ผู้บริโภคเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอด-ภัยในการใช้โทรศัพท์มือถือ และต้องระมัดระวังมากขึ้น หลังสมาร์ทโฟนชื่อดังของโลกเกิดเหตุไม่คาดฝัน ไอโฟน 5 ของ แอปเปิ้ล ชอร์ตแอร์โฮสเตสสาวจีนจนเสีย ชีวิตขณะโทรศัพท์ระหว่างชาร์จแบตเตอรี่ ส่วนซัมซุง กาแล็กซี เอส 3 ระเบิดในกระเป๋าสาวสวิส ได้รับบาดเจ็บโดนไฟไหม้ต้นขาขวา ทั้ง 2 ค่าย เร่งตรวจหาสาเหตุ

หนังสือพิมพ์โกลบอล ไทมส์ ของจีน รายงานโดยอ้างการรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์หยางเฉิง อีฟนิ่ง นิวส์ ว่า หม่า อ้ายหลุน แอร์โฮสเตสสาววัย 23 ปี ของสายการบินไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ส ถูกไฟชอร์ตเสียชีวิตที่บ้านของเธอทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เมื่อวันพฤหัสบดี (11 ก.ค.) ที่ผ่านมา ขณะคุยโทรศัพท์ไอโฟน 5 ระหว่างเสียบปลั๊กชาร์จ แบตเตอรี่อยู่

โดยตำรวจที่เมืองชางจี้ ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ กล่าวยืนยัน ว่า ได้รับรายงานการเสียชีวิตจากครอบ-ครัวของแอร์โฮสเตสสาวแล้ว และเริ่มดำเนินการสืบสวนแล้ว แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม หลังจากพี่สาวของเธอเปิดเผยเรื่องดังกล่าวในเว็บไซต์ซินา เหว่ยปั๋ว ที่ระบุว่า เธอหวังว่าแอปเปิลจะให้คำอธิบายต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และหวังว่าทุกคนจะไม่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะที่กำลังชาร์จแบตเตอรี่ เธอยังระบุว่า น้องสาวซื้อโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว มาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และยังคงอยู่ระหว่างการรับประกันเครื่อง อีกทั้งยังใช้อุปกรณ์ชาร์จของแท้ที่ติดมากับเครื่อง หลังจากนั้น โพสต์ในเว็บไซต์เว่ยปั๋ว ก็ได้กลายเป็นประเด็นร้อนบนเว็บไซต์จีน ชาวเน็ตหลายคนกล่าวเตือนอันตรายจาก การใช้โทรศัพท์ขณะชาร์จแบต ขณะที่บาง คนชี้ว่าอุปกรณ์ชาร์จอาจไม่ได้มาตรฐาน

ด้าน บริษัท แอปเปิล ฮ่องกง ได้แถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต และทางผู้เชี่ยว-ชาญของบริษัทกำลังพยายามเร่งค้นหาหลักฐานที่แท้จริงอย่างละเอียดถี่ถ้วน และ ให้ความร่วมมือกับตำรวจจีนอย่างเต็มที่ ทั้งยังมีแผนการจะชดเชยค่าเสียหายให้กับสมาชิกเหยื่ออีกด้วย ขณะที่ตำรวจยังไม่ยืนยันว่า การใช้โทรศัพท์รุ่นนั้นเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของเธอหรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน

ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ฉงชิ่ง โพสต์รายงานว่า เกิดเหตุ ไอโฟนระเบิดเช่นกัน โดยนายหวัง ไค เจ้าของเครื่อง เปิดเผยว่า ขณะหลับอยู่เพื่อนร่วมห้องได้ยินเสียง ระเบิดพร้อมกับกลิ่นไหม้จึงเปิดประตูเข้ามาดูและพบว่าโทรศัพท์ระเบิดบนที่นอนและทิ้งรอยไหม้ไว้บริเวณเครื่องนอนและเสื่อ

ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์เดลี่เมล์ของอังกฤษ รายงานเมื่อวันศุกร์ (12 ก.ค.) ว่า น.ส.แฟนนี่ ชแลตเตอร์ ชาวสวิตเซอร์แลนด์วัย 18 ปี ซึ่งทำงานเป็นจิตรกร ฝึกหัดในอังกฤษ โดนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ยี่ห้อซัมซุง รุ่นกาแล็กซี เอส 3 ที่พกไว้ในกระเป๋ากางเกงระเบิดใส่ ส่งผลให้ขาขวา เป็นแผลเหวอะหวะ ผิวหนังไหม้ และเตรียม ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทซัมซุง

ด้านโฆษกบริษัทซัมซุง แถลงว่า จะนำโทรศัพท์ของน.ส.ชแลตเตอร์ มาตรวจสอบหาสาเหตุก่อน จึงจะดำเนินการ ขั้นต่อไปได้ และขอยืนยันว่าซัมซุงยังควบคุมมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัย เพื่อให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่พึงพอใจกับสินค้าอยู่เสมอ ทั้งนี้ เคยมีกรณีอุปกรณ์ซัมซุงระเบิดมาก่อนหน้านี้แล้วหลายครั้ง โดยเมื่อเดือนพ.ค. มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในเว็บไซต์เรดดิช อ้างว่า ซัมซุง กาแล็กซี เอส 3 ระเบิดเสียงดังสนั่น ส่งควันฟุ้งไปทั้งห้องนอน เจ้าของเครื่อง เทน้ำดับไฟ แต่มือถือทำให้ฟูกที่นอนไหม้และทำให้นิ้วโดนไฟลวก

ปัจจุบัน ทั้งแอปเปิล และซัมซุง ยังคงเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดสมาร์ทโฟน โลก โดยผลสำรวจ Strategy Analytics รายงานว่า จากผลการสำรวจช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมที่ผ่านมา ซัมซุง ยังคงเป็นบริษัทที่ครอง ตำแหน่งยอดขายสมาร์ท โฟนที่มากที่สุดในโลก มีมูลค่าถึง 23.62 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยเพิ่มขึ้น 952 ล้านเหรียญสหรัฐ จากไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนอันดับ 2 เป็นของ แอปเปิล ด้วยยอดขาย 22.95 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนอันดับ 3 เป็น ของโนเกียที่สามารถผงาดขึ้นมาอยู่อันดับต้นๆ ได้สำเร็จด้วยตัวเลข 3.64 พันล้านเหรียญสหรัฐ