“ซีพีเอน” ประกาศเปิด “วิลเลจ” ลักชูรี่ เอาท์เล็ตแรกในไทย โฟกัสคนรุ่นใหม่มีเงินพร้อมเปย์

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2562

“ซีพีเอน”  ประกาศเปิด “วิลเลจ” ลักชูรี่  เอาท์เล็ตแรกในไทย โฟกัสคนรุ่นใหม่มีเงินพร้อมเปย์


นาย ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN  กล่าวว่า โครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ ถือเป็นโครงการรีเทลรูปแบบใหม่ของซีพีเอ็นที่เป็น The First International Luxury Outlet  ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย มีมูลค่าโครงการรวมกว่า 5,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 100 ไร่ พื้นที่โครงการ 40,000 ตร.ม. ติดสนามบินสุวรรณภูมิ โดยตั้งเป้าเป็นเดสติเนชั่นแห่งใหม่ของการช้อปปิ้งระดับเวิลด์คลาสที่ตอบสนองทุก ไลฟ์สไตล์หลากหลายด้วยแบรนด์ชั้นนำทั้งต่างประเทศและในประเทศ พร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับความร่มรื่นสวยงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรมแบบไทยโมเดิร์น เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งลักชูรี่เอาท์เล็ตให้กับกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง พร้อมเปิด 31 ส.ค. นี้

เซ็นทรัล วิลเลจ เป็น Shopping Heaven ที่แท้จริงด้วยซูเปอร์แม็กเน็ตของทัพแบรนด์เนมชั้นนำระดับโลกรวมกว่า 130 สโตร์ นอกจากนี้เรายังจัดเอ็กซ์คลูซีฟดีลกับร้านค้ากว่าครึ่งที่เปิด ช้อปเอาท์เล็ตครั้งแรกในไทย และอีกกว่า 60 แบรนด์ได้เลือกเปิดช้อปกับเราเท่านั้น ซีพีเอ็นเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนา Outdoor Mall ทำให้ที่นี่มีความสะดวกสบายครบวงจร นอกจากช้อปปิ้งเต็มอิ่ม ยังมีร้านอาหาร, ท็อปส์ มาร์เก็ต, สนามเด็กเล่น และจุดบริการนักท่องเที่ยว อีกทั้งเรายังอำนวยความสะดวกในการเดินทางมายังโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยการจัด Shuttle Bus รับส่งใน 3 จุดที่เซ็นทรัลเวิลด์, BTS อุดมสุข และที่จุดขึ้นรถที่โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ

ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า สำหรับเซ็นทรัล วิลเลจ บุกเบิกเซ็กเมนต์ใหม่ Luxury Outlet ให้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย ซึ่งซีพีเอ็นตั้งใจสร้าง New Retail Platform นี้ขึ้นมาเติมเต็มช่องว่างในตลาด โดยสร้างมิติใหม่ให้เอาท์เล็ตเป็น Shopping Destination ที่สื่อถึงความเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก อย่างเช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ที่มีเอาท์เล็ตชั้นนำของเอเชีย ส่วนเซ็นทรัล วิลเลจ ก็ถือเป็น Bangkok Luxury Outlet ที่มีศักยภาพของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  

หลังจากการเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 สิงหาคม 2562 นี้ เราคาดว่าจะดึงดูดทราฟฟิก ได้ 6-10 ล้านคนตลอดทั้งปี แบ่งสัดส่วนเป็นตลาด Domestic 65% เน้นไปที่กลุ่ม Young / Mass Affluent ของนักช้อปชาวกรุงเทพฯ และชาวไทยทั่วประเทศ และตลาด International Tourist 35% โดยโฟกัสไปที่กลุ่มที่บินมายังกรุงเทพฯ ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นของกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง (Middle Class) และกลุ่ม Young Affluent ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จด้วยอายุที่ยังน้อยทั่วโลก มีความชื่นชอบในการซื้อสินค้าแบรนด์เนมในราคาที่คุ้มค่า 

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ