อินเดียผ่อนกฎลงทุนต่างชาติn หวังดึงเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ

วันพุธที่ 07 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อินเดียผ่อนกฎลงทุนต่างชาติn หวังดึงเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ


อินเดีย คลายกฎดึงดูดนักลงทุนชาวต่างชาติในบางอุตสาหกรรม เพื่อ ที่จะดึงดูดเงินทุนเข้าประเทศ รวมทั้งฟื้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ พร้อม หนุนเสถียรภาพค่าเงินรูปีที่ร่วงลงแตะระดับต่ำเป็นประวัติการณ์

นายอนันต์ ชาร์มา รัฐมนตรีพาณิชย์ อินเดีย เปิดเผยถึงผลการหารือกับนายกรัฐมนตรีแมนโมฮัน ซิงห์ ของอินเดีย และสมาชิกสภาอาวุโสว่า รัฐบาลตัดสินใจผ่อน คลายระเบียบและยกเลิกกฎบางข้อเพื่อเปิดทางให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนอินเดียได้สะดวกมากยิ่งขึ้นในบางอุตสาหกรรม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งจะช่วยเสริมเสถียรภาพค่าเงินรูปี

สำหรับมาตรการที่ออกมาในครั้งนี้ รวมถึง การอนุมัติเพิ่มเพดานการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ในภาคโทรคมนาคม 100% จากเดิมที่ 74% พร้อมเพิ่มเพดานเงินทุนเอฟดีไอมาอยู่ที่ 49% จาก 26% รวมถึงเพดานการลงทุนในภาคประกัน ที่ขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 49% เช่นเดียวกัน แต่ยังคงรักษาเพดานการลงทุนในการผลิตด้านกลาโหมไว้เท่าเดิมที่ 26% และการผ่อนกฎการลงทุนในอุตสาหกรรมประกัน และการปลูกชาขณะที่ภาคกลั่นน้ำมัน ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และธุรกิจค้าปลีกจะยังคงเดิม

ขณะที่ทางเอิร์นเนสต์แอนด์ยัง บริษัท ที่ปรึกษาทางการเงินชื่อดัง คาดการณ์ว่า การผ่อนกฎครั้งนี้จะช่วยดึงดูดเงินลงทุนต่างชาติในระยะยาวได้มากถึง 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

รัฐบาลอินเดีย กำลังหาทางที่จะฟื้น ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของประเทศ ที่ขยายตัวช้าสุดในรอบทศวรรษ ที่ระดับ 5% พร้อมหนุนเงินรูปีที่อ่อนค่าลง ทำสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์หลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 61.25 รูปีต่อเหรียญสหรัฐ จนธนาคารกลางอินเดีย (อาร์บีไอ) ประกาศ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ซึ่งประกอบ ด้วยอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมข้ามคืนระหว่างธนาคารและอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานจาก ระดับ 8.25% สู่ระดับ 10.25% เพื่อหวังสกัดการอ่อนค่าของเงินรูปี ซึ่งการประกาศ แผนครั้งนี้ทำให้เงินรูปี แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 59.26 รูปีต่อเหรียญสหรัฐ

ขณะเดียวกัน การประกาศแผนปฏิรูป ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นายพี ชิตะบรม รัฐมนตรีคลังอินเดีย เดินทางไปเยือนสหรัฐฯ เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือนเมื่อ สัปดาห์ที่แล้ว เพื่อรับประกันต่อบรรดาบริษัทต่างชาติว่า อินเดียยังเป็นจุดหมาย ปลายทางสำหรับการลงทุนอยู่

หลังเมื่อปีที่แล้ว อินเดียมีมูลค่าการทำเอฟดีไอร่วงลงมาอยู่ที่ 22,400 ล้าน ดอลลาร์ จากระดับ 36,500 ล้านดอลลาร์ เมื่อปีที่แล้ว และในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ยังเกิดเหตุการณ์ที่สร้างความไม่พอใจให้กับนักลงทุนต่างชาติ หลังจากการที่ ปอส โก บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรม เหล็ก ของเกาหลีใต้ ประกาศถอนการลงทุน 5,300 ล้านดอลลาร์ ในการสร้างโรงถลุงเหล็ก ในรัฐคนาตกะ ทางตอนใต้ของประเทศ เพราะความล่าช้าในการเข้าถือครองพื้นที่ และการคัดค้านจากผู้คนท้องถิ่นด้วย

ทั้งนี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า อินเดียจำเป็นต้องได้เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทาง เศรษฐกิจ และลดตัวเลขขาดดุลบัญชีเดิน สะพัดจำนวนมหาศาลในขณะนี้ ซึ่งการที่จะปรับปรุงให้เกิดความน่าสนใจเข้าลงทุน กลับคืนมานั้น จำเป็นต้องลดขั้นตอนราชการ เร่งกระบวนการอนุมัติโครงการที่ล่าช้า และขจัดการคอร์รัปชันจำเป็นต้อง ได้เงินลงทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ขณะที่ธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย หรือ เอดีบี ยังได้ลดประมาณการเศรษฐกิจ อินเดียในปีนี้ลงเป็นครั้งที่สองด้วยที่ 5.8% จากที่เมื่อเดือนเมษายนคาดการณ์ว่าจะโต 6% เนื่องจากมีปัญหาด้านซัพพลายและมีความล่าช้าในการผลักดันการปฏิรูปโครงสร้าง


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ