"โวด้าโฟน"เขมือบ"คาเบลดอยซ์แบงก์"

วันเสาร์ที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2556



ปฏิกิริยาการควบรวมกิจการ เพื่อยกระดับความยิ่งใหญ่แบบรวบรัดตัดตอน ยังคงรักษาระดับความเข้มข้นไว้ได้อย่างคงเส้นคงวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้ปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่น่าอกสั่นขวัญแขวนที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วทุกหัวระแหงของโลกอยู่ตอนนี้

ไม่กี่วันก่อนค่ายโวด้าโฟน ผู้ให้บริการโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ขนาดยักษ์ ก็ประสบความสำเร็จในการชิงดำกับค่ายลิเบอร์ตี้โกลบอล ด้วยการทุ่มทุน 10,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้ายึดครองกิจการ "คาเบลดอยซ์แลนด์" ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเคเบิลทีวีอันดับ 1 ของเยอรมนี ที่มีฐานสมาชิกกว่า 8,500,000 ครัวเรือนทั่วแดนอินทรีเหล็ก

เป้าหมายสำคัญของการเข้ายึดครองกิจการ คาเบลดอยซ์แลนด์ของค่ายโวด้าโฟน คือการขยายตลาดการให้บริการแบบ "ดูโอ" ทั้งเคเบิลทีวี และบรอดแบนด์ในดินแดนเยอรมนี

ก่อนหน้านั้นไม่นานที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทสปริ้นท์เน็กซ์เทล ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายการสื่อสารไร้สายอันดับ 3 ในสหรัฐอเมริกา ก็ลงมติเห็นชอบให้ขายกิจการแก่ค่ายซอฟท์แบงก์ แห่งญี่ปุ่น ในวงเงิน 21,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งที่ค่ายดิสช์เน็ท เวิร์คคอร์ป ให้ราคาเสนอซื้อสูงกว่าคือ 25,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เหตุผลสำคัญที่ผู้ถือหุ้นของสปริ้นท์เน็กซ์เทล เลือกขายกิจการแก่ค่ายซอฟท์แบงก์ ที่เสนอราคาซื้อต่ำกว่าค่ายดิสช์เน็ทเวิร์ค เป็นเพราะค่ายนี้เมินเฉยที่จะยืนยันราคาเสนอซื้อตามกำหนดเวลา ประกอบการค่ายซอฟท์แบงก์ แสดงเจตนาต้องการซื้อกิจการให้รับรู้ได้อย่างชัดเจน คือเพิ่มราคาเสนอซื้อ ที่เคยเสนอไว้เดิมเมื่อปลายปี 2555 จาก 20,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 21,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และแจ้งยืนยันราคาเสนอซื้อตามกำหนดระยะเวลาที่กำหนดไว้

แม้จะตกลงราคาซื้อขายกิจการกันได้แล้ว แต่ดีล นี้จะยังไม่สมบูรณ์จนกว่าจะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกิจการสื่อสารแห่งชาติ หรือ Federal Communication Commission-FCC ซึ่งเป็นหน่วยงานแห่งชาติที่กำกับดูแลกิจการด้านนี้

ระหว่างที่รอข่าวดีจาก FCC ทั้ง 2 ฝ่ายได้เตรียมความพร้อมล่วงหน้า ด้วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานใหม่ โดยเปิดทางให้มาซาโยชิ ซัน ซึ่งเป็นประธานของซอฟท์แบงก์ เข้าไปนั่งเป็นประธานสปริ้นท์เน็กซ์เทล และเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของรอน ฟิสเชอร์ จากประธานสปริ้นท์เน็กซ์เทล ไปเป็นรองประธาน

ความสำเร็จของซอฟท์แบงก์ ในการเข้าซื้อกิจการสปริ้นท์เน็กซ์เทลที่ต้องใช้ทั้งเงินและความอดทนเจรจากันนานกว่า 8 เดือนเข้าแลก จะเป็นบันไดนำพาอาณาจักรซอฟท์แบงก์ ให้ก้าวขึ้นสู่ความเป็นแชมเปี้ยนโลกในธุรกิจการให้บริการเครือข่ายไร้สาย ตามความมุ่งมั่นของมาซาโยชิ ซัน

คู่ขนานไปกับการขับเคี่ยวกันเพื่อควบรวมกิจการก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ทางลัด นิตยสารฟอร์จูนฉบับล่าสุดไปเปิดโพยกิจการที่โกยรายได้สูงสุด 500 อันดับประจำปีนี้ให้ได้รับรู้โดยทั่วกัน

ในจำนวน 500 กิจการ ที่ทำรายได้สูงสุดประจำปีนี้ ซึ่งวัดจากยอดรายได้รวมในรอบปี 2555 ที่ผ่านมาพบว่า 10 อันดับแรกในจำนวน 500 อันดับ มีธุรกิจพลังงานยึดครองไว้มากที่สุดถึง 4 อันดับ ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกคือ วอล-มาร์ทŽ ครองอันดับสูงสุด ด้วยยอดรายได้ 469,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อันดับ 2 คือแอ็กซอนโมบิล มียอดรายได้ 449,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อันดับ 3 คือ เชฟรอน มียอดรายได้ 233,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อันดับ 4 คือ ฟิลลิปส์ 66 มียอดรายได้ 169,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อันดับ 5 คือ เบิร์กเชียร์แฮทอะเวย์ มียอดรายได้ 162,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อันดับ 6 คือ แอปเปิล มียอดรายได้ 156,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อันดับ 7 คือ เยนเนอรัลมอเตอร์ มียอดรายได้ 152,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อันดับ 8 คือ เยนเนอรัลอีเล็คทริค มียอดรายได้ 146,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อันดับ 9 คือ วาเลโรเอ็นเนอยี มียอดรายได้ 138,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อันดับ 10 คือ ฟอร์ดมอเตอร์ มียอดรายได้ 134,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตามในจำนวน 10 อันดับกิจการทำเงินสูงสุดของฟอร์จูนประจำปีนี้ ค่ายแอปเปิล คือกิจการที่มีขีดความสามารถทำกำไรสูงที่สุดถึง 41,733 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 26.7 ของรายได้ ขณะที่ค่ายวอล-มาร์ท ซึ่งทำรายได้สูงสุด แต่กลับมีอัตราผลกำไรเตาะแตะอยู่แค่ร้อยละ 3.6 ของรายได้เท่านั้น


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ