"อียิปต์" เกิดอาเพศน่าเวทนา วิกฤติเศรษฐกิจก่อหวอดปฏิวัติ

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556



อียิปต์...ประเทศที่อุดมไปด้วยร่องรอยอารยธรรมตะวันตกกำลังต้องเผชิญกับภาวะเคราะห์ซ้ำกรรมซัดสาหัสสากรรจ์ ทั้งจากวิบากกรรมเศรษฐกิจ และวิกฤต การณ์ทางการเมือง

เมื่อวันพุธที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา พลเอกอับเดล ฟาตาห์ เอล ซีซี่ ได้นำกำลังทหารก่อการรัฐประหารโค่นล้มอำนาจประธานาธิบดีโมฮัมหมัด มอร์ซี่ ตามคำเรียกร้องของประชาชน

ปฏิบัติการของกองทัพในการยึดอำนาจจากประธานาธิบดีดำเนินไปในลักษณะ "กระชับอำนาจ" เริ่มจากการยื่นคำขาดให้ประธานาธิบดีมอร์ซี่ ต้องดำเนินการตามข้อเรียกร้องของประชาชนว่าด้วยการเร่งออกมาตรการ แก้ปัญหาการว่างงาน แก้ปัญหาสินค้าราคาแพง และแก้ปัญหาการขาคแคลนพลังงานภายใน 48 ชั่วโมง

เมื่อครบกำหนดเส้นตาย 48 ชั่วโมง แต่ประธานาธิบดีมอร์ซี่ เพิกเฉยที่จะดำเนินการให้เป็นไปตามข้อเรียก ร้องของประชาชน กองทัพก็จัดการเข้ากระชับอำนาจในทันที ด้วยการ "กักบริเวณ" ประธานาธิบดีมอร์ซี่ และประกาศปลดประธานาธิบดีมอร์ซี่ออกจากตำแหน่ง พร้อมๆ กับ "ฉีกรัฐธรรมนูญ" ทิ้งในเวลาต่อมา ก่อนที่ประกาศแต่งตั้งนายแอดลี่ แมนซาวร์ ซึ่งเพิ่งจะได้รับการขยับสถานะจากรองประธานศาลรัฐธรรมนูญ ขึ้นเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญได้ไม่ถึง 1 สัปดาห์ ให้ขึ้นทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดี รับผิดชอบการบริหารราชการแผ่นดินต่อจากประธานาธิบดีมอร์ซี่ ที่ถูกกระทำการรัฐประหารโค่นล้มอำนาจ

ห้วงเวลาก่อนที่กองทัพจะประสบความสำเร็จในการกระชับอำนาจ ฝ่ายแนวร่วมประธานาธิบดีมอร์ซี่ได้พยายามต่อสู้อย่างสุดฤทธิ์ด้วยการใช้สถานีโทรทัศน์อัลจาซีร่า ในกรุงไคโรเป็นเครื่องมือเผยแพร่คำยืนยันการครองอำนาจของประธานาธิบดีมอร์ซี่ กระทั่งกองทัพต้องส่งกองกำลังบุกเข้ายึดสถานี พร้อมกับควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ของสถานีโทรทัศน์เอาไว้

5 รัฐมนตรีร่วมรัฐบาลภายใต้ประธานาธิบดีมอร์ซี่ ซึ่งมองทะลุปรุโปร่งถึงความปราชัยที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า ได้ตัดสินใจประกาศลาออกจากตำแหน่ง โดยไม่ต้องรอพิสูจน์ผลแพ้ชนะ

2 ใน 5 รัฐมนตรีที่ชิงลาออกจากตำแหน่งคือรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ

ข้างฝ่ายประธานาธิบดีมอร์ซี่ ก็ดิ้นรนอ้างความชอบธรรมในการอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดี ด้วยการยืนยันความเป็นประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนชาวอียิปต์ส่วนใหญ่ ทั้งๆ ที่ประชาชนส่วนใหญ่ที่เคยอยู่เบื้องหลังชัยชนะของเขานั่นแหละพากันเดินขบวนแสดงพลังเรียกร้องให้กองทัพจัดการยึดอำนาจ

ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยการรัฐประหารโค่นล้มอำนาจประธานาธิบดีมอร์ซี่ ที่เกิดขึ้นในอียิปต์ครั้งล่าสุด ถือเป็นอุบัติการที่เกิดซ้ำเหตุการณ์รัฐประหารโค่นล้มอำนาจประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค เมื่อปี 2554 โดยมีชนวนเหตุร่วมกันคือวิกฤตการณ์เศรษฐกิจ ที่กระทบต่อค่าครองชีพ และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ ตลอดจนความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวัสดิภาพความปลอดภัยของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดอย่างรุนแรง

มูลเหตุที่นำมาสู่จุดจบของประธานาธิบดีมอร์ซี่ กับประธานาธิบดีมูบารัค ก็ดูจะมีความคล้ายคลึงกันอย่างยิ่งรวม 3 ประการ

ประการแรก ล้มเหลวในการแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องประชาชน

ประการที่สอง เล่นพรรคเล่นพวก

ประการที่สาม บ้าอำนาจ

อาการเคราะห์ซ้ำกรรมซัดที่กำลังโหมกระหน่ำใส่อียิปต์ ได้ซ้ำเติมวิกฤติเศรษฐกิจให้เลวร้ายหนักยิ่งขึ้นและยากแก่การแก้ไขเยียวยามากขึ้น

ภาคธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งมีอิทธิพลต่อการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจ มีแนวโน้มที่จะย่ำแย่สาหัสหนักขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดน้อยถอยลงจากที่เคยสูงถึง 14 ล้านคน เมื่อปี 2553 มาเหลือ 10.5 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว และส่อแววจะลดลงเหลือต่ำกว่า 10 ล้านคนในปีนี้

การลงทุนจากต่างประเทศ ที่เคยมีบทบาทอย่างสำคัญการเสริมสร้างความมั่งคั่งมั่นคงแก่ระบบเศรษฐกิจอียิปต์ ก็นับวันจะเลือนรางจางหายไปอย่างน่าใจหาย

บ้านเมืองที่จมอยู่ในวังวนความแตกแยก แก่งแย่งช่วงชิงอำนาจระหว่างกันทางการเมือง ย่อมเป็นบ้านเมืองที่วังเวง และน่าสมเพชเวทนาด้วยประการฉะนี้แล


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ