน็ต อาทิ รายได้จากบริการอินเตอร์เน็ตทีวี บริการอินเตอร์เน็ตต่างประเทศ อีคอมเมิร์ซ Youpin ธุรกิจการเงินอินเตอร์เน็ต ไม่รวมรายได้จากการโฆษณาและเกมส์บนสมาร์ทโฟนในประเทศจีน  เพิ่มสูงขึ้นถึง 108.8% คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 36% ของรายได้ทั้งหมด ในครึ่งปีแรกของปี 2562 มียอดขายสินค้าที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Youpin เติบโตขึ้นถึง 113.9% อยู่ที่ 3.8 พันล้านหยวน เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งนั้นหมายความว่าในเดือนมิถุนายน 2562 ยอดขายสินค้าที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Youpin มากกว่า 65% ไม่ได้มาจากผู้ใช้สมาร์ทโฟนเสียวหมี่

ทั้งนี้ ภายในครึ่งปีแรก รายได้ของเสียวหมี่ที่ต่างประเทศเติบโตขึ้น 33.8% หรือราว ๆ 38.6 พันล้านหยวน เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งมากกว่า 40% ของรายได้ทั้งหมดของกลุ่มบริษัท โดยในไตรมาสสอง รายได้จากที่ต่างประเทศเติบโตขึ้นมาอยู่ที่ 33.1% คิดเป็น 21.9 พันล้านหยวน นอกจากนี้เสียวหมี่ยังมุ่งมั่นในการสร้างและขยายช่องทางการขายปลีกทั่วโลก โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 เสียวหมี่ มีการจดทะเบียนร้าน Mi Home แล้วกว่า 520 สาขาในต่างประเทศ หรือคิดเป็นอัตราเติบโตถึง 92.6% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยมีถึง 79 สาขาในประเทศอินเดีย ซึ่งปัจจุบันมี Mi Store ในประเทศอินเดียมากถึง 1,790 สาขา

 

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ