ถ้าเอ่ยถึง “ผักขจร” หรือ “ผักสลิด” เชื่อว่าคงมีหลายคนรู้จักกันไม่น้อย โดยเฉพาะคนไทยสมัยก่อน และคนที่อยู่อาศัยแถบต่างจังหวัด เพราะผักขจรถือเป็นผักพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมมาประกอบอาหาร เพราะดอกมีความกรอบ หวาน มีกลิ่นหอม และไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว นิยมทำได้หลายเมนู อาทิ ไข่เจียวดอกขจร แกงจืดดอกขจร ดอกขจรผัดน้ำมันหอย เป็นต้น แถมยังมีวิธีการปลูกและดูแลง่าย ปลูกได้ทุกสภาพพื้นดิน ปัจจุบัน นิยมปลูกมากขึ้นตามบ้านเรือน และปลูกเป็นแปลงใหญ่เพื่อการค้า

คุณกนกวรรณ ส่งเสริม เจ้าของสวนดอกขจร (ผักสลิด) ต.วังไทร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เล่าว่า ที่สวนได้ทำการปลูกดอกขจร จำนวน 1,200 กว่าต้น ในพื้นที่ประมาณ 1 ไร่กว่าๆ และได้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรสยามธุรกิจเพื่อดูแลต้นดอกขจรตลอดตั้งแต่ได้เริ่มใช้

“ที่สวนได้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรสยามธุรกิจมาตั้งแต่เริ่มปลูกวันแรก ซึ่งการปลูกนั้น จะใช้เม็ดปุ๋ยรองพื้นก่อน แล้วค่อยฉีดพ่นอาหารเสริมอาทิตย์ละครั้ง และใช้เวลาปลูกเพียง 3 เดือน ก็สามารถเก็บดอกขายได้แล้ว และแน่นอนว่า ดอกที่ออกจะสมบูรณ์ สวยงาม ไม่มีพิษจากสารเคมี และออกดอกอย่างต่อเนื่องเก็บขายได้ทุกวัน”

ช่วงแรกได้ทดลองปลูก 2 แปลง แปลงแรกใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรสยามธุรกิจ และอีกแปลงใช้สารเคมีปกติ เพื่อจะได้วัดกันไปเลยว่า แปลงไหนจะออกผลผลิตได้ดีกว่า แต่เมื่อถึงช่วงเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แปลที่ใช้อินทรีย์สูตรสยามธุรกิจได้ผลผลิตที่ดีกว่า สามารถเก็บได้วันละ 20 กิโลกรัม ส่วนแปลงที่ใช้ปุ๋ยเคมี เก็บได้เพียงแค่วันละ 7-8 กิโลกรัมเท่านั้น

“ส่วนราคาขายนั้น แปลงที่เป็นอินทรีย์จะได้ราคากิโลกรัมละประมาณ 100 บาท ส่วนแปลงที่ใช้เคมี จะได้ประมาณ 80 บาท ซึ่งมีความต่างกันมากถึง 20 บาททีเดียว ที่สำคัญดอกยังออกมาไม่สวย ไม่สมบูรณ์เท่าแปลงที่ใช้อินทรีย์ ดังนั้น จึงตัดสินใจใช้อินทรีย์ 100%”

อย่างไรก็ดี เมื่อที่สวนได้หันมาปลูกดอกขจรแบบใช้อินทรีย์ 100% เราก็รู้สึกดีที่มอบความปลอดภัยให้ลูกค้า และลูกค้าก็ประทับใจ เพราะได้มอบความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคต่อไป ทั้งนี้ ยังมีลูกค้ามาขอดูที่สวนเอง ทางเราก็ยินดีให้ดูเพราะว่าไม่ได้ใช้สารเคมีจริงๆ ลูกค้าประทับใจมากจนถึงขั้นเสนอราคาขึ้นให้เองเลย จากเดิมตะกร้าหนึ่งน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ราคา 100 บาท เมื่อลูกค้าเก็บเองก็เพิ่มราคาให้เป็น 200 หรือ 300 บาทแล้วแต่น้ำใจเลยทีเดียว

คุณกนกวรรณ เล่าต่อว่า เมื่อก่อนมีโรครากเน่า โคลนเน่า แมลงกัดกินที่ต้น ซึ่งเป็นปัญหาอย่างมาก ตั้งแต่ใช้อินทรีย์สูตรสยามธุรกิจก็ไม่เป็นอีกแล้ว และเมื่อก่อนอาทิตย์หนึ่งมาดูผลผลิตก็ยังน้อยไม่สามารถเก็บขายได้ แต่ปัจจุบันเก็บได้ทุกวันเลยทีเดียว จึงวางแผนที่จะขยายสวนเพิ่มขึ้น

“ตอนนี้มั่นใจอินทรีย์สูตรสยามธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะช่วยลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตให้กับทางเรา จึงอยากอยากฝากถึงพี่น้องชาวเกษตรกรทุกคนให้เน้นเรื่องความปลอดภัยให้ตัวเราเอง คนงานที่อยู่ในสวน และเปิดใจมาลองใช้อินทรีย์สูตรสยามธุรกิจ เพื่อมุ่งเน้นให้ทุกคนๆ ปลอดภัยจากสารเคมี เพราะผู้บริโภคหันมาใส่ใจเรื่องการรักสุขภาพมากยิ่งขึ้นแล้ว”