ไอเอ็มเอฟชี้ ศก.จีนเสี่ยงชะลอ ส่งออกลด-เงินหยวนแข็งค่า

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ไอเอ็มเอฟชี้ ศก.จีนเสี่ยงชะลอ ส่งออกลด-เงินหยวนแข็งค่า


ไอเอ็มเอฟ เผยจีนเสี่ยงกับการลดลงมากที่สุด หลังการลงทุน-การบริโภคไม่สมดุล สินเชื่อตึงตัว ด้าน ศุลกากรจีน ยอมรับเจอแรงท้าทายใหญ่ ส่งออกลดหลังเศรษฐกิจโลกซบเซา ต้นทุนแรงงานสูงขึ้น และเงินหยวนแข็งค่า

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ "ไอเอ็มเอฟ" เตรียมจัดงานแถลงข่าวที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ของสหรัฐฯ เพื่อเผยแพร่ รายงานทบทวนแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับ ล่าสุด เดือน พ.ค. โดย นายโอลิวิเยร์ บล็องชาร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของไอเอ็มเอฟ เป็นผู้ให้รายละเอียด โดยการประเมินระบุว่า การเติบโตของโลก ในปี 2556 และ ปี 2557 จะชะลอตัวลงกว่าที่เคย คาดการณ์ไว้เมื่อ 3 เดือนก่อน เนื่องจาก ความวิตกภายใต้คาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศ กำลังพัฒนายักษ์ใหญ่ อย่างเช่นจีนและบราซิล ที่เริ่มจะอ่อนแอลง และยุโรปเกิด ภาวะตกต่ำมากขึ้น

นายบลองชาร์ด มองว่า จีนมีความเสี่ยง มากที่สุด ในแง่การขยายตัวของเศรษฐกิจลดลงอย่างมาก ซึ่งไอเอ็มเอฟระบุว่า จีนเป็น ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่สุดอันดับ 2 ของ โลก แต่กลับมีความไม่สมดุลด้วยการลงทุน มากเกินไปและการบริโภคน้อยเกินไป การ ลงทุนมากเกินไปดังกล่าว ได้รับทุนอุดหนุน จากภาคธนาคารอยู่นอกระบบ ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วช่วงเกิดวิกฤติการเงินโลก ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ภาวะการเติบโตชะลอตัวแล้ว จีนกำลังเผชิญปัญหาสินเชื่อตึงตัว หลังจากพยายามจะจัดการอันตรายที่เป็นความเสี่ยง ที่เกิดจากสินเชื่อ ซึ่งไม่ได้รายงานในงบบัญชีธนาคาร แต่กลับเป็น หนี้ซ่อนในส่วนที่ไม่เปิดเผยหรืออยู่ในระบบ การเงินทั่วประเทศ การปล่อยกู้นอกงบบัญชีหรือการปล่อยกู้ในตลาดมืด ที่อาจคุกคามเสถียรภาพการเงินได้ หากไม่เข้า ไปควบคุมดูแลอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์บางคนมองว่า การ เคลื่อนไหวเพื่อกวาดล้างปัญหาหนี้มากเกิน ไป เป็นความพยายามที่จำเป็นและใช้เวลา นานเกิน ที่จะแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างสำหรับเศรษฐกิจจีนที่อยู่ภายใต้การครอบงำรัฐบาล แต่กระนั้นก็ตามเป็นที่คาดการณ์ กันว่าจีน จะยังขยายตัวได้เกือบ 8% ต่อปี และเศรษฐกิจยังคงสดใสอย่างมาก เมื่อเทียบ กับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว

โดยรายงานไอเอ็มเอฟ คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวลดลงเหลือ 7.8% จากเดิมที่คาดไว้ 8.1% ส่วนปีหน้าคาดว่าจะเติบโตลดลงเหลือ 7.7% จากเดิมที่คาดไว้ 8.3%

ขณะเดียวกัน นายเจิ้ง หยูเฉิง โฆษกกรมศุลกากร รายงาน จีนกำลังเผชิญความท้าทายที่ค่อนข้างหนักหนาในด้านการค้า และแนวโน้มการส่งออกรายไตรมาส โดยบรรดาผู้ส่งออกกำลังสูญเสียความเชื่อ มั่น จากความต้องการในต่างประเทศที่ซบ เซาต่อเนื่อง ต้นทุนแรงงานสูงขึ้น และเงิน หยวนแข็งค่า

ทั้งนี้ ข้อมูลการค้าประจำเดือนมิถุนายน แสดงให้เห็นว่า จีนมีมูลค่าการส่งออกลดลง 3.1% และนำเข้าลดลง 0.7% ตัวเลขที่บรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า อาจเป็นการสะท้อนให้เห็นภาพการค้าที่แท้จริง

ขณะเดียวกัน ข้อมูลของกรมศุลกากร จีน ยังแสดงให้เห็นว่า จีนมีมูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ตลาดส่งออกขนาดใหญ่ สุดของประเทศ ร่วงลง 5.4% ขณะที่การส่งออกไปยังสหภาพยุโรปลดลง 8.3%

ด้าน นายหลี่ ฮุยหยง นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทหลักทรัพย์เฉินหยิน แอนด์ หวังกั๋ว ซิเคียวริตีส์ แสดงความเห็นว่า ตัวเลขที่ออกมาสะท้อนว่าเศรษฐกิจ กำลังเจอกับแรงกดดันขาลง เพราะขาดปัจจัยหนุนในเรื่องความต้องการภายนอก

โกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับประมาณการความเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนปีนี้ เหลือ 7.4% จาก 7.8% เมื่อปีที่แล้ว ขณะ ที่ตัวเลขประมาณการของรัฐบาล จีน อยู่ที่ 7.5% ส่วนปี 2557 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 7.7% จาก 8.4% เมื่อปีที่แล้ว โดยระบุว่า สภาพการณ์ทางการเงิน ที่ตึงตัวมากขึ้น บวกกับการเร่งปฏิรูประบบเศรษฐกิจซึ่งมีขนาดใหญ่สุดอันดับ 2 ของโลก เสี่ยงต่อการถดถอย


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ