จริงหรือเนี่ย !! เอเชียมีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ... (กรุงเทพ ฯ) ติดโผวอันดับที่ 40

วันจันทร์ที่ 01 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

จริงหรือเนี่ย !! เอเชียมีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ... (กรุงเทพ ฯ) ติดโผวอันดับที่ 40


องค์กรข้ามชาติต่างมุ่งวางกลยุทธ์การบริหารทรัพยากรบุคคลด้วยการโยกย้ายพนักงานไปประจำในต่างประเทศ เพื่อผลักดันความก้าวหน้าในสายอาชีพและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในระดับโลก กรุงเทพฯ มีค่าครองชีพสูงติดอันดับที่ 40 ของโลกฮ่องกงยังคงครองตำแหน่งเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก 8 ใน 10 เมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกอยู่ในเอเชีย

เมอร์เซอร์ เผยผลการสำรวจอัตราค่าครองชีพประจำปีครั้งที่ 25 พบว่าในการจัดอันดับ 10 เมืองที่มีอัตราค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก 8 เมืองจาก 10 เมืองอยู่ในเอเชีย ซึ่งเป็นผลจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้น และราคาที่อยู่อาศัยที่มีการผันผวนอย่างต่อเนื่อง

ฮ่องกง ยังคงครองตำแหน่งเมืองที่มีอัตราค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ซึ่งเป็นผลจากราคาที่อยู่อาศัยที่สูงเกินเอื้อม สำหรับเมืองอื่น ๆ ใน 10 อันดับแรก ได้แก่ โตเกียว (2) สิงคโปร์ (3) โซล (4) ซูริค (5) เซี่ยงไฮ้ (6) อาชกาบัต (7) ปักกิ่ง (8) นิวยอร์ก (9) และเซินเจิ้น (10) โดยเมืองอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน เป็นเมืองที่มีการไต่อันดับขึ้นมากที่สุด จากอันดับที่ 43 ในปี 2561 สู่อันดับที่ 36 ในปี 2562 เนื่องจากการขาดแคลนสกุลเงินและราคาสินค้านำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้น

ส่วนอันดับที่สูงขึ้นของกรุงเทพฯ นั้น ผลสำรวจพบว่ามีสาเหตุมาจากการย้ายถิ่นฐานของผู้อยู่อาศัยจากเมืองอื่น ๆ และผลของการเติบโตด้านเศรษฐกิจ โดยมีผลกระทบจากการผันผวนของค่าเงินและภาวะเงินเฟ้อเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นายมาริโอ้ เฟอราโร่ ผู้อำนวยการด้าน Global Mobility Practice ประจำภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกาของเมอร์เซอร์ กล่าวว่า เอเชียยังคงเป็นกำลังสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก “แม้เมืองในเอเชียจะมีอัตราค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูง แต่หลายองค์กรก็ยังคงเล็งเห็นความจำเป็นทางธุรกิจในการโยกย้ายพนักงานไปประจำในภูมิภาคนี้ องค์กรต่าง ๆ จึงต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมค่าใช้จ่าย รวมทั้งการระบุเหตุผลทางธุรกิจที่ชัดเจนในการมอบหมายงาน และการวัดผลค่าตอบแทนจากการลงทุน” นายเฟอราโร่กล่าว

ทั้งนี้ การจัดอันดับอัตราค่าครองชีพของเมอร์เซอร์ในปีนี้เป็นการเก็บข้อมูลจาก 20 เมืองใน 5 ทวีปทั่วโลก โดยวัดจากการเปรียบเทียบราคาของ 200 รายการในแต่ละเมือง ภายใต้หมวดหมู่ที่อยู่อาศัย การเดินทาง อาหาร เครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ในบ้าน และความบันเทิง

ผลการสำรวจยังพบว่าในเมืองใหญ่ทั่วโลก ราคาของตั๋วภาพยนตร์ กาแฟ ค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ และค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในฮ่องกงมีราคาแพงที่สุดในโลก ในขณะที่นมในกรุงปักกิ่งมีราคาสูงที่สุดในโลกถึง 4.45 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับราคาของนมในกรุงนิวยอร์กที่ 1.21 ดอลลาร์สหรัฐ

ผลการศึกษาของเมอร์เซอร์เป็นหนึ่งในผลการศึกษาที่มีความครอบคลุมมากที่สุดในโลก และได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือองค์กรนานาชาติและหน่วยงานรัฐบาล ในการวางแผนค่าตอบแทนให้แก่พนักงานที่ย้ายไปประจำสาขาในต่างประเทศ โดยมีกรุงนิวยอร์กเป็นมาตรฐานในการเปรียบเทียบอัตราราคา และใช้ดอลลาร์สหรัฐในการวัดการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินต่าง ๆ

“ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ทักษะการทำงานเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญ โดยมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี (Digital Disruption) และการเชื่อมโยงเครือข่ายบุคลากรทั่วโลกเป็นพลังขับเคลื่อน องค์กรระดับโลกจึงต้องให้ความสำคัญมากขึ้นกับการโยกย้ายพนักงานไปยังต่างประเทศ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่จะสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้แก่องค์กรได้” นายอิเลีย โบนิก ประธานธุรกิจ Career ของเมอร์เซอร์กล่าว

“นอกจากนี้ การย้ายพนักงานไปต่างประเทศยังมีข้อดีสำหรับทั้งตัวพนักงานเองและองค์กรอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความก้าวหน้าทางอาชีพ ประสบการณ์ในระดับโลก การเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และการโยกย้ายทรัพยากร ซึ่งการมอบข้อเสนอค่าตอบแทนที่สมเหตุสมผลและมีข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน จะทำให้องค์กรสามารถสร้างประโยชน์ต่อธุรกิจได้จากการโยกย้ายพนักงาน” นายโบนิกกล่าว



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ