นายประพันธ์ ผดุงเกียรติสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อายลิ้งค์ วิชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแว่นตาแบรนด์ไฮเอนด์ ic! berlin (ไอซี! เบอร์ลิน) จากประเทศเยอรมนี กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทได้นำเข้าและจำหน่ายแว่นตาแบรนด์ระดับโลกต่าง ๆ รวมกว่า 20 แบรนด์ ทั้งในแบบแฟชั่นและในแบบฟังก์ชันนอล (เพื่อการใช้งาน) สำหรับแบรนด์ ไอซี! เบอร์ลินอยู่ในกลุ่มแว่นตาแบบฟังก์ชันนอล ซึ่งเราได้นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมากว่า 10 ปีแล้ว โดยที่ผ่านมาบริษัทไม่ค่อยได้ทำตลาดเท่าไหร่นักเนื่องจากมีฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายระดับ B+ ที่เป็นผู้ใหญ่อายุประมาณ 40 กว่าขึ้นไปที่มีกำลังซื้อที่รู้จักแบรนด์ดังกล่าวอยู่แล้วส่งผลให้แว่นตาแบรนด์ ไอซี! เบอร์ลินมีอัตราการเติบโตปีละ 10% อย่างต่อเนื่องทุกปี ด้วยราคาขายที่อันละ 10,000-20,000 บาท และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งในเมืองไทยของกลุ่มแว่นตาพรีเมียมกลุ่มผู้ชายในสัดส่วนถึง 50% จากตลาดรวมของแว่นตากลุ่มนี้ที่มียอดขายจำนวน 50,000-55,000 อันต่อปี โดยที่แว่นตาพรีเมียมกลุ่มผู้ชายนี้คิดเป็นสัดส่วน 10% จากยอดขายรวมตลาดแว่นตา อีกทั้งแว่นตาแบรนด์ ไอซี! เบอร์ลินในประเทศไทยยังทำยอดขายสูงสุดอันดับ 1 ในอาเซียนและระดับโลกอีกด้วยมาอย่างยาวนานประมาณ 5-6 ปีแล้ว จากยอดขายรวมทั่วโลก 2 แสน 5 หมื่น อันต่อปี
ทั้งนี้ จากความแข็งแกร่งแว่นตาแบรนด์ ไอซี! เบอร์ลินในประเทศไทย ทำให้บริษัทแม่จากประเทศเยอรมนีได้ให้ทางบริษัท อายลิ้งค์ วิชั่น เป็นนตัวแทนในการเข้าไปทำตลาดแว่นตาที่ประเทศเวียดนามอีกหนึ่งประเทศด้วยในปีนี้ด้วย โดยขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรในท้องถิ่นเพื่อทำตลาดต่อไป นอกจากนี้ ปีนี้บริษัทได้วางแผนจะทำการขยายขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้รู้จักแว่นตาแบรนด์ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้รู้จักแว่นตาแบบฟังก์ชันนอลที่มีนวัตกรรมและดีไซน์ที่ทันสมัย ด้วยการปรับโฉมลุคใหม่ของแว่นแบรนด์ไอซี! เบอร์ลิน ด้วยการเปิดตัวแอมบาสเดอร์ที่เป็นคนไทยครั้งแรก ได้แก่ “เจ-เจตริน วรรธนะสิน” ที่โดยส่วนตัวก็เป็นลูกค้าที่ใช้แฟนพันธุ์แท้ของแบรนด์ ไอซี! เบอร์ลิน มาเป็นเวลานาน และยังมีบุคลิกที่สะท้อนกับตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน โดยเน้นทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคในวงกว้างมากกว่าที่ผ่านมา ภายใต้งบประมาณทางการตลาดที่วางไว้ประมาณ 2 หลัก ใช้เพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อนๆ ที่ผ่านมา
ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า ภาพรวมตลาดแว่นตาขายปลีกในไทยมีมูลค่าประมาณหมื่นกว่าล้านบาท มีอัตราการเติบโตประมาณ 5 % ทุกปี แต่สำหรับปีนี้จากสภาวะปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัว ส่งผลให้ตลาดแว่นตาในกลุ่มแฟชั่นได้ผลกระทบ เพราะการเติบโตลดลง แต่ในทางกลับกันแว่นตาในกลุ่มฟังก์ชันนอลไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคในระดับมีกำลังซื้อก็จะระมัดระวังในเรื่องการใช้เงินขึ้น โดยจะมองหาซื้อสินค้าในกลุ่มที่คุ้มค่า มีคุณภาพ ใช้งานได้นาน มากกว่าในการยอมจ่ายเงินซื้อ ส่งผลให้แว่นตากลุ่มดังกล่าวกลับมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น
ดังนั้น จากการปรับกลยุทธ์การทำตลาดปีนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะสามารถผลักดันให้ยอดขายของแบรนด์ไอซี! เบอร์ลิน ในปีนี้เติบโตได้เพิ่มขึ้นเป็น 20% และสามารถไปทดแทนการเติบโตที่ลดลงของตลาดแว่นตาแฟชั่นในขณะนี้ได้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทยังคงสามารถสร้างยอดขายรวมในปีนี้เติบโตที่ 5%
