นางสาวชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานกิจกรรมการตลาดและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า อุตสาหกรรมนาฬิกานั้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังคงเป็นไปในทิศทางบวก ทั้งนี้ จากตัวเลขจากงานบาเซิล เวิลด์ ที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ระบุว่า มูลค่าการส่งออกนาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ มีมูลค่าถึง 2.1 หมื่นล้านฟรังก์สวิส หรือราว 6.7 แสนล้านบาท โดยมีตลาดเอเชียเป็นแกนนำหลัก ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 53% เพิ่มขึ้น 12.2% และฮ่องกงยังคงเติบโตเป็นอันดับต้นๆ ด้าน สหรัฐอเมริกา ยังมีส่วนสร้างให้ภาพรวมการเติบโตของธุรกิจดำเนินไปเป็นอย่างดี มีอัตราส่วน 14% ขณะที่ยุโรป ยังคงเป็นตลาดที่สำคัญ ด้วยอัตราส่วนทางการตลาด 31%
“ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดนาฬิกาในเอเชีย ยังคงเป็นที่สนใจของแบรนด์ต่างๆ โดยเฉพาะสำหรับประเทศไทยเองติดอันดับ 15 ของโลกที่นำเข้านาฬิกาจากสวิส โดยตลาดนาฬิกาหรูระดับลักซ์ชัวรี่ ยังคงเป็นเป็นอันดับ 1 ที่ผู้บริโภคยังคงให้ความสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าผู้ชายที่ให้ความสนใจมากกว่าผู้หญิง และนิยมซื้อเพื่อเป็นของขวัญให้ตัวเองหรือการสะสมเพื่อเพิ่มมูลค่าและการลงทุน”
ล่าสุด เราจึงได้ทุ่มงบราวกว่า 45 ล้านบาท จัดงานสยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2019 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “THE RHYTHM OF TIMEPIECES” ที่รวบรวมความสุดยอดของประดิษฐกรรมแห่งเรือนเวลาจากทั่วโลกกว่า 180 แบรนด์ชั้นนำ รวมกว่า 30,000 เรือน มาไว้ในงานเดียว ในปีนี้คาดว่านาฬิกาแบรนด์หรู นาฬิการุ่นลิมิเต็ด หรือรุ่นพิเศษฉลองครบรอบต่างๆ ในกลุ่มไฮเอนด์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Franck Muller, Breitling, Hublot, Ulysse Nardin, Nomos Glashütte และแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ นอกจากนี้นาฬิกาในกลุ่มสมาร์ท วอทช์ ก็ยังคงเติบโตสูงขึ้นราว 10% จากเดิม 1.2% ซึ่งการจัดงานครั้งนี้คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินสะพัดในงานไม่ต่ำกว่า 360 ล้านบาท
ด้าน คุณจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมตลาดนาฬิกาในประเทศไทยมูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ นาฬิการะดับลักซ์ชัวรี่ (500,000 บาท ขึ้นไป) สัดส่วนตลาด 20%, นาฬิกาไฮเอนด์ (100,000 – 500,000 บาท) สัดส่วนตลาด 34.85%, นาฬิกามิดเอนด์ (20,000 – 100,000 บาท) มูลค่าตลาด คิดเป็น 30.62% และนาฬิกาแฟชั่นและเทรนด์ (5,000 – 20,000 บาท) มูลค่าตลาด คิดเป็น 14.53% มีอัตราการเติบโตจากปีที่แล้ว 3% ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของธุรกิจ
ทั้งนี้ วอทช์ แกลอเรีย ถือเป็นเดสติเนชั่นของคนกลุ่มรวมถึงนักสะสมนาฬิกา ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันการเติบโตของตลาดนาฬิกาทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทย สำหรับกลยุทธ์ของวอทช์ แกลอเรีย ในปีนี้มี 3 ปัจจัยหลักที่จะผลักดันยอดขายให้เติบโต ได้แก่ 1. Smart watch ที่เพิ่มจำนวนแบรนด์และรุ่นออกสู่ตลาด โดยเราจะขยายการจำหน่ายให้ครบทุกสาขาภายในใตรมาสที่ 4 นี้ 2. Mid Luxe watch ที่เราจะขยายสาขาโดยนำรูปแบบ concept จากสวิส ฯ ไปยังสาขาของเดอะมอลล์ 3. On line market เราจะออกสินค้าร่วมกับลาซาด้าในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งถือเป็นช้อปนาฬิกาแรกที่จะเปิดผ่านช่องทาง on line เป็นที่แรก โดยจะมีสินค้ากว่า 100 sku โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 5 ล้านบาท จนถึงสิ้นปีนี้ สำหรับภาพรวม วอทช์ แกลอเรีย มีส่วนแบ่งตลาดนาฬิกา 10% จากภาพรวมของตลาดนาฬิการีเทลมีมูลค่า 15,000 ล้านบาท คาดว่างานสยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป ช่วยกระตุ้นยอดขายให้เติบโตขึ้นกว่า 12% ทั้งนี้ในช่วง 6 เดือนสุดท้ายตั้งเป้าเติบโตขึ้น 5%