ธุรกิจโสมขาวฟุบ ธุรกิจจีนเฟื่อง ยกโขยงเงินทุนบุกยึดพื้นที่สหรัฐ

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ธุรกิจโสมขาวฟุบ ธุรกิจจีนเฟื่อง ยกโขยงเงินทุนบุกยึดพื้นที่สหรัฐ


ธุรกิจสัญชาติเกาหลีใต้กำลังอยู่ในคราวเคราะห์ และอาจต้องทำพิธีสะเดาะเคราะห์กันครั้งมโหฬาร ไม่ว่าจะเป็นสายการบินเอเซียน่า ที่เพิ่งพาผู้โดยสารไปตกกระแทกพื้นที่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและล้มตายหลายราย หรือค่ายซัมซุง ยักษ์ใหญ่ หมายเลข 1 ในตลาดสมาร์ทโฟนของโลก ก็มีผลประกอบการย่ำแย่ย่อยยับผิดหูผิดตา

รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาสล่าสุดของค่ายซัมซุง ที่ถูกเปิดเผยออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อนมียอดรายได้จำนวน 8,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่ำกว่าความคาดหมายของบรรดานักวิเคราะห์ธุรกิจไปร้อยละ 5 และมีแนวโน้มที่ออกจะน่าเป็นห่วงเป็นกังวลอยู่มาก

เหตุปัจจัยสำคัญที่กดดันให้รายได้จากการดำเนินงานของซัมซุงออกมา "ขี้เหร่" ผิดไปจากความคาดหมายของนักวิเคราะห์ธุรกิจทั้งหลายมีอยู่ 2 ประการ

ประการแรก รายได้จากยอดขายสมาร์ทโฟนตกต่ำ แม้จะมีการวางตลาด "แกแลคซี่เอส-4" ซึ่งค่ายซัมซุงปล่อยออกสู่ท้องตลาดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาและหมายมั่นปั้นมือให้เป็นสุดยอดสมาร์ทโฟนแห่งยุค ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น และระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด แต่ปฏิกิริยาของลูกค้าในท้องตลาดกลับ "เฉยเมย"

ประการที่สอง รายได้จากยอดขายเครื่องรับโทรทัศน์ ก็มีอาการถดถอยลง ด้วยเหตุจากยอดจำหน่าย และราคาขายที่ลดลง

อาการซึมตัวลงของธุรกิจสัญชาติเกาหลีใต้ ดูจะตรงกันข้ามกับปฏิกิริยาความคึกคักของเศรษฐีชาวจีนที่หอบหิ้วความมั่งคั่งร่ำรวยข้ามทวีปจากบ้านเกิดในเมืองจีน บุกเข้าไปกว้านซื้ออาคารบ้านพักอาศัยในประเทศสหรัฐอเมริกากันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

สมาคมผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา รายงานความเคลื่อนไหวในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สหรัฐอเมริกาล่าสุด ระบุว่าในรอบระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มทุนต่างด้าวได้เข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาเป็นมูลค่ารวมกันจำนวน 68,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกลุ่มทุนจากประเทศจีน มีการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์มากเป็นอันดับ 2 ด้วยสัดส่วนร้อยละ 18 ในบรรดาชาวต่างชาติที่เข้าไปลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริการองจากกลุ่มทุนจากแคนาดา ที่ครองสัดส่วนสูงสุดร้อยละ 23

แม้ทุนจีน จะรุกเข้าครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริการองจากทุนแคนาดา แต่ราคาของอสังหาริมทรัพย์ที่ทุนจีนเข้าซื้อครอบครองดูจะเหนือชั้นกว่าทุนต่างต่างด้าวทุกสัญชาติ ด้วยระดับราคาเฉลี่ยที่ 425,000 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะระดับราคาเฉลี่ยของราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ทุนแคนาดาซื้อครอบครองอยู่แค่ 183,000 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น

ลักษณะพิเศษของการเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ ในสหรัฐอเมริกาโดยกลุ่มทุนจีน มีข้อน่าสังเกต 4 ประการด้วยกัน

ประการแรก ส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 70 ของการซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นการซื้อด้วยเงินสด

ประการที่ 2 ส่วนใหญ่ของทุนจีนที่เข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา เป็นกลุ่มทุนภาคอุตสาหกรรม และภาคธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ประการที่ 3 ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 50 ของทำเลอสังหาริมทรัพย์ที่กลุ่มทุนจีนให้ความสนใจเข้าซื้อ จะกระจุกตัวอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และถูกใช้เป็นที่พักอาศัยของลูกหลาน ซึ่งถูกส่งไปศึกษาเล่าเรียนที่สหรัฐอเมริกา

ประการที่ 4 ส่วนใหญ่ของการเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยทุนจีน เป็นการเข้าซื้อผ่านช่องทางโครงการ "EB-5 Immigrant Investor" เพื่อหวังสิทธิประโยชน์ในการได้ "กรีนการ์ด" อย่างสะดวกโยธิน สำหรับใช้เป็นใบเบิกทางในการต่อยอดทำมาหากินในสหรัฐอเมริกาได้อย่างสะดวกสบาย

ด้วยกระแสนิยมของทุนจีน ที่เลือกใช้ช่องทางนี้ ทำให้สถิติการครอบครองวีซ่าประเภท EB-5 เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา เกือบร้อยละ 80 กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มทุนจีน

สำหรับทุนต่างด้าวอื่นๆนอกเหนือจากทุนแคนาดา และทุนจีน ที่สนใจเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาได้แก่กลุ่มทุนจากเม็กซิโก มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ด้วยสัดส่วนร้อยละ 8 กลุ่มทุนจากอินเดีย และกลุ่มทุนจากอังกฤษ เป็นอันดับ 4 ด้วยสัดส่วนเท่ากันคือร้อยละ 5

ขณะที่เมืองหรือมลรัฐที่ทุนต่างด้าวสนใจเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้แก่ฟลอริด้า แคลิฟอร์เนีย อริโซน่า เท็กซัส นิวยอร์ก เวอร์จิเนีย และวอชิงตัน

ความอ่อนแอของระบบเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ยืดเยื้อเรื้อรัง กำลังกลายเป็นช่องโหว่ให้ทุนต่าวด้าวยาตราทัพเข้ายึดครองดินแดนได้อย่างง่ายดาย


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ