“สยามพารากอน” เผย ตลาดนาฬิกาลักซ์ชัวรี่เอเชียโตล้ำกว่า ยุโรป-เมกา ชี้ ไทยคือหนึ่งตลาดเดสติเนชั่นสำคัญ

วันจันทร์ที่ 08 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

“สยามพารากอน” เผย ตลาดนาฬิกาลักซ์ชัวรี่เอเชียโตล้ำกว่า ยุโรป-เมกา  ชี้ ไทยคือหนึ่งตลาดเดสติเนชั่นสำคัญ


นางสาวชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานกิจกรรมการตลาดและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า อุตสาหกรรมนาฬิกานั้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังคงเป็นไปในทิศทางบวก ทั้งนี้ จากตัวเลขจากงานบาเซิล เวิลด์ ที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ระบุว่า มูลค่าการส่งออกนาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ มีมูลค่าถึง 2.1 หมื่นล้านฟรังก์สวิส หรือราว 6.7 แสนล้านบาท โดยมีตลาดเอเชียเป็นแกนนำหลัก ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 53% เพิ่มขึ้น 12.2%  และฮ่องกงยังคงเติบโตเป็นอันดับต้นๆ  ด้าน สหรัฐอเมริกา ยังมีส่วนสร้างให้ภาพรวมการเติบโตของธุรกิจดำเนินไปเป็นอย่างดี มีอัตราส่วน 14% ขณะที่ยุโรป ยังคงเป็นตลาดที่สำคัญ ด้วยอัตราส่วนทางการตลาด 31%

ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดนาฬิกาในเอเชีย ยังคงเป็นที่สนใจของแบรนด์ต่างๆ  โดยเฉพาะสำหรับประเทศไทยเองติดอันดับ 15 ของโลกที่นำเข้านาฬิกาจากสวิส โดยตลาดนาฬิกาหรูระดับลักซ์ชัวรี่ ยังคงเป็นเป็นอันดับ 1 ที่ผู้บริโภคยังคงให้ความสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าผู้ชายที่ให้ความสนใจมากกว่าผู้หญิง และนิยมซื้อเพื่อเป็นของขวัญให้ตัวเองหรือการสะสมเพื่อเพิ่มมูลค่าและการลงทุน

              ล่าสุด เราจึงได้ทุ่มงบราวกว่า 45 ล้านบาท จัดงานสยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2019 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “THE RHYTHM OF TIMEPIECES” ที่รวบรวมความสุดยอดของประดิษฐกรรมแห่งเรือนเวลาจากทั่วโลกกว่า 180  แบรนด์ชั้นนำ รวมกว่า 30,000 เรือน มาไว้ในงานเดียว ในปีนี้คาดว่านาฬิกาแบรนด์หรู นาฬิการุ่นลิมิเต็ด หรือรุ่นพิเศษฉลองครบรอบต่างๆ ในกลุ่มไฮเอนด์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น  Franck Muller, Breitling, Hublot, Ulysse Nardin, Nomos Glashütte และแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ นอกจากนี้นาฬิกาในกลุ่มสมาร์ท วอทช์ ก็ยังคงเติบโตสูงขึ้นราว 10% จากเดิม 1.2%  ซึ่งการจัดงานครั้งนี้คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินสะพัดในงานไม่ต่ำกว่า 360 ล้านบาท

ด้าน คุณจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส บริษัท  เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมตลาดนาฬิกาในประเทศไทยมูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ นาฬิการะดับลักซ์ชัวรี่ (500,000 บาท ขึ้นไป) สัดส่วนตลาด 20%, นาฬิกาไฮเอนด์ (100,000 – 500,000 บาท) สัดส่วนตลาด 34.85%, นาฬิกามิดเอนด์ (20,000 – 100,000 บาท) มูลค่าตลาด คิดเป็น 30.62% และนาฬิกาแฟชั่นและเทรนด์ (5,000 – 20,000 บาท) มูลค่าตลาด คิดเป็น 14.53%  มีอัตราการเติบโตจากปีที่แล้ว 3% ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของธุรกิจ

ทั้งนี้ วอทช์ แกลอเรีย ถือเป็นเดสติเนชั่นของคนกลุ่มรวมถึงนักสะสมนาฬิกา ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันการเติบโตของตลาดนาฬิกาทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทย สำหรับกลยุทธ์ของวอทช์ แกลอเรีย ในปีนี้มี 3 ปัจจัยหลักที่จะผลักดันยอดขายให้เติบโต ได้แก่ 1. Smart watch ที่เพิ่มจำนวนแบรนด์และรุ่นออกสู่ตลาด  โดยเราจะขยายการจำหน่ายให้ครบทุกสาขาภายในใตรมาสที่ 4 นี้ 2. Mid Luxe watch ที่เราจะขยายสาขาโดยนำรูปแบบ concept จากสวิส ฯ ไปยังสาขาของเดอะมอลล์ 3. On line market  เราจะออกสินค้าร่วมกับลาซาด้าในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งถือเป็นช้อปนาฬิกาแรกที่จะเปิดผ่านช่องทาง on line เป็นที่แรก โดยจะมีสินค้ากว่า 100 sku โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 5 ล้านบาท จนถึงสิ้นปีนี้  สำหรับภาพรวม วอทช์ แกลอเรีย มีส่วนแบ่งตลาดนาฬิกา 10% จากภาพรวมของตลาดนาฬิการีเทลมีมูลค่า 15,000 ล้านบาท คาดว่างานสยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป ช่วยกระตุ้นยอดขายให้เติบโตขึ้นกว่า 12%  ทั้งนี้ในช่วง 6 เดือนสุดท้ายตั้งเป้าเติบโตขึ้น 5%



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ