โดย...สิริวิทย์ บ่อจันทึก

sirivit@yahoo.com

หลัง นิสสัน ลีฟ ใหม่ ประเดิมเปิดตัวเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่เข้ามาบุกตลาดเมืองไทยอย่างจังจัง ในที่สุด “สยามธุรกิจ” ก็มีโอกาสได้ทดสอบขับ พร้อมพิสูจน์สมรรถนะยานยนต์แห่งอนาคตคันนี้  ตระเวณทั่วกรุงเทพฯ ได้ทั้งวันชาร์จเพียงครั้งเดียว ถือเป็นเป็นการทดสอบขับขี่อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ของ นิสสัน ลีฟ ใหม่ ที่ นิสสัน ในประเทศไทย จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เรียบง่ายอย่างอัศจรรย์ หรือ Simply Amazing” โดยมีธีมงานที่ชื่อว่า ‘rEVolution’ ด้วยการขับขี่ในสภาพการจราจรที่แตกต่างกันครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลตลอดทั้งวัน ด้วยการชาร์จไฟเต็มเพียงครั้งเดียว

โดยมีสื่อมวลชนจำนวน 100 คน ได้เข้าร่วมกิจกรรมทดสอบขับขี่ที่จัดขึ้นเป็นระยะเวลาห้า  พร้อมปฏิวัติประสบการณ์ใหม่ของเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้าภายใต้โซนกิจกรรม 'rEVolution education' ครั้งแรกในประเทศไทย ณ  จีแลนด์ พระราม 9 นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการออกแบบของนิสสัน ลีฟ ใหม่ ระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ไฟฟ้า และรูปแบบการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 3 แบบ โดยในงานจัดสรรพื้นที่เป็น 4 โซน ประกอบด้วย นิสสัน ลีฟ Simply Amazing นิสสัน อิเล็คทริค คาเฟ่ บูธถ่ายภาพ นิสสัน อิเล็คทริค และสถานีชาร์จนิสสัน ลีฟ

สำหรับการทดสอบขับ นิสสัน ลีฟ ใหม่ ตลอดทั้งวันผ่าน 5  สถานที่ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน  เริ่มตั้งแต่การขับแบบสลาลม จีแลนด์ พระราม 9 และบนลานดาดฟ้าห้างโลตัส ฟอร์จูน จากนั้น ได้ทดสอบกับท้องถนนจิรงฝ่าการจราจรที่คับคั่งในกรุงเทพมหานคร ไปยัง สถานีดับเพลิงบางรัก หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังช่างชัย ย่านบางพลัด และได้ทดสอบความเร็วบนเส้นทางพระบรมราชชนนี เพื่อไปจิบกาแฟที่ร้านริว่า(Riva) ริมแม่น้ำนครไชยศรี อำเภอนครไชยศรี จังหวัดนครปฐม

ในส่วนห้องโดยสารของลีฟ ใหม่ มีความกว้างขวาง และสะดวกสบายมากขึ้น ที่ยึดหลักการออกแบบของ    นิสสัน Gliding Wing เป็นแนวทางหลัก การปรับดีไซน์ให้หน้าจอและรูปแบบของไฟแสดงข้อมูลของคนขับเรียบง่ายขึ้น ทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจน มองเห็นข้อมูลที่จำเป็นในตำแหน่งที่เหมาะสม แม้ในความเร็วบนทางด่วน ห้องโดยสารของลีฟ ใหม่ ยังคงรักษาความเงียบ แรงเสียดทานที่ลดลง การยกระดับระบบอากาศพลศาสตร์และการปรับแต่งภายนอกเพื่อช่วยลดเสียงรบกวนของลม

ในการทดสอบแต่ละช่วง นิสสัน ลีฟ ใหม่ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า สามารถขับขี่บนสภาพท้องถนนที่หลากหลายในเมืองอย่างกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จาการได้มีโอกาสทดลองใช้เทคโนโลยีต่างๆ ของนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) ที่มีอยู่ใน ลีฟ ใหม่ อย่างเต็มที่ ทั้ง การทดสอบสมรรถนะของอัตราเร่ง และแรงบิดสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ความสามารถของเทคโนโลยี e-Pedal ที่สามารถใช้ควบคุมความเร็วรถทั้งการเร่ง และเบรกด้วยคันเร่งเพียงอย่างเดียว ในสถานีการขับขี่แบบสลาลม  ความเงียบภายในห้องโดยสารตลอดการเดินทาง

ขณะที่ เทคโนโลยี e-Pedal ปฏิวัติการขับขี่ ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใหม่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ผู้ขับขี่ในการออกตัว เร่งความเร็ว ชลอความเร็ว หยุดนิ่งและควบคุมตัวรถให้อยู่กับที่ด้วยการใช้แป้นคันเร่งอย่างเดียว ถือเป็นนวัตกรรมที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ได้อย่างสิ้นเชิง  โดยเมื่อปล่อยคันเร่ง รถจะชะลอความเร็วโดยอัตโนมัติจนถึงหยุดนิ่งได้โดยสมบูรณ์ แม้ว่าจะจอดรถค้างบนเนิน ก็ไม่จำเป็นต้องเหยียบแป้นเบรก ด้วยอัตราการชะลอความเร็วที่สูงถึงกว่า 0.2G โดยไม่จำเป็นต้องขยับเท้าออกจากคันเร่งไปยังแป้นเบรกเพื่อชะลอหรือหยุด ทั้งหมดนี้จะช่วยลดความเหนื่อยล้า และความเครียดจากการขับขี่ในแต่ละวัน ช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้แป้นเบรกน้อยกว่าการขับขี่รถยนต์ทั่วไปถึงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ นิสสัน ลีฟ ใหม่ มีระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (e-powertrain) ขนาดความจุ 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) มีกำลังเครื่องยนต์สูงสุด 110 กิโลวัตต์ (kW) และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ดีขึ้น จาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 7.9 วินาที เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 311 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (New European Driving Cycle) ด้วยชุดแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนชุดใหม่ขนาด 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง

การชาร์จ สามารถทำได้ถึงสามวิธีหลักๆ ประกอบด้วย การชาร์จจากไฟบ้านปกติ จากอุปกรณ์ชาร์จติดผนัง หรือ wall box charging โดยส่วนมากเป็นการชาร์จแบบข้ามคืน ใช้เวลาชาร์จประมาณ 12-16 ชั่วโมง การชาร์จจากเครื่องชาร์จไฟฟ้า หรือ wall box charging จากที่บ้าน ที่ทำงาน หรือในที่ๆ อื่นๆ ที่มีการติดตั้ง ซึ่งจะสามารถชาร์จไฟฟ้าให้เต็มได้ภายในระยะเวลา 6-8 ชั่วโมง และการชาร์จแบบด่วนหรือที่เรียกว่า Quick Charge เป็นการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง โดยใช้เวลาชาร์จเพียงแค่ 40-60 นาที ซึ่งส่วนใหญ่มักมีติดตั้งในพื้นที่ที่ชาร์จสะดวก เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือที่สาธารณะต่างๆ

สำหรับ ลีฟ ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ เพิ่มความปลอดภัย และลดความเครียดจากการขับขี่ ได้แก่ เทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่ (Forward Collision Warning) เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Forward Emergency Braking) เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor) พร้อมด้วยเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection) และเทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Alert Assist)

ในส่วนการทำตลาดในไทย ราเมช นาราสิมัน ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า นิสสัน ในประเทศไทย พิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมพัฒนาระบบนิเวศของการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมทดสอบ นิสสัน ลีฟ ใหม่ ไอคอนของแนวคิด นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี และคงสถิติรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก ด้วยยอดขายที่มากกว่า 410,000 คัน

ทั้งนี้ ลูกค้าผู้เป็นเจ้าของ นิสสัน ลีฟ ใหม่ จะได้รับการประกันคุณภาพรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมการรับประกันระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และรับประกันการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่เป็นเวลา 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร โดยในปัจจุบันมีศูนย์บริการของผู้จำหน่ายฯ ของนิสสัน ที่ผ่านการรับรองจำนวน 32 แห่งทั่วประเทศที่สามารถนำเสนอข้อมูลของนิสสัน ลีฟ ใหม่ รวมถึงความพร้อมบริการหลังการขาย โดยช่างเทคนิคที่มีความชำนาญการ

จากการทดสอบครั้งนี้ รวมระยะทางรวมกว่า 140 กิโลเมตร และในช่วงเดินทางกลับจากร้านกาแฟนครไชยศรี เจอกับสภาพจราจรที่มีฝนตกหนักทำให้ต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวัง และจากการขับขี่บนทางด่วน สามารถใช้ความเร็วได้อย่างมั่นใจ และกลับถึง จีแลนด์ พระราม 9  อย่างปลอดภัย

แม้จะเป็นครั้งแรกในการทดสอบขับรถยนต์ไฟฟ้า 100%  แต่หลังจากการได้สัมผัสกับวิธีการขับขี่ด้วยเทคโนโลยี e-Pedal ทำให้ความรู้สึกชอบและสนุกเพลิน และมั่นใจว่า นิสสัน ลีฟ ใหม่  เหมาะที่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวัน ตอบโจทย์การขับขี่ในอนาคตและยุคดิจิทัล ได้อย่างไร้รอยต่อ